เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 132

ว่าด้วยเรื่อง ‘น้ำเสียงที่สงบจะพูดออกมาให้เย็นยะเยือกที่สุดได้อย่างไร’ ตอนนี้ เจียงอวี้กำลังสาธิตให้เห็นอยู่

เป็นไปตามคาด เมื่อหัวขโมยได้ยิน ในแววตาก็สาดประกายความหวาดกลัวออกมาอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้

“ก็ได้ งั้นเจ้าสอบสวนไปเลย ฝากด้วยนะคุณชายเจียง!” พ่อซูไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร จึงยกให้เป็นหน้าที่ของเจียงอวี้

“ยินดีขอรับ ไม่ต้องเกรงใจ”

เจียงอวี้ยิ้มตอบ แล้วเหลือบมองซูหว่านอย่างมีความหมาย

ซูหว่านไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร นอกจากนี้ตอนนี้ความคิดของนางก็อยู่กับเรื่องของหัวขโมยคนนี้ทั้งหมด ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย

เจียงอวี้ขยับเข้าไปดึงผ้าออกจากปากของหัวขโมย แล้วโยนทิ้งลงพื้น ก่อนจะลากเก้าอี้หนึ่งตัวมานั่งลงตรงหน้าเขา ใบหน้าเคร่งขรึมอย่างที่สุด

“พูดมา! ผู้ใดเป็นคนบงการเจ้ามา!”

“ไม่มีใครบงการ!”

ยังจะปากแข็งไม่ยอมพูดอีก แต่คนที่เขากำลังเผชิญอยู่คือเจียงอวี้ ผู้มีวิธีนับหมื่นที่จะทำให้อีกฝ่ายยอมเปิดปาก

“เจ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังคงปกป้องนายอยู่อีกหรือ ให้ข้าเดานะ เจ้าคงจะเป็นนักพนันใช่ไหม ติดหนี้ไม่น้อยเลยล่ะสิ”

คนร้ายได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตะลึงเหลือเชื่อออกมา คิดในใจว่าเขารู้ได้อย่างไร

“ที่นิ้วชี้และนิ้วโป้งของเจ้ามีรอยด้าน รอยด้านบนนิ้วโป้งหนากว่านิ้วชี้ นั่นเป็นเพราะการลูบตัวเลขบนไพ่มานานหลายปี นิ้วหัวแม่มือจะเป็นตัวรับแรงมากที่สุด รอยด้านจึงหนาที่สุด ข้าเคยพบเจอนักพนันมามากมาย นิ้วของพวกเขาก็เป็นแบบเดียวกับเจ้า แล้วเจ้ายังเป็นคนถนัดซ้าย เพราะรอยด้านเหล่านี้อยู่บนปลายนิ้วข้างซ้ายทั้งหมด เมื่อกี้ตอนที่ข้าจับเจ้า เจ้าก็ยังคงเคยชินกับการใช้มือซ้ายออกมาปัดป้องก่อน!”

เจียงอวี้มีสายตาเฉียบคมมาก พ่อซูแม่ซูหันมองหน้ากันอย่างงุนงง ซูหว่านเองก็รู้สึกประหลาดใจ จึงเริ่มตั้งใจฟังอย่างละเอียดว่าเขาจะสอบสวนต่อไปอย่างไร

“ใช่ ข้าเป็นนักพนัน ติดหนี้ไม่น้อย เลยมาขโมยของ!” หัวขโมยผีพนันคนนี้ยอมรับเร็วจริงๆ

“แต่เจ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้ แล้วใครเป็นคนบอกข่าวนี้ให้เจ้าล่ะ” เจียงอวี้ยังคงจี้เขาต่อไป

แต่เจ้าหัวขโมยคนนี้กลับผงะไปเล็กน้อย ริมฝีปากพะเงิบพะงาบไม่รู้จะพูดอะไรดี เดาว่าคงไม่รู้ว่าจะแถไปทางไหน

“ไม่ตีหรอก แต่ถ้าเจ้ากล้ามีลูกไม้ละก็ อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจนะ พูดตามตรง ข้าเป็นผู้ฝึกวิทยายุทธ์ รู้ดีที่สุดว่าตีตรงไหนถึงจะเจ็บที่สุด!”

เรื่องนี้เขาไม่ได้พูดเล่น ผู้ฝึกยุทธ์โดยทั่วไปจะทำร้ายคนได้รุนแรงและเจ็บปวดกว่าคนทั่วไปมาก

“ก็ได้ ข้าพูด มีตาแก่คนหนึ่งในหมู่บ้านของพวกเจ้านี่แหละ แต่แซ่อะไรนี่ข้าไม่รู้แล้ว ตอนที่ข้าออกมาจากบ่อน เขาก็ตรงรี่มาหาข้า บอกว่าบ้านของพวกเจ้าทำการค้า ในบ้านมีเงินเก็บเป็นร้อยตำลึงเชียว เงินก้อนนี้จะช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนของข้าได้ แถมพวกเจ้าก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา จัดการได้ง่ายมาก เขายังบอกอีกว่าจะช่วยข้าเปิดทาง เงินที่ขโมยมาได้ เขาจะไม่เอาเลยซักอีแปะเดียวด้วย”

เจ้าหัวขโมยสารภาพหมดเปลือก แต่เขาไม่รู้จักชื่อแซ่ของคนผู้นั้น นักพนันที่ถูกบีบจนหมดหนทาง เมื่อถูกคนหลอกล่อ ก็ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

“เขายังเอายาสลบให้ข้าห่อหนึ่งด้วย บอกให้กลางดึกข้าค่อยปีนกำแพงเข้ามา แล้วเป่ายาสลบให้พวกเจ้าหมดสติ จากนั้นค่อยขโมยเงิน แต่ก็กำชับไว้ว่าอย่าทำร้ายพวกเจ้า ข้าว่าสุนัขของพวกเจ้า ก็น่าจะเป็นเขาที่วางยาพิษล่วงหน้า”

“คนผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร”

เมื่อฟังถึงตรงนี้ พ่อซูก็นั่งไม่ติด ลุกขึ้นไปกระชากคอเสื้อของหัวขโมย

“สูงพอๆ กับเจ้านี่แหละ แต่อ้วนกว่ามาก อายุใกล้เคียงกัน ถึงแม้เขาจะปิดบังใบหน้า แต่ข้าก็จำได้ว่าที่หลังหูของเขามีไฝดำเล็กๆ เม็ดหนึ่ง เล็กมากจนถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็มองไม่เห็น!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม