เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 16

ซูหว่านปัดฝุ่นที่เปรอะเปื้อนตามเนื้อตัวออก แลดูตะกร้าที่บุบบี้ของตน จึงหันไปมองหน้าชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างจนใจ

อีกฝ่ายรู้ตัวว่าทำพลาด ได้แต่ถูจมูกตัวเองแก้เก้อ

"ขอโทษด้วย ข้าเป็นพรานล่าสัตว์ในหมู่บ้านละแวกนี้ บังเอิญเจอหมูป่าตัวนี้บนเขา ระหว่างไล่ต้อนไม่ทันระวัง เลยทำให้เจ้าต้องเจ็บตัว”

"ท่านลุงเป็นคนไล่ต้อนหมูป่าตัวนี้มาหรือ”

นางยังเข้าใจว่าตัวเองโชคร้าย มาถึงก็เจอกับหมูป่า

นางมองลงไปที่ก้นหลุม หมูป่าที่ตกลงไปกำลังร้องโหยหวนอยู่ในนั้น แต่เสียงของมันอ่อนแรงเต็มทีแล้ว

"ใช่แล้ว ข้าดักรอเจ้าตัวนี้มาหลายวันแล้ว วันนี้เพิ่งจะมีโอกาสได้ไล่ตะครุบ ไม่คิดเลยว่าจะเกือบทำเจ้าต้องบาดเจ็บไปด้วย เจ้าไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม"

นายพรานเจียงรู้สึกว่าเด็กสาววัยสิบกว่าปีคนนี้ หน้าตาละม้ายคล้ายกับลูกศิษย์ของตนมาก แต่เขาก็คุ้นเคยกับผู้คนในหมู่บ้านละแวกนี้ดี ในความทรงจำดูเหมือนจะไม่เคยเห็นเด็กสาวคนนี้มาก่อน

หัวเข่าถลอกนิดหน่อย ไม่ถือว่าบาดเจ็บอะไรมากมาย นางคงไม่ใช้เรื่องนี้มารีดไถเงินจากเขาหรอกมั้ง!

“ไม่เป็นไร!” ซูหว่านเก็บตะกร้าขึ้นมา เห็ดสนภายในถูกทับจนเสียหาย แต่โชคดีที่ตะกร้ายังพอใช้ได้อยู่บ้าง

ได้เห็นเห็ดสนเหล่านั้น นายพรานเจียงจึงรู้ว่านางมาเก็บของสิ่งนี้ที่นี่ หากไม่ใช่เพราะเขาไล่ต้อนหมูป่ามาจนทำให้นางตกใจ นางคงไม่หกล้มหรอก

"นังหนู เจ้ามาเก็บเห็ดสนใช่ไหม ข้ารู้ว่าที่ไหนมีเยอะ ตามมาสิ!"

ซูหว่านได้ยินเช่นนั้น ก็มองเขาอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวจะถูกหลอก นายพรานเจียงคงรู้ว่านางกำลังคิดสิ่งใด เขาจึงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า

“นังหนู ไม่ต้องกลัว ข้าคือนายพรานเจียงแห่งหุบเขาซานหยาง ผู้คนแถวนี้รู้จักข้าดี!"

หุบเขาซานหยางไม่ใช่หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่หรอกหรือ! เขาแนะนำว่าตัวเองคือนายพรานเจียงแห่งหุบเขาซานหยาง เช่นนั้นก็คืออาจารย์ของพี่สามซูเฉินนี่นา! ผู้มีฝีมือล้ำเลิศ สถานะไม่ธรรมดา!

ได้เจอเขาในที่แบบนี้ เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ!

“บังเอิญจังเลยท่านลุง ข้าก็เป็นคนหุบเขาซานหยางเหมือนกัน!" ซูหว่านรู้สึกว่านางไม่ควรพลาดโอกาสทองในการเกาะขาคนใหญ่คนโต จึงยิ้มอย่างสดใส

“หืม แปลกจริง ข้าอาศัยอยู่ในหุบเขาซานหยางมาสิบกว่าปีแล้ว ทำไมไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน” นายพรานเจียงคิดในใจว่าหุบเขาซานหยางก็เล็กแค่นี้ มีอยู่แค่ไม่กี่ครัวเรือน เหตุใดเขาจึงไม่เคยเห็นเด็กสาวคนนี้

“ข้าเป็นลูกสาวแท้ๆ ที่ตระกูลซูเพิ่งรับกลับมาได้ไม่กี่วัน ก่อนหน้านี้เป็นคุณหนูตระกูลกู้ในตัวอำเภอโน่น ท่านลุงไม่รู้จักข้าก็ไม่แปลกหรอก!"

