เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 148

เจียงอวี้นั่งอยู่ตรงข้ามนาง พอเห็นท่าทางตื่นเต้นของนางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

จนกระทั่งซูจิ่งที่อยู่ข้างๆ เรียกเขา เขาถึงได้สติกลับคืนมา

“อาอวี้ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาเจ้า!”

“ได้สิ พี่ซูอยากถามอะไรงั้นหรือ?” เจียงอวี้ยินดีที่จะตอบเขา

“ข้าไม่ใช่ว่าจะเข้าเมืองหลวงไปสอบแล้วใช่ไหมล่ะ? ถึงตอนนั้นก็ต้องหาที่พักในเมืองหลวง เจ้าเป็นคนเมืองหลวงย่อมคุ้นเคยกับเมืองหลวงดี พอจะรู้ไหมว่าที่ไหนมีห้องพักสะอาดราคาไม่แพงและปล่อยให้เช่าระยะยาวบ้าง?” ซูจิ่งเอ่ยความต้องการของตนเองออกไปตามตรง

ซูหว่านได้ยินดังนั้นก็หันกลับมาสนใจฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างตั้งใจ

เจียงอวี้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว ข้ามีเรือนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองหลวง ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่โดดเด่นตรงที่เงียบสงบและอยู่ไม่ไกลจากสนามสอบ นับว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพี่ซูที่กำลังเตรียมตัวสอบ ที่นั่นมีเพียงคนรับใช้ที่อายุมากแล้วคนหนึ่งคอยดูแลอยู่ ข้าจะส่งจดหมายไปที่เมืองหลวงแจ้งให้เขาทราบ ท่านไปถึงแล้วก็ตรงไปที่พักที่เรือนเล็กๆของข้าหลังนั่นได้เลย คนรับใช้คนนั้นยังสามารถดูแลเรื่องอาหารการกินและชีวิตประจำวันของท่านได้อีกด้วย”

“อาอวี้ ข้าไม่ต้องการคนดูแล เพียงแค่ให้เช่าห้องหนึ่งห้องก็พอแล้ว เจ้าเป็นเจ้าของเรือนแค่บอกค่าเช่าที่ควรจะเก็บกับข้ามาได้เลย”

ซูจิ่งไม่มีทางที่จะเอาเปรียบใครอย่างแน่นอน เขาเพียงแค่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการหาที่พักเท่านั้น จึงได้เอ่ยปากถามเจียงอวี้

“พวกเราสนิทกันถึงขนาดนี้แล้ว ข้าจะเก็บค่าเช่าจากเจ้าได้อย่างไรกัน? เช่นนั้นข้าจะไม่ใช่คนอกตัญญูหรอกหรือ? ตระกูลซูมีบุญคุณกับข้า ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าจะไม่มีโอกาสได้ตอบแทนเสียมากกว่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ จะมาพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆไปไย?” การที่เจียงอวี้ไม่ยอมรับค่าเช่าเช่นนี้ ทำให้เรื่องนี้เริ่มยากขึ้นเสียแล้ว

“ต้องให้สิ ถ้าหากอาอวี้ดึงดันไม่เอาเช่นนี้ ข้าก็คงต้องไปหาที่พักอื่นแล้ว”

ซูจิ่งพูดตัดบทอย่างเด็ดขาด เพื่อบังคับให้เจียงอวี้รับเงิน เจียงอวี้จึงจนปัญญา

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอเก็บค่าเช่าเจ้าเดือนละห้าตำลึงเงิน แต่ให้เช่าทั้งเรือนเล็กเลยนะ เรื่องนี้ข้าคงยอมให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว หากยอมมากไปกว่านี้ก็คงจะเป็นคนอกตัญญูจริงๆ แล้ว”

ค่าเช่าเดือนละห้าตำลึงเงิน พอดีกับงบประมาณที่ซูจิ่งคิดเอาไว้เลย

การเช่าบ้านในอำเภอชิงเหอ หากเป็นบ้านหลังใหญ่หน่อยก็จะตกเดือนละสามตำลึงเงิน แต่เมื่อหากเป็นในเมืองหลวง เรือนเล็กๆ เดือนละห้าตำลึงเงินก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล เจียงอวี้น่าจะให้ราคาที่สมควรเก็บแล้ว

“ได้ เช่นนั้นก็ต้องขอขอบคุณอาอวี้ที่ให้ความอนุเคราะห์!” ซูจิ่งประสานหมัดคารวะให้เขา

“พี่ใหญ่เกรงใจไปแล้ว ไหน ๆ ก็ถือว่าข้าเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่งก็แล้วกัน จะพูดอะไรแบบนี้ไปไย ดูห่างเหินกันเกินไปแล้ว”

คำว่าพี่ใหญ่ที่เขาเรียกออกมานั้น ทำให้ซูหว่านเผลอมองเขาด้วยแววตาฉงน เมื่อครู่ยังเรียกว่าพี่ซูอยู่แท้ ๆ ไฉนอยู่ ๆ ถึงเปลี่ยนสรรพนามไปได้ล่ะ?

เจียงอวี้เดินทางไปทั่วสารทิศ เขาเป็นพวกฉลาดหลักแหลมเกินคนอย่างที่เคยพูดไว้ ครานี้ซูหว่านก็ได้เรียนรู้อุบายอีกอย่างหนึ่งจากสถานการณ์จริงไปโดยปริยาย

“พวกเราเองก็ไม่คุ้นเคยกับหัวเมืองเท่าไร โรงเตี๊ยมจะต้องไม่เลือกที่ถูกเกินไป สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพักได้อย่างสบายใจ แพงหน่อยก็ไม่เป็นไร ข้าจะลองดูไปตามทางก่อนว่ามีที่ไหนเหมาะบ้าง และก็เลือกที่นั่นเลย!”

ซูหว่านแหวกม่านออกไปดู ข้างนอกถนนหนทางคึกคักไปด้วยรถม้า มีรถม้าจำนวนมากเข้าสู่หัวเมืองและจอดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมแล้ว พนักงานในร้านต่างก็ยุ่งอยู่กับการต้อนรับลูกค้า

“หวานหว่านตัดสินใจเองได้เลย แม่ยังไงก็ได้หมด”

เมื่อออกมาข้างนอกเช่นนี้ ซูหว่านจะกลายเป็นผู้นำและทุกคนต่างก็ฟังนาง เรื่องการมาที่หัวเมืองเป็นสิ่งที่นางเสนอมาเอง ฉะนั้นแน่นอนว่าต้องให้นางเป็นผู้นำ

“ไม่ต้องคิดมากอะไรมาก โรงเตี๊ยมข้าจัดการให้เรียบร้อยแล้วไปพักกันได้เลย”

ทันใดนั้นเจียงอวี้ก็พูดแทรกขึ้นมา ซูหว่านจึงหันกลับไปมองเขาด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้น...เดี๋ยวข้าจะเอาเงินค่าโรงเตี๊ยมให้ท่าน ท่านจองโรงเตี๊ยมไปเท่าไรหรือ?”

“พวกเจ้าพี่น้องคู่นี้ ไยจึงพูดถึงเรื่องเงินๆอยู่เรื่อย? หลังจากผ่านวันขึ้นปีใหม่ไป ข้าก็ไม่ได้กลับไปพร้อมพวกเจ้าแล้ว เวลาจะอยู่ด้วยกันก็เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว อย่างน้อยก็ให้ข้าได้ทำอะไรให้พวกเจ้าบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการแสดงถึงความรู้สึกขอบคุณที่ตระกูลซูได้ช่วยชีวิตข้าไว้ ทั้งยังอยู่รบกวนตั้งหลายวัน ข้าเพียงอยากจะตอบแทนบุญคุณเล็กๆ น้อยๆ ให้ทุกท่านได้กินดีอยู่ดี หากแม้แต่เรื่องนี้ยังปฏิเสธข้า ข้าคงจะเสียใจจริงๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม