เมื่อเห็นลูกชายมารอ แม่ซูก็รู้สึกอบอุ่นใจ บางทีนี่อาจจะเป็นข้อดีของการมีลูกมากก็ได้
“อาเฉิน เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“ท่านแม่ หวานหว่านให้ข้ามารอรับพวกท่าน พวกน้องๆ เตรียมกับข้าวรอพวกท่านอยู่ที่บ้านแล้ว นี่เป็นน้ำกับของกินที่หวานหว่านเตรียมไว้ให้ท่านพ่อท่านแม่รองท้อง!” ซูเฉินไม่เคยแย่งความดีความชอบ เขาต้องการให้ท่านพ่อท่านแม่ได้รู้จักหวานหว่านมากขึ้น
เพื่อให้พวกเขาได้รู้ว่าลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขาเป็นคนกตัญญู
“หวานหว่านน่ารักจริงๆ คำที่ว่าลูกสาวรู้จักเอาใจ ไม่ผิดเลย!” แม่ซูรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมาก ถ้าพูดจากใจแล้ว เย่ว์เย่ว์ยังละเอียดอ่อนไม่เท่าหวานหว่านเลย
“ใช่แล้ว หวานหว่านรู้ว่าพวกท่านจะกลับบ้าน ก็เลยซื้อไก่ ซื้อปลา แล้วก็ซื้อเนื้อด้วย อยากให้พวกท่านกลับไปกินข้าวดีๆ ด้วยกัน แถมยังตัดผ้าเตรียมฝ้ายให้พวกท่านทำชุดกันหนาวไว้ใส่ฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยกัน!”
ซูเฉินแทบอยากจะพูดความดีงามของซูหว่านออกมาทั้งหมด
ได้ยินเรื่องราวต่างๆ ของลูกสาว ในใจของพ่อซูแม่ซูเกิดอารมณ์หลากหลาาย ยามนี้เมื่อตรึกตรองดู พวกเขาติดค้างนางจริงๆ ต่อไปต้องพยายามชดเชยความรักระหว่างพ่อแม่กับลูกที่ขาดหายไปให้นางมากขึ้น
แม่ซูถึงกับน้ำตาคลอ เมื่อนึกถึงอดีต ตอนที่ความจริงเปิดเผย ทุกอย่างกะทันหันจนทำให้นางไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร เมื่อลูกสาวแท้ๆ กลับมา แม่ซูกลัวว่านางจะดูถูกฐานะของครอบครัว กลัวว่าจะถูกต่อว่า จึงพยายามหลีกเลี่ยง
“ท่านแม่ ไม่ร้อง เดี๋ยวข้าจะเล่าเรื่องราวในบ้านระยะนี้ให้ฟัง!”
ตลอดทาง ซูเฉินเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวให้ท่านพ่อท่านแม่ฟังอีกครั้ง รวมถึงเรื่องที่ซูอวิ๋นขายขนมข้าวซอยตัดได้เงินเกือบหนึ่งร้อยตำลึงด้วย
ยังมีเรื่องที่เจียงอวี้ยังคงพักอยู่ที่บ้าน ตอนที่ไปเหมืองก่อนหน้านี้ เขาเคยเล่าเรื่องที่ซูหว่านและซูมู่ช่วยชีวิตคนไปแล้วคร่าวๆ จึงย้ำเตือนเพื่อให้พวกเขาสุภาพกับเจียงอวี้เมื่อกลับถึงบ้าน อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็จ่ายเงินเพื่อแลกกับการอยู่บ้านตระกูลซูต่อ แถมยังช่วยเหลือพวกเขาพี่น้องอยู่บ่อยครั้ง ยามนี้พวกเขาถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จึงต้องให้เกียรติอีกฝ่ายด้วย
พ่อซูและแม่ซูเป็นคนมีน้ำใจ รู้กาลเทศะ ต่างก็เข้าใจในหลักการนี้ดี
เมื่อมาถึงหมู่บ้าน ลานบ้านของพวกเขามีควันไฟลอยขึ้นมา ซูหว่านยืนอยู่สุดทางเล็กๆ โบกมือทักทายพวกเขาแต่ไกล
นางมีพ่อแม่และพี่ชาย หลังจากนี้จะไม่เหงาอีกแล้ว
“ท่านพ่อท่านแม่ ยินดีต้อนรับกลับบ้านเจ้าค่ะ!”
เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ซูหว่านก็เรียกพวกเขาเสียงหวาน
พ่อซูแม่ซูรีบตอบรับ พ่อซูเดินเข้ามาพินิจมองลูกสาวหนึ่งรอบ สมแล้วที่เป็นลูกสาวของเขา หน้าตาหมดจดงดงาม คนเป็นพ่อก็รู้สึกภูมิใจ
“เด็กดี คงเหนื่อยแย่เลย ดูผอมลงนะ!”
อันที่จริงซูหว่านไม่ได้ผอมลง แต่ในสายตาของผู้ใหญ่ คำว่า ‘ผอมลง’ คือคำทักทายว่า ‘ไม่ได้เจอกันนานเลย’



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...