แม่ซูและพ่อซูเดินลงบันไดมา พอซูหว่านเห็นพวกเขาก็รู้สึกตกตะลึง
ทั้งสองคนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนมาสวมเสื้อคลุมยาวกับชุดกระโปรงรัดอก แม่ซูยังเกล้าผมทรงสตรีที่ออกเรือนแล้ว แลดูอ่อนหวานมาก ทั้งยังประดับผมด้วยปิ่นดอกไม้ ทำให้บุคลิกโดยรวมของนางเปลี่ยนไปเลย
ชุดที่ใส่ไม่นับว่าหรูหราอะไรนัก ทว่ากลับดูดีมีรสนิยม แต่ก็ไม่ได้สะดุดตา
“ว้าว ท่านแม่สวยจังเลยเจ้าค่ะ!”
ชีวิตครึ่งแรกของแม่ซูไม่ค่อยดีนัก แต่ช่วงนี้กลับมาบ้านดูแลตัวเองดีขึ้นมาก ผิวกลับมาขาวเนียนและมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย ดูอ่อนเยาว์ลงมาก แถมนางยังเป็นแม่พิมพ์ของความงามอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นลูกๆ จะหน้าตาดีขนาดนี้ได้อย่างไร?
“พูดเหลวไหลไปได้ คนอายุสี่สิบกว่าแล้วจะสวยอะไรกัน? อาอวี้ก็ช่างมีน้ำใจนะ อุตส่าห์เตรียมของพวกนี้ให้พวกเราเป็นพิเศษ แถมยังจ้างคนมาแต่งตัวให้พวกเราอีก ข้ากับพ่อเจ้าไม่เคยใส่เสื้อผ้าแบบนี้มาก่อน รู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลย”
แม่ซูและพ่อซูก็ดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก นับตั้งแต่มาถึงโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี พวกเขาถูกพวกคนรวยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเสื้อผ้ามาโดยตลอด เจียงอวี้เองก็ด้วยความหวังดี จึงตัดสินใจเองที่จะหาชุดใหม่ให้พวกเขาคนละชุด
“ท่านป้าขอรับ คืนนี้พวกเราจะไปดูเทศกาลโคมไฟ ก็ย่อมต้องแต่งตัวให้สวยงามหน่อยเป็นธรรมดา กาลเวลาไม่เคยทำลายความงามของสตรี ผู้ที่เป็นมารดาจะงดงามที่สุดเสมอขอรับ”
ปากของเจียงอวี้เหมือนทาด้วยน้ำผึ้ง ทำให้แม่ซูยิ้มแย้มแจ่มใส
“เจ้าเนี่ยนะ ช่างปากหวานเสียจริง”
“ข้าพูดความจริงนะขอรับ!” ฝีมือการเล่นมุกของเจียงอวี้ยังคงรั้งอันดับหนึ่งอย่างมั่นคง
ซูจิ่งและซูมู่ก็ได้เปลี่ยนชุดแล้วเช่นกัน พี่ใหญ่ซูจิ่งสวมชุดคลุมผ้าไหมสีรากบัว ดูอบอุ่นและสง่างามยิ่งขึ้น ส่วนพี่รองซูมู่สวมชุดคลุมสีขาวลายเมฆ ดูราวกับเทพเซียนในนิยายที่เย็นชา สง่างาม และไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องทางโลก
ชุดถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ผ้าที่แพงอะไร เจียงอวี้คิดมาอย่างรอบคอบและให้เกียรติทุกคนมาก ทำให้ไม่มีใครรู้สึกว่ารับมาแล้วไม่คู่ควร
ซูหว่านเพิ่งกลับถึงห้องชั้นบน สตรีสองคนที่หน้าประตูก็ประคองนางเข้าไป จัดเตรียมน้ำให้นางอาบ แทบจะถึงขั้นลงมือขัดหลังให้นางเองอยู่แล้ว ถ้าซูหว่านไม่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นซะก่อน
หลังจากนั้นก็เป็นการแต่งหน้าทำผมให้นาง และ เปลี่ยนชุดให้ใหม่ เจียงอวี้เลือกชุดกระโปรงที่มีองค์ประกอบสีแดงสลับขาว ซึ่งปักลายดอกฝูหรงเอาไว้ อีกทั้งยังมีเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีขาวให้นางอีกตัวด้วย
ผมถูกเกล้าเป็นมวยแบบเด็กสาว ดูประณีตงดงามยิ่งนัก ประดับด้วยปิ่นปักผมพู่ระย้า ดูมีชีวิตชีวามาก ผิวของนางนั้นขาวผ่องอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อตัดกับสีแดงก็ยิ่งขับให้ดูน่ารักน่าเอ็นดูเป็นพิเศษ
ไม่มีการประดับประดาที่ซับซ้อน แต่กลับเป็นความสง่างามที่พอเหมาะพอดี
สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของหญิงสาวก็คือความเยาว์วัย ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางใด ๆ เลย เพียงแค่ทาชาดที่ปากเล็กน้อยก็งดงามจนละสายตาไม่ได้แล้ว
เมื่อซูหว่านแต่งตัวเสร็จและออกมาจากห้องก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ในเมืองประดับประดาด้วยโคมไฟอย่างสวยงาม เทศกาลโคมไฟจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อค่ำคืนมาเยือน ผู้คนบนถนนก็เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ทันทีที่นางปรากฏตัว ดวงตาของเจียงอวี้ก็ฉายแววตะลึงงัน ชุดนี้เหมาะสมกับนางมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
“ซูหว่าน เจ้านี่นะ พอแต่งตัวขึ้นมาแล้วสวยจริง ๆ ด้วย ไว้เดี๋ยวข้าหาเงินได้เยอะ ๆ เมื่อไร จะซื้อชุดสวย ๆ กับเครื่องประดับให้เจ้าทุกวันเลย” ซูอวิ๋นผู้ที่ไม่เคยพูดจาหวานๆ วันนี้กลับชมซูหว่านอย่างไม่เคยมีมาก่อน แถมยังให้สัญญาที่เกินจริงอีกด้วย
ซูอี้ฟังแล้วกลับไม่พอใจ
“พี่สี่ ท่านแค่ซื้อชุดกระโปรงให้ก็พอแล้ว ส่วนเครื่องประดับให้ข้าเป็นคนซื้อให้เถอะ”
“ได้เลย ซื้อกันคนละอย่าง!”
พี่น้องสองคนนี้ถึงขนาด แบ่งสรรหน้าที่กันเอง ทำเอาทุกคนหัวเราะลั่น
ก่อนออกจากโรงเตี๊ยม เจียงอวี้จงใจเดินรั้งท้าย พอเดินผ่านซูหว่านก็พูดกับนางประโยคหนึ่งว่า
“งดงามยิ่งนัก ดูเหมือนสายตาของข้ายังพอใช้ได้!”
นั่นหมายความว่าชุดกระโปรงรัดอกที่นางสวมใส่นั้นเจียงอวี้เป็นคนเลือกเอง สายตาของเขาช่างเฉียบแหลมจริง ๆ นางน่ะชอบชุดนี้มากเลย เพียงแต่คำพูดของเขามันฟังดูกำกวม ซูหว่านเลยแสร้งตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติว่า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...