“ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก คุณชายเจียงตามสบายเถอะ!”
เจียงอวี้ไม่ได้เกรงใจอะไร แต่พ่อซูแม่ซูต่างหากที่รู้สึกเกรงใจ ทั้งๆ ที่อยู่ในบ้านของตัวเองแท้ๆ
“ท่านลุงท่านป้าอย่าได้ทำตัวห่างเหินไปเลย เรียกข้าว่าเจียงอวี้ก็ได้ ข้าเป็นสหายกับพี่น้องตระกูลซู แล้วก็เป็นมิตรที่ดีกับหวานหว่าน คงต้องขอรบกวนพวกท่านไปอีกสักระยะหนึ่ง ท่านลุงท่านป้าต่างหากที่ควรจะตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก!”
“เอ่อ ได้เลย คุณชายเจียงรีบเข้าไปนั่งเถอะ!”
ถึงจะบอกว่าตามสบาย แต่ความจริงแม่ซูก็ยังเกร็งอยู่บ้าง มือไม้ไม่รู้จะวางตรงไหน
“เอาล่ะ ท่านพ่อท่านแม่รีบเข้าไปข้างในเถอะ!” ซูหว่านคล้องแขนแม่ซู ดึงนางเข้าไปข้างใน
ห้องของนางและพ่อซูถูกจัดเตรียมไว้อย่างสะอาดเรียบร้อย ผ้าปูที่นอนก็เปลี่ยนชุดใหม่ บนเตียงในห้องมีผ้าใหม่และฝ้ายที่ซูหว่านซื้อมาให้พวกเขาวางอยู่
“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าไม่รู้ขนาดที่แน่นอนของพวกท่าน จึงยังไม่ได้ให้คนตัดขึ้นมาเป็นชุด แต่พี่ห้าบอกว่าท่านแม่เย็บเสื้อผ้าได้ ก็เลยซื้อแค่ผ้ากับฝ้ายกลับมา!” ซูหว่านอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างชัดเจน
“เด็กดี มีน้ำใจก็พอแล้ว แม่ชอบมาก!” เมื่อเห็นว่าผ้าผ่อนที่ลูกสาวซื้อมาถูกใจตัวเอง ในใจก็อบอุ่นขึ้นอีกหลายส่วน
“เตรียมตัวกินข้าวได้แล้ว ท่านพ่อท่านแม่ เดินทางมาทั้งวันคงเหนื่อยแย่แล้ว!”
พี่ห้าซูอี้เข้ามาเรียกพวกเขา แม่ลูกสองคนวางของแล้วก็ไปที่เรือนหลักเพื่อกินข้าว
บนโต๊ะ ซูอวิ๋นนำไก่แก่ไปตุ๋นเป็นน้ำแกง แล้วก็ยังมีหมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดง ปลาน้ำแดง เต้าหู้ทอด และผัดผักกาดขาว แล้วก็ยังตักหัวไชเท้าดองจากไหมาเป็นเครื่องเคียง
เมื่อนั่งลงแล้ว ซูอวิ๋นก็ตักน้ำแกงไก่ให้ท่านพ่อท่านแม่ก่อน ซูหว่านก็คีบน่องไก่ให้พวกเขาคนละชิ้น
แต่แม่ซูคีบน่องไก่คืนให้ซูหว่าน ให้นางกิน
“น่องไก่นี่สำหรับเด็กๆ อย่างพวกเจ้า ผู้ใหญ่ไม่กินหรอก!”
“ท่านแม่ พวกเราไม่ใช่เด็กๆ แล้ว วันนี้แม่กับพ่อต่างหากที่เป็นคนสำคัญ ลำบากมามากแล้ว หลังจากนี้ก็อยู่บ้านพักผ่อนให้สบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องหาเลี้ยงครอบครัวอีกแล้ว!”
ซูหว่านส่งขาไก่คืนให้แม่ ยิ้มให้แม่ด้วยความจริงใจ
พ่อซูแม่ซูมองหน้ากัน แล้วก็พยักหน้า ยิ้มด้วยความพอใจที่เห็นลูกๆ เข้าใจความรู้สึกดีขนาดนี้
ตอนนี้ถือว่าความลำบากผ่านพ้นไปแล้ว เป็นเวลาของความสุข ลูกๆ แต่ละคนก็เป็นเด็กดี
“ก็ได้ วันนี้แม่กับพ่อของพวเจ้าจะทำตัวเป็นเด็กก็แล้วกัน!”
ท้ังสองกินน่องไก่กับน้ำแกงโดยไม่อิดอดอีก แล้วยังไม่ลืมชวนเจียงอวี้พูดคุย
เขามองซูหว่าน แกล้งเลิกคิ้วใส่นาง เป็นนัยว่าขอบคุณนาง
“รู้สึกว่าอร่อยกว่าเมื่อก่อนมากเลย รสชาติก็เข้มข้นขึ้น เด็กๆ ช่างมีคิดความสร้างสรรค์ พ่อกับแม่แก่แล้วจริงๆ!”
แม่ซูถอนหายใจออกมาจริงๆ รู้สึกว่าแค่ไม่ได้กลับบ้านมาระยะเดียว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไป
ชีวิตดีขึ้นอย่างกะทันหันภายในไม่กี่เดือน ทั้งหมดนี้ก็เกี่ยวพันกับลูกสาวแท้ๆ ที่เพิ่งกลับมาคนนี้
“ท่านพ่อท่านแม่ยังไม่แก่สักหน่อย ยังหนุ่มยังสาวอยู่เลย!”
ซูหว่านพูดจริงๆ อายุสี่สิบต้นๆ ไม่ถือว่าแก่เลย ยังหนุ่มสาวมากในสายตาของคนยุคใหม่อย่างนาง
“หวานหว่านปลอบใจเก่งจริงๆ” แม่ซูค้อนนางเบาๆ
นางนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อแม่ ทุกคนคอยตักกับข้าวให้นาง ภาพที่คนในครอบครัวล้อมรอบนางเช่นนี้ นางไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลย
คนในครอบครัวนั่งผ่อนคลาย แสงไฟก็ดูอบอุ่นสบายตา สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่แค่เพียงนางผู้เดียว ในที่สุดนางก็เข้าใจความรู้สึกของกู้เย่ว์ หากเป็นนางเอง ก็คงกลายเป็นพวกขี้อิจฉาเหมือนกัน
ต่อให้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแท้ๆ แต่ความรักใคร่เอ็นดูและความใส่ใจที่เคยเป็นของตัวเองถูกเปลี่ยนมือ จะบอกว่าไม่เสียใจเลยก็คงไม่ใช่ ทว่าความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ นางจะไม่ทำตัวต่ำทรามเพื่อเรียกร้องความสนใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...