เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 139

ผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละ แค่คนหนุ่มสาวทำอะไรให้ท่านถูกใจหน่อย ท่านก็จะเอ็นดูเป็นพิเศษ

"ใช่แล้ว พี่อวี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเราคือพี่น้องกันแล้วนะ ไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว!"

ซูอวิ๋นคนนี้เป็นคนไม่คิดไรมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ยังคอยต่อต้านเจียงอวี้อยู่เลย พออีกฝ่ายทำเรื่องดี ๆ แค่ครั้งเดียว เขาก็ละทิ้งอคติทั้งหมด และอยากจะนับเจียงอวี้เป็นพี่น้องเสียแล้ว

เขาเดินเข้าไปโอบไหล่เจียงอวี้ไว้ เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปี เตี้ยกว่าเจียงอวี้กว่าครึ่งศีรษะ ต้องเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยถึงจะเอื้อมถึง

ซูหว่านอดขำไม่ได้ หัวเราะอยู่ข้าง ๆ จนตาหยี ดูน่ารักน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง

"ใช่แล้ว เจียงอวี้ ครั้งนี้บ้านเราต้องขอบคุณเจ้ามาก หลังจากนี้เจ้าก็อยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจได้เลย อย่างที่ป้าของเจ้าบอกนั่นแหละ ถือเสียว่าเป็นบ้านของตัวเอง!" พ่อซูก็พูดขึ้นมา

"ได้ขอรับ ข้าขอน้อมรับด้วยความยินดี!" เจียงอวี้ประสานมือคารวะทุกคน

"พี่สี่เจ้าคะ คำสั่งซื้อสินค้าของท่านก็ใกล้ถึงกำหนดแล้วนะ ต้องรีบเตรียมตัวแล้ว แล้วก็ท่านพ่อ พรุ่งนี้รบกวนท่านไปรวบรวมไข่ไก่ที่หมู่บ้านข้างๆ หน่อยได้ไหมเจ้าคะ?"

ซูหว่านเห็นพ่อซูดูหดหู่ใจ จึงอยากหาอะไรให้เขาทำ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขา

"พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่านพ่อด้วย ไปกันสองคนจะได้รวบรวมกลับมาได้เยอะขึ้น" ซูเฉินอาสาช่วยงานเอง

"ได้ พรุ่งนี้เราไปรวบรวมไข่ไก่ที่เทือกเขาโจวเจียกัน"

พ่อซูก็ฮึดขึ้นมาใหม่ เดิมทีเขายังคิดจะดื่มเหล้าเล็กน้อยในตอนกลางคืนเพื่อคลายความเศร้า แต่ลูกสาวได้จัดสรรภารกิจให้แล้ว ก็ต้องจริงจังกับมัน

ในที่สุด ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ซูอวิ๋นและซูอี้ที่โดนยาสลบ สมองยังคงมึนงง จึงกลับไปนอนต่อ

แม่ซูไปทำอาหาร โดยมีพ่อซูคอยช่วยดูไฟให้ ส่วนซูเฉินก็แอบย่องออกไปหาอาจารย์ของเขา

ในลานบ้านเหลือเพียงซูหว่านกับเจียงอวี้ ซูหว่านกำลังช่วยเด็ดผัก ส่วนเจียงอวี้ก็ยกม้านั่งมานั่งลงข้าง ๆ

"ช่างเป็นคนไร้น้ำใจเสียจริง ไม่แม้แต่จะกล่าวคำขอบคุณสักคำ!"

เสียงอันแผ่วเบาของเจียงอวี้ดังแว่วมา ซูหว่านเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าของเขาที่ดูหม่นหมองเล็กน้อย

ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักออกมา

"ขำอะไรนักหนา? มันตลกขนาดนั้นเลยหรือ?" เจียงอวี้เอียงคอมองเธอพลางถาม

ซูหว่านคิดในใจว่า ท่านยังจะมาพูดจาประชดประชันข้าอีก ทำตัวงี่เง่าเหมือนเด็กประถมเลย

"ก็พอได้นะ!"

เจียงอวี้เลิกคิ้ว ก่อนจะหยิบต้นหอมขึ้นมาเด็ดใบที่เหี่ยวออก และเสียงอันแผ่วเบาของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า

พูดถึงเรื่องหาเงิน ทุกคนต่างก็กระตือรือร้นกันมาก เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พ่อซูและซูเฉินก็ออกเดินทางไปยังเทือกเขาโจวเจียที่อยู่ติดกันเพื่อรวบรวมไข่ไก่

พอตกบ่ายก็กลับมาพร้อมกับไข่ไก่ห้าร้อยฟอง ตะกร้าใส่ไม่พอ ต้องให้ชาวบ้านในหมู่บ้านใช้เกวียนวัวช่วยขนกลับมาให้

ความต้องการไข่ไก่มีมาก หลังจากนี้ยังต้องหาเพิ่มอีก พอส่งสินค้าชุดนี้เสร็จ ก็มีตลาดนัดใหญ่ที่กำลังจะมาถึงอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องเตรียมขนมข้าวซอยตัดสองร้อยห่อไปขายด้วยเช่นกัน

ที่บ้านมีถั่วลิสง ซูหว่านจึงทำถั่วลิสงรสเผ็ดสิบชั่ง ถึงเวลาก็จะนำไปมอบให้กับคนบ้านสกุลหลิวเป็นของขวัญ ถั่วลิสงรสเผ็ดนี้เหมาะสำหรับกินเป็นกับแกล้มเหล้าที่สุด อร่อยกว่าถั่วลิสงคั่วธรรมดามาก

ที่จริงแล้ว ถั่วลิสงรสเผ็ดก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจอย่างหนึ่งนะ ทำง่าย ประหยัดต้นทุน บางทีอาจจะพัฒนาหรือต่อยอดให้สร้างรายได้มากขึ้นได้

ตอนที่ซูหว่านทำถั่วลิสงรสเผ็ด ซูอวิ๋นก็คอยเรียนรู้อยู่ข้างๆ ไม่ห่างไปไหนเลย ถั่วลิสงธรรมดาๆ แค่เม็ดเดียว พออยู่ในมือของเธอก็สามารถกลายเป็นของที่ไม่เหมือนใครได้ ตอนนี้แววตาที่เขามองซูหว่านนั้นจึงเต็มไปด้วยความชื่นชม

ในตอนกลางคืน ซูหว่านทำถั่วลิสงรสเผ็ดหนึ่งจานให้พ่อซูกินเป็นกับแกล้มเหล้า เขากินถั่วลิสงรสเผ็ดอย่างเอร็ดอร่อย ดูเหมือนจะลืมเรื่องราวที่ไม่น่าพอใจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปเสียสนิท

หลังอาหาร ซูเฉินถือถุงเล็กๆ และแอบย่องเอาถั่วลิสงรสเผ็ดใส่ถุงไปหนึ่งถุง พอรู้สึกว่าพอแล้ว เขาก็ชั่งน้ำหนักแล้วเอาออกไปเล็กน้อย กลัวว่าถ้าเอาไปมากเกินไปจะถูกจับได้

ถั่วลิสงรสเผ็ดสิบชั่งมันเยอะมาก ทั้งยังใส่ไว้ในถุงขนาดใหญ่ ถ้าเอาออกไปนิดหน่อยก็คงไม่มีใครจับได้หรอก

ซูหว่านเห็นพี่สามของเธอที่ทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงประตูแล้ว แต่เธอก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น แล้วเดินกลับเข้าห้องไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม