นางเข้ามาเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว พี่ชายทั้งสองยังคงรออยู่ด้านนอก ในเมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง นางก็ควรจะกลับได้แล้ว
“พี่ใหญ่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง!”
“เรื่องอะไรหรือ” หลังจากผ่านเรื่องเมื่อครู่นี้มา ซูจิ่งจึงให้ความสำคัญกับทุกเรื่องที่ซูหว่านพูด
“คือข้ากับพี่ๆ วางแผนจะไปขายขนมข้าวซอยตัดที่หัวเมืองสักครั้งก่อนวันขึ้นปีใหม่ แล้วจะถือโอกาสไปเที่ยวงานเทศกาลโคมไฟที่หัวเมืองด้วย พวกเรายังไม่เคยได้ไปกันเลยสักครั้ง อยากจะไปเปิดหูเปิดตา พี่ใหญ่จะมาด้วยกันไหม
เห็นว่าใกล้จะสอบแล้ว พี่ใหญ่น่าจะเครียด ควรจะไปพักผ่อนบ้างนะ!”
ซูหว่านอยากจะชวนซูจิ่งไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟในช่วงปีใหม่ด้วยกัน ถัดจากวันขึ้นปีใหม่ไปไม่ถึงครึ่งเดือน ก็จะเป็นวันตรุษ[1]แล้ว นางพยายามรั้งให้พี่ใหญ่พักอยู่ที่บ้านไปจนถึงวันตรุษ ไม่ให้เขากลับไปที่สำนักศึกษา เช่นนี้แล้ว แผนชั่วของพวกจ้าวซีอวิ๋นก็จะไม่สำเร็จ
เพียงแต่นางต้องใช้กลยุทธ์ทุกข์กายสักหน่อย ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะรั้งพี่ใหญ่ไว้ไม่ได้
นางไม่สามารถพูดความจริงออกมาได้ แบบนั้นไม่มีใครเชื่อแน่
“ทำไมจู่ๆ ถึงอยากไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟกันล่ะ ท่านพ่อท่านแม่จะเห็นด้วยหรือ” สมกับที่เป็นพี่น้องของซูอวิ๋น ทั้งสองพูดเหมือนกันเป๊ะ
“พี่สี่อยากไป พี่ห้าก็อยากไป พวกเราทุกคนอยากไป หลักๆ ก็คือพวกเราไม่เคยเห็นโลกกว้าง อยากไปดูความคึกคักบ้าง แล้วช่วงเทศกาลโคมไฟ ผู้คนจากตำบลอำเภอใกล้ๆ ใครๆ ก็มาเที่ยวดูโคมที่หัวเมือง โอกาสดีๆ ขนาดนี้ มีหรือจะไม่รีบคว้าโอกาสทำเงินก้อนใหญ่!”
การเที่ยวเป็นเรื่องรอง การหาเงินก็เป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือต้องการล่อให้พี่ใหญ่ออกจากสำนักศึกษา
ในเวลาเดียวกันนี้เอง จู่ๆ ซูอี้ที่นั่งอยู่ที่บ้านก็จามออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนเจียงอวี้ที่กำลังวาดรูปอยู่ด้วยกันถึงกับถามว่าเขาเป็นหวัดหรือเปล่า
ซูอี้ส่ายหน้า บอกว่าแค่คันจมูกเล็กน้อย
เขาไม่เคยบอกว่าตัวเองก็อยากไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟ แต่แน่นอน ในใจเขาก็อยากไป
“แต่การสอบใกล้เข้ามาทุกขณะ พี่ควรเอาเวลาไปเตรียมตัวไม่ดีกว่าหรือ” ซูจิ่งลังเลเล็กน้อย
“ไม่เสียเวลาหรอก ไปเปิดหูเปิดตาไม่ถือว่าเสียเวลา ความรู้ในตำรามันตายตัวเกินไป ทุกสิ่งที่มองเห็นคือความรู้ พี่ใหญ่เชื่อข้าเถอะ การไปเที่ยวครั้งนี้ไม่เสียเปล่าแน่นอน!”
ซูหว่านตั้งใจแน่วแน่ที่จะลากเขาไปด้วย นางเขย่าแขนอ้อนวอนราวกับกำลังออดอ้อน
ซูจิ่งทนอาการออดอ้อนของนางไม่ไหว จึงยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะดีดหน้าผากของนางเบาๆ
“เจ้านี่นะ แพ้ใจเจ้าจริงๆ พี่ใหญ่ยอมแล้วนี่ไง”
“คำไหนคำนั้นนะ พี่ใหญ่ขอลาหยุดจากสำนักศึกษาล่วงหน้าสามวันเลยดีไหม”
“อย่าลืมเอาพู่กันกระดาษหมึกแล้วก็ตำราที่จะอ่านกลับมาด้วย จะได้อ่านหนังสือที่บ้านได้!” แต่ละถ้อยคำของซูหว่านเต็มไปด้วยแผนการ แต่ซูจิ่งเอ็นดูน้องสาว จึงไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่น้อย
“ได้เลย! พี่จะทำตามเจ้าทั้งหมดเลย!”
“ห้ามคืนคำนะ ถ้าพี่ใหญ่ไม่ทำตามคำพูด ข้าจะโกรธจริงๆ ด้วย!” ซูหว่านแกล้งทำหน้าบึ้ง ทำท่าทางราวกับผลลัพธ์ที่ตามมาจะร้ายแรงมาก
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...