ซูเฉินมัดปากถุงเล็กๆ จนแน่น และตรวจสอบอย่างละเอียดจนแน่ใจว่าถุงไม่รั่วถึงได้ออกจากลานบ้านไป
จะต้องไปหาอาจารย์ของเขาเพื่อเอาของอร่อยๆ ไปให้แน่ๆ เพราะลุงเจียงก็เป็นคนที่ชอบดื่มเหล้าเหมือนกัน
ซูหว่านรู้สึกว่าพี่สามน่ารักมาก ที่พยายามเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ใครรู้
พรุ่งนี้ ค่อยแบ่งให้ลุงเจียงสักสองสามชั่ง เก็บไว้ให้ท่านพ่อกินเป็นกับแกล้มเหล้าอีกสองสามชั่ง ส่วนที่เหลือก็จะใช้เป็นของกำนัลมอบให้บ้านสกุลหลิวไปเลย ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงไปในตัวด้วย
...
วันรุ่งขึ้น ซูอวิ๋นและซูอี้ออกไปส่งของ ส่วนซูหว่านไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
เขาทำตามที่ซูหว่านบอก ตอนไปส่งของก็ได้นำถั่วลิสงรสเผ็ดห้าชั่งไปมอบให้บ้านสกุลหลิว ซึ่งกำลังมีเรื่องมงคล เมื่อถึงเวลาชำระเงินงวดสุดท้าย พวกเขาก็ได้ให้เงินรางวัลเพิ่มมาอีกสองตำลึง
ในวันเดียวกันนั้นเอง ที่ทางเข้าหมู่บ้านหุบเขาซานหยาง ก็มีเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงสดปรากฏขึ้น มาพร้อมเสียงตีฆ้องตีกลองดังสนั่น ไม่รู้ว่าเป็นขบวนรับเจ้าสาวของบ้านไหน เพราะในหมู่บ้านก็ไม่มีข่าวว่าบ้านไหนจะแต่งงาน และทางบ้านสกุลเหอก็ยังไม่ถึงวันแต่งเลย
ขบวนที่ยิ่งใหญ่นี้ดึงดูดให้ชาวบ้านไม่น้อยออกมามุงดู พร้อมกับชี้ไม้ชี้มือวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
หลังจากนั้น เกี้ยวเจ้าสาวก็ตรงไปยังบ้านสกุลซู บรรดาชาวบ้านที่มามุงดูความคึกคักต่างก็เดินตามไปตลอดทาง
ในเวลานั้น ซูหว่านยังไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรในอีกไม่ช้า
เมื่อได้ยินเสียงตีฆ้องตีกลองดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คนสกุลซูก็ออกมาดูความครึกครื้นเช่นกัน ซูหว่านเพิ่งเคยเห็นเกี้ยวเจ้าสาวแบบนี้เป็นครั้งแรก จึงชะโงกคอออกไปดูอย่างตื่นเต้นและสนใจ
จนกระทั่งเกี้ยวเจ้าสาวมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้าน บ่าวรับใช้ร่างเล็กที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งก็โค้งคำนับต่อหน้าพวกเขาอย่างนอบน้อม
"คุณชายใหญ่สกุลหวังจากหอการค้าสกุลหวังในอำเภอชิงเหอ มารับแม่นางซูเข้าจวนเพื่อปรนนิบัติ จึงขอมอบสินสอดเป็นเงินหนึ่งร้อยตำลึง ผ้าไหมซูโจวสิบพับ กำไลทองคำหนึ่งคู่ เครื่องประดับศีรษะประดับดอกไม้หนึ่งชุด และหมู วัว แพะ อย่างละสองตัว แม่นางซูขอรับ คุณชายของข้าน้อยจริงใจยิ่งนัก สินสอดทองหมั้นชุดนี้เทียบได้กับพิธีแต่งงานภรรยาเอกเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าคุณชายให้ความสำคัญกับท่านมาก หากท่านได้เข้าสู่ประตูสกุลหวังของเราแล้ว ภายภาคหน้าก็จะพบแต่ความรุ่งโรจน์ร่ำรวย มีเสื้อผ้าแพรพรรณและอาหารเลิศรส ขอเชิญท่านไปเตรียมตัวให้เรียบร้อยแล้วไปกับพวกเราเถิดขอรับ?"
คนผู้นี้ที่ค่อยๆ ทยอยอ่านรายการของหมั้นจนจบ แล้วมองซูหว่านด้วยสีหน้าประจบประแจง
นับตั้งแต่วันที่เจอกันบนถนน คุณชายของเขาก็หลงใหลสาวน้อยคนนี้ที่ทั้งปากคมและนิสัยแสบไม่เบา แถมยังสวยไม่ธรรมดาอีก เขายังไม่เคยลิ้มรสผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย
คนในบ้านสกุลซู "?"
? ? ?
ทุกคนงวยงง ทว่าซูหว่านเพิ่งนึกออกว่าคุณชายผู้นี้ก็คือไอ้หนุ่มเจ้าชู้เสเพลที่วันนั้นเธอได้เจอบนถนนนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ความหมายของเขาก็คือต้องการให้ซูหว่านไปเป็นอนุภรรยา
ชาวบ้านที่มุงดูต่างก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที
“อะไรนะ จะให้ซูหว่านไปเป็นอนุอย่างนั้นหรือ?”
ซูหว่านโกรธจนตัวสั่น พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสีหน้าของเจียงอวี้ที่เย็นเยียบเหมือนกับน้ำแข็ง
"เรื่องแค่นี้ ไม่ต้องให้เจ้าลงมือเองหรอก!"
พูดจบ เขาก็เดินออกมาโดยเอาสองมือไพล่หลัง ส่วนแม่ซูก็ยังคงบ่นกระปอดกระแปด หากซูเฉินไม่ดึงเอาไว้ ป่านนี้นางคงได้บ้าคลั่งไปแล้ว
"อ๊ากกก~"
ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น เจียงอวี้ได้หักข้อมือของคนนำขบวนคนนั้นเสียแล้ว เสียงกระดูกแตกนั้นช่างคมชัดยิ่งนัก เขารู้สึกเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว
คนอื่นๆ ที่มากับขบวนขันหมากเห็นดังนั้นก็กรูกันเข้ามา ซูเฉินรีบรุดจะเข้าไปช่วย แต่ก็ได้ยินเจียงอวี้กล่าวอย่างไม่รีบร้อนว่า
"ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!"
สิ้นเสียง เขาก็เตะคนหนึ่งลอยออกไปทันที จากนั้นก็มีแต่เสียงกรีดร้องโหยหวนดังระงม
ประมาณสามสิบวินาทีให้หลัง คนกว่าสิบคนก็กระจัดกระจายไปทั่ว ต่างพากันกุมจุดที่เจ็บปวดร้องโอดโอย
ส่วนเจียงอวี้นั้น ไม่แม้แต่จะหอบเลยสักนิด เขาจัดชุดให้เข้าที่เล็กน้อยแล้วก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม
ราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่เดินผ่านมาเท่านั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...