ซูหว่านแนะนำชื่อแซ่ของตัวเอง ในหุบเขาซานหยางมีตระกูลซูอยู่แค่ครอบครัวเดียว นางต้องการตีสนิทสร้างความคุ้นเคยกับคนใหญ่คนโตตรงหน้านี้ไว้

บุตรสาวที่ตระกูลซูเพิ่งรับกลับมา... นายพรานเจียงเข้าใจแล้ว เรื่องราวของคุณหนูตัวจริงตัวปลอมที่โจษจันไปทั่วหมู่บ้านก่อนหน้านี้ เขาเองก็พอได้ยินมาบ้าง ช่วงนี้ลูกศิษย์คนนั้นของเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องเก็บเกี่ยว สองสามวันที่ผ่านมาจึงยังไม่ได้พบหน้ากัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอน้องสาวของเขาก่อน ว่ากันว่าเด็กคนนี้เป็นแก้วตาดวงใจของเจ้าสัวกู้ ตระกูลกู้เป็นตระกูลมั่งคั่งในอำเภอ แต่ท่าทางของเด็กสาวในตอนนี้กลับดูเรียบง่ายมาก คุณหนูจากตระกูลร่ำรวยขึ้นเขามาเก็บเห็ดน่ะหรือ น่าสนใจจริงๆ

“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง เพื่อเป็นการขอโทษ ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง ที่นั่นเรียกได้ว่าเป็นรังเห็ดสนเลยเชียวนะ!"

เขาไม่ได้แสดงท่าทีว่าสนิทสนมกับตระกูลซูมากนัก เขาให้ซูเฉินปกปิดสถานะของเขาไว้ตั้งแต่ต้น

ในยุคนี้ เงินหนึ่งร้อยอีแปะเท่ากับหนึ่งตำลึง ซูอวิ๋นปวดใจมากเมื่อต้องควักจ่ายไปตั้งสี่อีแปะ ปกติพวกเขาจะเดินไปตัวอำเภอ แต่พี่ใหญ่กลัวว่าคุณหนูบอบบางคนนี้จะลำบาก จึงให้เขาพานางขึ้นเกวียนเทียมแทน เงินสี่อีแปะนี้ซื้อข้าวปลาอาหารกินได้ตั้งหลายมื้อเลยทีเดียว

ระหว่างที่เกวียนเคลื่อนตัวไปบนถนน เหอเจียวหลันเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน นางถามซูอวิ๋นว่าครอบครัวของเขาเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จหรือยัง แล้วตามด้วยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป แต่ซูอวิ๋นกลับตอบนางอย่างขอไปที จนสุดท้ายเมื่อถามถึงกำหนดการกลับสำนักศึกษาของซูจิ่ง ใบหน้าของนางแดงก่ำจนไม่อาจซ่อนเร้น ซูอวิ๋นตอบไปตามตรงว่าอีกประมาณครึ่งเดือน ซูหว่านสังเกตเห็นแววตาที่เป็นประกายขึ้นมาทันทีของนาง

แม้จะมีซูหว่านคั่นขวาง เฉินอิ้งหงที่อยู่อีกฝั่งก็คอยแอบมองซูอวิ๋น แววตาของนางจึงมีทั้งความเกลียดชังและความลุ่มหลงสลับกันไปมา ในขณะที่ซูหว่านคิดเพียงแค่จะทำอย่างไรถึงจะขายเห็ดสนให้หมดเร็วๆ ได้

ทุกคนบนเกวียนต่างก็จมดิ่งอยู่กับเรื่องของตนเอง

เมื่อมาถึงตลาด ทุกคนต่างมองหาที่ว่างเพื่อเริ่มตั้งร้าน ซูอวิ๋นตาดีมือไวกว่า เหอเจียวหลันและเฉินอิ้งหงก็ตามมาตั้งร้านอยู่ข้างๆ

ทว่าซูอวิ๋นกลับแสดงความเด็ดขาดพูดออกมาตรงๆ ว่า “พวกเจ้าสองคนไปตั้งแผงที่อื่นเถอะ ตั้งรวมกันแบบนี้ แล้วจะค้าขายอย่างไร”

เหอเจียวหลันและเฉินอิ้งหงรู้สึกประดักประเดิดเล็กน้อย แล้วจึงลุกขึ้นแบกคานหาบของตัวเองเดินไปหาที่ตั้งแผงใหม่ สุดท้ายก็ได้ที่เยื้องไปจากพวกเขาไม่ไกลนัก

เหอเจียวหลันเริ่มตะโกนเรียกลูกค้าทันที ไม่นานก็เริ่มขายได้ สนนราคาของเห็ดสนอยู่สองอีแปะต่อหนึ่งชั่ง ของชนิดนี้ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร เพราะบนภูเขามีมากมาย คนที่ซื้อก็มีแต่คนในอำเภอ คนไหนชอบก็จะซื้อ คนไหนไม่ชอบ ก็จะไม่ซื้อ!

ทางด้านเฉินอิ้งหง เนื่องจากชายที่นางแอบชอบอยู่ตรงนั้น จึงรู้สึกขัดเขินที่จะตะโกนขายของ เห็ดของนางจึงขายไม่ออกสักที

ส่วนซูอวิ๋นเป็นเด็กชาย ธรรมชาติของเด็กผู้ชายมักหน้าบาง เขาจึงไม่ยอมตะโกนเรียกลูกค้า เช่นนั้นหน้าที่นี้จึงจำต้องตกเป็นของซูหว่าน

“ทุกคนมาเลือกดูเลือกชมกันได้ เห็ดสนสดใหม่ รสชาติจากป่าแท้ๆ ยังมีไออุ่นอยู่เลย เก็บมาขายกันสดๆ เลยจ้า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม