“แต่ข้าไม่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองจะเป็นเรื่องผิดแปลกตรงไหน คนเราปรารถนาที่จะยกระดับชีวิตของตนเอง มันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากอย่างนั้นหรือ ขอเพียงไม่ได้มาด้วยการทุจริตหรือปล้นชิง ทุกคนก็ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดไม่ใช่หรือ” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการตั้งข้อสงสัยของทุกคน ซูหวานรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“ข้าก็บอกไปแล้วว่าข้าไม่ใช่คุณหนูสูงศักดิ์อีกต่อไป ชีวิตในอดีตจบลงแล้ว ชีวิตตอนนี้คือสิ่งที่ข้าต้องเผชิญ ข้าไม่ต้องการเป็นกู้เย่ว์ นางคือนาง ข้าก็คือข้า เรื่องของนางในอดีตก็เป็นเรื่องของนาง เรื่องของข้าในตอนนี้ก็เป็นเรื่องของข้า ได้โปรดอย่าเอาข้าไปเปรียบเทียบกับนาง ข้าไม่อยากให้ชีวิตโดยที่ต้องมีชื่อของกู้เย่ว์เข้ามาเกี่ยวข้องไปตลอดชีวิต ตกลงไหม”
ซูหว่านเอ่ยด้วยโทสะ ก่อนจะลุกพรวดพราดจากโต๊ะอาหาร นางต้องสะสางเรื่องราวให้กระจ่างก่อน เพื่อป้องกันมิให้พวกเขาหยิบยกกู้เย่ว์มาเปรียบเทียบกับนางอยู่ร่ำไป ให้นางต้องจมอยู่กับเงามืดของนางผู้นั้นตลอดกาล
นางรู้ดีว่าการจะพิชิตใจพี่ชายเหล่านี้ได้ ช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ ราวกับมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง แต่ช่างเถิด นางมิได้ปรารถนาให้โลกของพวกเขาเปลี่ยนเป็นของนางในชั่วพริบตา นางสามารถค่อยเป็นค่อยไปได้
ครึ่งชั่วยามผ่านไป ซูจิ่งมาเคาะประตูห้องของซูหว่าน กลางวันนี้ นางมิได้แตะต้องอาหารเลยแม้แต่น้อย เขาจึงตั้งใจนำอาหารมาให้นาง พร้อมกับพาซูอวิ๋นมากล่าวคำขอโทษ
"หวานหว่าน เจ้านอนอยู่หรือ"
ซูหว่านจะหลับลงได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็ไม่ได้โกรธเคืองอีกต่อไป ดังนั้นนางจึงเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดประตูออกสิ่งที่นางเห็นคือซูจิ่งและซูอวิ๋น
"พี่ใหญ่ มีอะไรหรือ"
"เจ้าไม่ได้กินอาหารกลางวัน พวกเราก็เลยนำอาหารมาให้เจ้า ฝีมือของหวานหว่านยอดเยี่ยมมากเลยนะ!"
"ขอบคุณพี่ใหญ่ที่ชม!" ซูหว่านรับอาหารจากมือเขา
ซูจิ่งใช้มือกระตุกซูอวิ๋น เป็นเชิงให้เขาขอโทษนาง
ท่าทีของซูอวิ๋นดูจะอ่อนลง ไม่ได้ขัดขืนเช่นแต่ก่อน อาจเป็นเพราะรู้ตัวว่าพูดแรงไป หรือเพราะคำพูดของซูหว่านทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“ซูหว่าน ข้าขอโทษที่พูดแรงไป ต่อไปเจ้าจะทำอะไรก็ทำ ตราบใดที่ไม่ทำให้ครอบครัวของเราเดือดร้อน ข้าจะไม่ว่าเจ้าอีก”
“ข้ารับคำขอโทษของพี่สี่ แต่เรื่องเก็บเห็ดสน ข้าจะทำต่อไป” ความจริงซูหว่านก็ไม่ได้โกรธจริงจัง แค่ตอนนั้นรู้สึกน้อยใจ ที่พวกเขาคิดว่านางทำทุกอย่างก็เพื่อให้ตัวเองดูดีเท่านั้น
“หวานหว่าน ถ้าเจ้าอยากไป พวกเราก็ไม่ห้าม แต่เจ้าต้องระวังความปลอดภัยด้วย บนภูเขามีสัตว์ป่าดุร้ายมากมาย พวกเราเป็นห่วงว่าเจ้าจะเผชิญอันตรายเพียงลำพังบนภูเขา พวกเราเลยพูดแรงไปหน่อย ในเมื่อเจ้าตั้งใจจะไป พวกเราก็ไม่ขัดขวาง แต่ต้องระวังความปลอดภัยให้มาก เข้าใจไหม" ซูจิ่งกำชับนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"อาหารของเราเหลืออีกแค่หนึ่งวัน พรุ่งนี้เช้าให้พี่สี่ของเจ้าพาเจ้าไปขายที่ตลาดด้วยกัน ดีไหม"
ซูอวิ๋นเบิกตาโพลงเมื่อได้รับมอบหมายอย่างกะทันหัน เขายกนิ้วขึ้นชี้ตัวเองด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
"ทำไมต้องเป็นข้า คนอื่นๆ เหมาะสมกว่าข้ามาก!"
พี่ใหญ่ไม่กลัวหรือว่าถึงเวลานั้นตนจะพูดจาไม่เข้าหูนาง ทำให้นางไม่พอใจอีก
“ในเมื่อเจ้าตั้งใจจะขอโทษ ก็จงแสดงความจริงใจออกมา ข้าจะให้โอกาสเจ้าปรับปรุงตัว จงดูแลหวานหว่านให้ดี หากนางเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว ข้าจะเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด!"
ซูจิ่งจงใจให้เป็นเช่นนั้น ซูอวิ๋นเป็นคนคล่องแคล่วที่สุด เขาจึงอยากให้พี่น้องสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันมากๆ ความสัมพันธ์จะดีขึ้นเอง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม