เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 113

พรุ่งนี้ทุกคนจะหยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จึงยังไม่มีใครรีบร้อนเข้านอน ซูหว่านยังคงทำสบู่นมแพะอยู่แม้ฟ้าจะมืดแล้วก็ตามที นางให้ซูเฉินไปซื้อนมแพะมาสองถัง

ค่ำคืนนี้ ในที่สุดนางก็ได้สวมชุดใหม่ ไม่ต้องใส่ชุดเก่าที่กู้เย่ว์ทิ้งไว้อีกต่อไป อีกหน่อยเมื่อหาเงินได้ ค่อยไปสั่งตัดเพิ่มมาอีกสองชุดเอาไว้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน

ซูหว่านลองคิดเล่นๆ ว่า หากนำขนมข้าวซอยตัดไปขายที่หัวเมือง ก็น่าจะได้กำไรมากมาย

หลังปีใหม่ นางตั้งใจจะขยายตลาดสบู่นมแพะไปให้ถึงหัวเมือง จะได้มีรายได้มากขึ้น

เมื่อนางบอกความคิดนี้กับพวกพี่ๆ พวกเขาต่างก็เห็นด้วยกันอย่างเต็มที่

"ถึงตอนนั้นพวกเราก็เช่ารถม้า ทำขนมข้าวซอยตัดให้เยอะอีกหน่อย แล้วเอาไปขายที่หัวเมือง หัวเมืองเจริญขนาดนั้น ผู้คนก็มากมาย จะต้องขายดีแน่ๆ!"

ซูอวิ๋นเริ่มยกนิ้วขึ้นมานับเงินแล้ว

"อืม ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถึงตอนนั้น ข้าก็จะไปกับพวกพี่ๆ ด้วย ข้ายังไม่เคยไปหัวเมืองเลย!"

หัวเมืองก็เปรียบเสมือนเมืองใหญ่ในยุคปัจจุบัน จะต้องเจริญมากแน่ๆ นางอยากรู้ว่าจะแตกต่างกับถนนในอำเภอชิงเหอมากน้อยแค่ไหน

"ไม่น่าเป็นไปได้นะซูหว่าน เจ้าก็ไม่เคยไปหัวเมืองหรือ" ซูอวิ๋นรู้สึกแปลกใจ ตามหลักการแล้ว ธุรกิจของตระกูลกู้ใหญ่โตขนาดนั้น ซูหว่านน่าจะเคยไปมาก่อนถึงจะถูกสิ

วันปีใหม่ของทุกปี ที่หัวเมืองยังมีการจัดงานเทศกาลโคมไฟ บรรดาเจ้าที่ดินและเศรษฐีในอำเภอมักจะพาสมาชิกในครอบครัวไปเที่ยวเล่น

ซูหว่านเกือบจะลืมไปแล้วว่าในอดีตตัวเองเคยเป็นคุณหนูตระกูลกู้ จึงพลั้งปากพูดออกมาโดยไม่ทันคำนึงถึงรายละเอียดเหล่านี้

"เหมือนจะเคยไปนะ แต่ตอนนั้นยังเด็กมาก ข้าจำไม่ได้แล้ว!" ซูหว่านอ้างเหตุผลออกไปส่งเดช

ซูอวิ๋นเชื่อนาง จึงไม่ได้ซักไซ้ต่อไป แล้วก็พูดเสริมขึ้นอีกว่า

"วันปีใหม่ของทุกปี ที่หัวเมืองจะจัดงานเทศกาลโคมไฟ ได้ยินว่าสนุกมากเลย มีปริศนาโคมไฟให้ทาย มีการปล่อยโคมลอย ข้าก็อยากจะไปเที่ยวกับเขาสักครั้งบ้าง!" ในดวงตาของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความปรารถนา

"ถ้าอย่างนั้นในวันปีใหม่ พวกเราก็ไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟที่หัวเมืองกันทั้งครอบครัวเลยสิ!" ซูหว่านพูดจริงๆ อันที่จริงนางเองก็ชอบความคึกคัก

นางทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ที่นี่อยู่ในยุคสมัยโบราณ นางสนใจในวัฒนธรรมสมัยเก่าเป็นทุนอยู่แล้ว จึงใคร่รู้ในทุกสิ่งอย่าง และอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง

นอกจากนี้ ไหนๆ ก็มาแล้วทั้งที ครั้นจะไม่เข้าร่วมงานเทศกาลดูความคึกคักสักหน่อย ก็ออกจะน่าเบื่อไปนิด

เมื่อพูดว่าจะไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟที่หัวเมือง ซูอวิ๋นถึงกับตาลุกวาว

เขาผุดลุกยืนตัวตรงต่อหน้าซูหว่าน แล้วยังโค้งคำนับให้ซูหว่านอีก

หากใครไม่รู้ คงคิดว่าเขาถูกผีเข้า

"ขอโทษนะซูหว่าน พี่ขอโทษสำหรับทุกคำพูดและการกระทำที่เคยทำกับเจ้า เป็นเพราะพี่ไม่รู้จักเจ้าดีพอ ดาดเดาไปเอง ทั้งยังพูดจาทำร้ายความรู้สึกของเจ้าเสมอมา พี่ผิดเอง ยกโทษให้พี่ด้วยนะ!"

เขาหลับตา พลางพ่นคำพูดเหล่านี้ออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อพูดจบ ในใจก็รู้สึกสบายขึ้น

อันที่จริงซูหว่านเองก็ไม่ได้ถือสา นางมองซูอวิ๋นเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงต่อต้านเท่านั้น

เด็กวัยเดียวกับเขาในยุคปัจจุบัน มีคนดื้อรั้นกว่าเขามากมาย เขาก็แค่ปากไม่ดีเท่านั้น แต่จิตใจดีงามมากเลยทีเดียว

ดูจากคำพูดในวันนั้นก็รู้แล้ว คำที่เขาพูดว่า

‘ถึงแม้จะบอกว่า เมื่อออกเรือนไปแล้ว สตรีก็ต้องเชื่อฟังสามี แต่ผู้หญิงก็ไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็น หากผู้ชายคนหนึ่งรักภรรยาของเขาจริง ภรรยาของเขาจะทำอาหารเป็นหรือไม่ก็ไม่ได้สำคัญอะไร’

[1] เหมือนลูกโป่งลมรั่ว สำนวนนี้ใช้เปรียบเปรยถึงภาวะหมดพลังงาน หมดกำลังใจ หมดเรี่ยวแรง หมดสนุก หรือไม่มีชีวิตชีวา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม