แม่ซูยืนยืนขวางอยู่หน้าซูหว่าน สายตาแน่วแน่จริงจัง
“นั่นสิ พวกนางไม่เห็นเหมือนกับคนทำการค้าเสียหน่อย แล้วเจ้าคิดจะเจรจาการค้า ทำไมต้องมาเจรจากับแม่ลูกคู่นี้ด้วย”
คนรอบข้างที่ใจกล้าสักหน่อยก็เริ่มพูดจาเสียดสีแดกดันขึ้นมาบ้าง
“ก็แม่นางน้อยคนนี้หน้าตาดีนี่นา จะเป็นเพราะอะไรไปได้ล่ะ คนผู้นี้ก็คือคุณชายตระกูลหวัง การค้าของเขาเป็นรองแค่ตระกูลกู้เท่านั้น อีกนิดเดียวก็เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งแล้ว หลังบ้านของเขาน่ะยังมีอนุอีกตั้งหกเจ็ดคน ไม่ต้องบอกพวกเจ้าก็คงรู้นะว่าได้มายังไง!” ชายคนหนึ่งพูดเสียงดัง บังเอิญว่าเสียงของเขาก็ดังพอที่จะทำให้ซูหว่านและแม่ได้ยิน กระทั่งคนอื่นๆ ที่มุงอยู่ก็ได้ยินด้วย
แม่ซูได้ยินก็ตกใจจนเสียขวัญ ใบหน้าซีดเผือด กำมือลูกสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม
แต่ซูหว่านกลับยังคงสงบ นางตบมือแม่ซูเบาๆ เพื่อปลอบใจ “ท่านแม่ ไม่ต้องกลัว กลางวันแสกๆ แบบนี้ เขาไม่กล้าทำอะไรหรอก!”
คุณชายหวังได้ยินดังนั้น ก็รีบกวาดตามองหาชายคนที่พูดในฝูงชน แต่ชายคนนั้นกลับวิ่งหนีไปแล้ว ราวกับว่าเขาตั้งใจมาเพื่อพูดแบบนี้
เมื่อต้องเผชิญกับเสียงซุบซิบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของคุณชายหวังก็ดูจะไม่สู้ดีนัก
จากนั้นเขาก็กลอกตาไปมา แล้วจ้องมองซูหว่านอย่างมีเลศนัย
“วันนี้ทำให้คุณหนูตกใจแล้ว ในเมื่อคุณหนูไม่สะดวก วันหน้าข้าจะนำของขวัญไปขอโทษด้วยตัวเอง ถึงเวลานั้นพวกเราค่อยเจรจารายละเอียดเรื่องการค้ากันอีกที” เขาทำท่าโค้งคำนับอย่างเสแสร้ง แล้วหลีกทางให้สองแม่ลูกเดินจากไป
แม่ซูเห็นดังนั้น ก็รีบจูงซูหว่านวิ่งหนีไปทันที ราวกับอยากจะหนีออกจากสถานที่ที่มีปัญหาแห่งนี้ให้เร็วที่สุด
ภายในโรงน้ำชาข้างๆ กู้เย่ว์นั่งดื่มชาอยู่บนชั้นสอง เมื่อเห็นพวกนางวิ่งหนีไปแล้ว นางถึงยิ้มออกมาได้
บ่าวรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามารายงาน คนผู้นี้ก็คือคนที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่บนถนนเมื่อครู่นี้
“คุณหนู ข้าทำตามคำสั่งของท่าน ช่วยคุณหนูซูแก้ไขปัญหาแล้วขอรับ!”
“เจ้าพูดว่าอย่างไรบ้าง”
กู้เย่ว์ได้ยินไม่ถนัดนักจากข้างบน จึงซักไซ้ถามเขาอย่างละเอียด เมื่อครู่ตอนที่เห็นแม่ซูและซูหว่านถูกคุณชายหวังจอมรุ่มร่ามขวางไว้ นางก็รู้แล้วว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ จึงรีบส่งบ่าวรับใช้ลงไปหาโอกาสแก้ไขสถานการณ์ให้พวกนาง
“อิ้งหง เจ้ามีความคิดแบบนี้ได้อย่างไร ข้ากับซูหว่านไม่สนิทกันก็จริง แต่ก็ไม่ได้คิดร้ายกับนางถึงขนาดให้ไปเป็นอนุของใคร อีกอย่าง ถ้าเกิดคุณชายหวังต้องการคิดบัญชีขึ้นมาจริงๆ ก็จะทำให้คนอื่นๆ ในตระกูลซูต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย พวกพี่ชายก็คงไม่ปล่อยให้นางถูกพรากไปโดยไม่ดูดำดูดีหรอก ถึงเวลานั้นก็คงหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้งไม่ได้ แม้ทุกคนจะไม่พอใจกับเรื่องที่ข้าถูกสลับตัวกับซูหว่าน แต่ก็ไม่ควรทำร้ายนางถึงขนาดนั้น!”
กู้เย่ว์บิดผ้าเช็ดหน้าในมือ รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดแล้วจิตใจของคนที่เคยเป็นนางเอกก็ไม่ได้ชั่วร้ายถึงขนาดนั้น หรืออาจจะพูดได้ว่า นางยังไม่ได้เกลียดซูหว่านถึงขั้นนั้น
นางกลัวมากกว่าถ้าเรื่องราวไปถึงขั้นนั้น แล้วคนในตระกูลซูรู้เข้า ว่าความหวังดีของนางทำให้เรื่องราวเลวร้ายลง พวกเขาจะยังให้อภัยนางได้อีกหรือไม่
เฉินอิ้งหงเองก็ตระหนักได้ว่าตัวเองได้เผอเผยธาตุแท้ออกมา คำพูดของตัวเองไม่เหมาะสมจริงๆ
ยิ่งตอนนี้ นางมีตำแหน่งเป็นสาวใช้ข้างกายที่ดูดีมีหน้ามีตาของกู้เย่ว์ จวนกู้ยังปฏิบัติต่อนางอย่างสุภาพเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกับกู้เย่ว์ นางจะถูกกู้เย่ว์ตีตัวออกห่างเพราะเรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าถูกไล่ออกแล้วจะทำอย่างไร
ครั้นแล้ว เฉินอิ้งหงจึงรีบคุกเข่าลง แล้วดึงแขนอ้อนวอนขอร้องกู้เย่ว์ “เย่ว์เย่ว์ ข้าก็แค่อยากช่วยเจ้าระบายความคับข้องใจ ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น ข้าไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ”
“เอาล่ะ ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ตำหนิเจ้าหรอก!” กู้เย่ว์ดึงเฉินอิ้งหงให้ลุกขึ้น
นางนั่งกุมขมับ นางเกลียดซูหว่านที่แย่งความรักจากพวกพี่ชายไป ครั้งก่อนที่กลับไปที่บ้านตระกูลซู นางก็ไม่ค่อยลงรอยซูหว่านสักเท่าไร แต่นางก็ไม่สามารถทนเห็นซูหว่านไปเป็นอนุของคุณชายหวังได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...