คำพูดทั้งหมดของแม่เจ่าฮวา แต่งเรื่องได้ไม่เลวจริง ๆ ทั้งบรรลุเป้าหมายของตัวเอง ยังแสดงท่าทีว่าตัวเองเสียเปรียบมาก ใช้ข้ออ้างความรักที่ฝังแน่น ยัดเยียดลูกสาวของตัวเองอยู่ตรงนี้
เมื่อเป็นแบบนี้ พวกเขาก็เปิดเผยความคิดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
ที่แท้ พวกเขาลงทุนลงแรงขนาดนี้ ยอมเสี่ยงสูงก็เพื่อถือโอกาสแสดงน้ำใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายนี่เอง
แม่ซูอดไม่ได้ที่จะทำเสียงขึ้นจมูก
“เรื่องการแต่งงานของอาจิ่งเรา เดิมพวกเราไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง ทั้งหมดต้องดูว่าเขาเต็มใจ อีกอย่าง ครอบครัวเรายากจน ใช้ชีวิตไม่หรู หากเจียวหลันของพวกเจ้าแต่งงานเข้ามา เกรงว่าจะใช้ชีวิตลำบาก!”
“ไม่กลัวมีชีวิตลำบาก พวกเราเชื่อว่าอาจิ่งจะปฏิบัติกับนางอย่างดีก็พอ อีกอย่างเรื่องการแต่งงานของลูก ๆ ล้วนเป็นคำพูดของพ่อแม่กับแม่สื่อ ขอแค่พวกเจ้าพยักหน้าตกลง คิดว่าอาจิ่งจะไม่มีความเห็นอย่างแน่นอน!” แม่เจ่าฮวาพยายามต่อสู้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็จะให้ลูกสาวแต่งงานด้วย
“ครอบครัวเราไม่สนใจการแต่งงานคลุมถุงชน ขอแค่พวกเด็ก ๆ ชอบก็พอแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ยังต้องถามตัวอาจิ่งว่ายินดีหรือไม่ หากเขาไม่ยินดี พวกเราที่เป็นพ่อแม่ก็จะไม่บังคับเขา นอกจากนี้ ตอนนี้เขากำลังตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ยังสอบไม่ติดได้ตำแหน่ง ความคิดของเขาไม่อยู่ในเรื่องความรักชายหญิง ดังนั้น...”
“ดังนั้นเรื่องนี้ก็ช่างเถอะ ครอบครัวเราก็ไม่ต้องการของพวกเจ้าแล้ว!”
แม่ซูพูดไม่ทันจบ จู่ ๆ พ่อซูก็พูดแทรกขึ้น เขามองผู้ใหญ่บ้านเหอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มองจนเขารู้สึกหวั่นใจ
“จะช่างมันได้อย่างไร อาจิ่งต้องเดินทางไปสอบ จำเป็นต้องใช้เงิน เจียวหลันเราก็หน้าตาดี ทั้งขยันขันแข็ง หลายปีนี้บ้านเราก็ช่วยเหลือบ้านพวกเจ้าไม่น้อย เกี่ยวดองเป็นญาติกันดีจะตาย เพิ่มความสนิท อาจิ่งของพวกเจ้ากับเจียวหลันเราก็ถือว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ญาติที่ดีขนาดนั้น ทั้งทำให้เด็ก ๆ สมใจปรารถนา ยังคลี่คลายปัญหาตอนนี้ได้ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย!” แม่เจ่าฮวาเห็นพวกเขาปฏิเสธ ก็เริ่มร้อนใจ คำพูดไหลเหมือนน้ำ ปิดบังความทะเยอทะยานของนางไม่มิด
“ท่านป้าเจ่าฮวา ข้าไม่เห็นด้วยกับคำนี้!” ซูหว่านโกรธจนแค่นหัวเราะ
“ข้อแรก พี่ใหญ่ข้ากับพี่เจียวหลันไม่ถือว่าใจตรงกัน ส่วนรู้จักกันตั้งแต่เด็กก็ไม่ถูกต้องนัก มากสุดก็ถือว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน พี่ใหญ่ข้าออกไปเล่าเรียนแรมปี ไม่ได้รู้จักกับเจียวหลันมากนัก ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความรัก อีกอย่างภรรยาที่พี่ชายข้าจะแต่งงานด้วยในอนาคต จะต้องเป็นคนอ่อนโยนมีคุณธรรมสูง เข้าใจสี่ตำราห้าคัมภีร์ และเป็นคนจิตใจดีมีเหตุผล เก่งทั้งในบ้านและนอกบ้าน ยังต้องขยันอดออม ไม่ทราบว่าพี่เจียวหลันรู้จักสี่ตำราห้าคัมภีร์ อนาคตแต่งกลอนท่องบทกวีกับพี่ชายข้าได้หรือไม่?
หากพี่ชายข้าเป็นขุนนาง จำเป็นต้องมีภรรยาคนหนึ่งที่อ่านออกเขียนได้ ดูแลเรื่องในบ้าน ตามที่ข้ารู้มา พี่เจียวหลันไม่เคยเข้าสถานศึกษา เกรงว่าจะไม่เหมาะสม!”
ในเมื่อมีเรื่องกันถึงขั้นนี้ ซูหว่านไม่พูดจารักษาน้ำใจ กลัวทำให้คนอื่นโกรธอีกแล้ว
อีกอย่าง เรื่องนี้ก็เอาผิดไม่ได้ ถึงอย่างไรคนตระกูลเหอไม่ได้ออกหน้า ถึงตายพวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับ เรื่องนี้ทำอะไรพวกเขาไม่ได้
แต่ผ่านเรื่องนี้ ทำให้เห็นนิสัยคนชัดขึ้น ก็ถือว่าซื้อบทเรียนแล้วกัน
ตอนที่พ่อซูพูดความจริงออกมา คนตระกูลเหอต่างตกใจหน้าซีดเผือด
โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินเรื่องจับโจรได้แล้ว และเงินไม่ได้ถูกขโมย ทั้งหมดตั้งใจหลอกพวกเขา บางทีพวกเขาคงรู้แล้วว่าผู้ใหญ่บ้านเหอเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้น ทุกอย่างที่พวกเขาทำก็เพื่อบีบให้พวกเขาเผยพิรุธเอง
“พะ...พวกเจ้า...”
“ถูกต้อง พวกเรารู้เรื่องหมดแล้ว โจรคนนั้นก็สารภาพแล้ว คนที่สั่งให้เขาขโมยของเป็นคนแก่อายุประมาณห้าสิบปีคนหนึ่ง รูปร่างอ้วน มีไฝสีดำหนึ่งเม็ดที่หลังหู ตอนนี้โจรถูกจับเข้าคุกแล้ว!” แม่ซูตอบอย่างเย็นชา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...