"พ่อซูหมดใจแล้ว พวกเขาเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก และหลังจากที่ต่างคนต่างมีครอบครัว แล้ว บ้านสกุลเฮ่อก็คอยช่วยเหลือบ้านสกุลซูมาโดยตลอด แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ เขาเลือกไม่เอาความเรื่องขโมย ก็เท่ากับว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านเหอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ใบหน้าของเขาถูกเหยียบย่ำจนไม่เหลือชิ้นดี ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป
เขาลากภรรยาและลูกสาวเตรียมจะไป แต่เหอเจียวหลันกลับไม่ยอมไป
“ท่านพ่อ ข้าไม่ไป!”
"ถ้าไม่ไปก็ตายอยู่ข้านอกนี่แหละ ข้าไม่สนเจ้าแล้ว" ผู้ใหญ่บ้านเหอสลัดมือพวกนางออก แล้วเดินจากไปอย่างไม่ไยดี
เหอเจียวหลันมองดูคนในสกุลซู แต่ทุกคนต่างก็หลบสายตาของนางกันหมด จะมีบ้านไหนอยากได้ลูกสะใภ้แบบนี้กัน?
นางถึงขั้นดูถูกตัวเองได้ขนาดนี้ ใครแต่งงานกับนางก็มีแต่เสียหน้า
เจ่าฮวารู้จักนิสัยของสามีตัวเองดี จึงรีบลากลูกสาวกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว
"ไปกันเถอะ กลับไปค่อยคุยกันตกลงไหม?"
เหอเจียวหลันก็ฟังคำแม่ของนาง ส่วนหนึ่งก็กลัวว่าพ่อจะเอาจริง เลยจำใจลุกขึ้นเดินตามไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ยังเหลียวหลังกลับมามองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก
พอพวกนางเดินจากไปไกลแล้ว แม่ซูถึงกับกุมอก ของตนเอง นางโมโหเสียจนปวดอกไปหมด
"โมโหจะตายอยู่แล้ว! ข้าล่ะโกรธยิ่งนัก! ที่แท้ก็มาวางแผนจับอาจิ่งของบ้านเรานี่เอง ได้ยินว่าเขาเป็นจวี่เหรินแล้ว และมีหวังจะได้เป็นจิ้นซื่อ ก็เลยอยากจะมาเกาะติดบ้านเรา แถมยังใช้วิธีสกปรกต่ำช้าแบบนี้อีก ตอนแรกข้ายังเห็นว่านางหนูเหอเจียวหลันนั่นก็ดูท่าทางไม่เลวนะ แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ข้านี่ช่างตาถั่วเสียจริง ทั้งครอบครัวนั่นมีแต่พวกภูตผีปีศาจ หลังจากนี้ห้ามไปมาหาสู่กับพวกเขาอีกเด็ดขาดนะ!"
ซูหว่านไปรินน้ำอุ่นๆ ให้แม่ซูแก้วหนึ่ง ให้นางดื่มจะได้คลายความโกรธลงบ้าง
พ่อซูนั่งอยู่บนตั่งไม้ มือทั้งสองข้างกุมใบหน้าไว้อยู่ ดูท่าทางแล้วคงจะเสียใจมาก
เหล่าพี่น้องสกุลซูเดินออกมาจากห้อง พวกเขาทุกคนมีสีหน้าเหมือนกลืนแมลงวันเข้าไป รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จุกอยู่ในลำคอ รู้สึกคลื่นไส้ยิ่งนัก
"ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ เรามาปรับปรุงบ้านใหม่กันเถอะ เหมือนบ้านนายพรานเจียงนั่นแหละ ก่อกำแพงอิฐสีเทาอมเขียวสูง ๆ จะได้ไม่มีพวกขโมยเข้ามาขโมยของได้"
ซูอวิ๋นคิดวนไปวนมาแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าลานบ้านของตัวเองไม่น่าจะปลอดภัยนัก เมื่อบ้านมีเงินมาก คนก็ยิ่งจะอยากได้
"เรื่องนี้ ก็อย่าไปบอกพี่ใหญ่ของพวกเจ้านะ เดี๋ยวจะทำให้เขาหงุดหงิดเปล่า ๆ ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงสำคัญ จะเสียสมาธิไม่ได้ เดี๋ยวเวลาออกไปข้างนอก ก็พยายามหลบหน้าคนบ้านสกุลเฮ่อไว้หน่อย ไปอย่าหาเหาใส่หัว!" แม่ซูกำชับลูก ๆ อย่างจริงจัง
ซูหว่านและเหล่าพี่น้องรับคำอย่างว่าง่าย แม่ซูหันไปมองเจียงอวี้ที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง เขากำลังกอดอกอย่างเบื่อหน่าย พลางมองดูฝูงมดกำลังย้ายรังอยู่บนพื้น
"คุณชายเจียง ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านมากจริง ๆ ที่ช่วยให้พวกเราพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ ไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรดี"
ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจียงอวี้ที่ช่วยเตือนจริง ๆ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาก็คงจะถูกผู้อื่นปั่นหัวเอาตามใจชอบไปแล้ว
ด้วยนิสัยของพ่อซูแล้ว เขาไม่มีทางไปหากู้เย่ว์อย่างแน่นอน แต่จะเลือกที่จะเชื่อใจเพื่อนเก่าคนนี้ของเขามากกว่า
"ท่านป้าขอรับ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยเอง ในเมื่อข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านสกุลซู เรื่องของพวกท่านก็ถือว่าเป็นเรื่องของข้าด้วยเหมือนกัน ขอเพียงพวกท่านไม่รังเกียจที่ข้าเข้ามายุ่งเรื่องของพวกท่านก็พอแล้วขอรับ"
ในสายตาของพ่อซูและแม่ซู เจียงอวี้เป็นชายหนุ่มที่ดี เขาเป็นคนที่กระตือรือร้นและถ่อมตัว แถมยังรูปงามอีก ไม่ว่าจะมองมุมไหน แม่ซูก็ล้วนแต่รู้สึกเอ็นดู
"เจียงอวี้เอ๊ย เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ หลังจากนี้ข้าจะเรียกชื่อเจ้าตรง ๆ เลย เจ้าเรียกข้าว่าท่านป้ามันฟังดูห่างเหินเกินไป เรียกป้าเฉยๆ ก็พอ ป้าจะบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่า ต่อไปที่นี่คือบ้านของเจ้า เจ้าอยากมาเมื่อไรก็มา อยากอยู่นานแค่ไหนก็อยู่ อาหารการกินมีให้ไม่อั้น ขอแค่เจ้าไม่รังเกียจที่มันจืดชืดก็พอ!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...