เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 154

ซูเฉินช่วยทำงานให้ซูอวิ๋นจนเก็บเงินค่าแรงได้สิบตำลึง เขาจึงนำเงินไปซื้อลูกธนูห้าสิบดอกในคราวเดียว เพื่อเล่นเกมเกมปาเป้าลงไหแล้วนำดอกไม้ไข่มุกมาให้ซูหว่าน

เขาดึงซูหว่านมาที่หน้าแผงลอย ชี้ไปยังดอกไม้ไข่มุกละลานตานานาชนิดบนถาด แล้วกล่าวอย่างองอาจว่า

“หวานหว่าน ชอบอันไหนบอกพี่สาม พี่สามจะเอาชนะมาให้เจ้าเอง!”

ซูหว่านชอบคำพูดแบบท่านประธานจอมเผด็จการของพี่สามมาก นางพยักหน้าอย่างแรง อย่างไรเสียพี่สามก็เป็นยอดฝีมือในยุทธภพ เกมแบบนี้สำหรับเขาแล้วง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ

ดอกไม้ไข่มุกแต่ละดอกมีราคาตั้งแต่สิบกว่าอีแปะไปจนถึงหลายสิบอีแปะ ในจำนวนนั้นมีบางรูปแบบที่ดูเรียบหรูสวยงาม และยังมีบางแบบที่เหมาะกับแม่ซูมาก

ซูหว่านแอบไว้อาลัยให้เถ้าแก่ในใจสามวินาที จากนั้นก็รอพี่สามกวาดเรียบทั้งแผง

ซูเฉินโยนแม่นราวจับวาง ทุกดอกเข้ากลางไห นำมาซึ่งเสียงโห่ร้องยินดีจากคนรอบข้าง ในไม่ช้ามือของซูหว่านก็เต็มไปด้วยดอกไม้ไข่มุกจนถือไม่ไหว จึงเรียกให้แม่ซูมาช่วยเลือก

สีหน้าของเถ้าแก่ดูแย่ลงทุกที หากปล่อยให้ซูเฉินเล่นต่อไป เขาต้องขาดทุนย่อยยับแน่ ดังนั้นตอนที่ซูเฉินกำลังจะขอซื้อลูกธนูเพิ่มอีกห้าสิบดอก เขาจึงรีบขัดขึ้นว่า

“คุณชาย เราจำกัดให้เล่นได้แค่ห้าสิบดอกเท่านั้น ท่านดูสิ?”

ความหมายของเขาชัดเจนอย่างยิ่ง ซูเฉินหันไปมองซูหว่าน ใช้สายตาสอบถามความเห็นของนาง ซูหว่านยิ้มและพยักหน้า ในเมื่อนางได้รางวัลมามากมายขนาดนี้แล้ว ก็ควรจะเหลือทางรอดให้คนอื่นบ้าง การไว้หน้ากันย่อมทำให้พบเจอกันได้อีกในภายภาคหน้า!

สองพี่น้องจึงเลิกเล่นเกมปาเป้าลงไห คว้าของรางวัลแล้ววิ่งจากไป ทิ้งให้เถ้าแก่เหงื่อตกในหน้าหนาว

พี่น้องคนอื่น ๆ กำลังเล่นทายปริศนาตามที่ต่าง ๆ เพื่อชิงโคมไฟ ตั้งใจว่าจะเอาชนะมาให้ได้คนละดวง แล้วนำไปลอยในทะเลสาบเพื่อขอพร

ซูมู่เดินสวนมา ในมือถือโคมไฟรูปกระต่ายงดงามประณีตดวงหนึ่ง แล้วยื่นส่งให้ตรงหน้าซูหว่าน

“ให้เจ้า!”

โคมไฟกระต่ายนี้มีไว้สำหรับชมเล่น ส่วนที่ใช้ลอยน้ำต้องเป็นโคมดอกบัว ไม่นานซูอวิ๋นก็อุ้มโคมดอกบัวดวงหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมา

“ซูหว่านดูสิ ข้าเอาโคมดอกบัวที่ชนะมาให้เจ้า ชอบหรือไม่?”

ความรักจากเหล่าพี่ชาย ซูหว่านย่อมปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ในใจนางเปี่ยมสุขราวดื่มน้ำผึ้ง ทว่าในมือกลับถือของไม่ไหวแล้ว

“พี่รอง พี่สี่ ช่วยข้าถือสักครู่ ข้าจะหาอะไรมาใส่ดอกไม้ไข่มุกก่อน!”

ขณะที่พูดจบ กล่องไม้สีแดงใบหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า ซูหว่านหันไปมอง ที่แท้คือเจียงอวี้

ซูมู่ที่ถือโคมไฟกระต่ายอยู่ในมือ กอดอกพลางสังเกตเจียงอวี้อยู่ด้านข้าง สายตาที่แฝงไปด้วยความสงสัยของเขา บังเอิญสบเข้ากับสายตาของเจียงอวี้พอดี

เจียงอวี้รีบเบือนสายตาหนี พลางคิดในใจว่าตนจะร้อนตัวไปไย? ทำทีเป็นมีพิรุธไปได้ ที่จริงแล้วเขาก็แค่รู้สึกว่ามันเหมาะกับนางจึงซื้อมันมา ใช่แล้ว ก็แค่นั้นเอง!

“มันล้ำค่าเกินไป ข้าไม่รับดีกว่า ท่านทั้งเลี้ยงดูปูเสื่อให้เราอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งยังซื้อเสื้อผ้าอาภรณ์งดงามให้พวกเราอีก แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว...”

ซูหว่านตั้งใจจะปฏิเสธอย่างนุ่มนวล แต่ปิ่นอันนั้นกลับถูกเจียงอวี้เสียบลงบนมวยผมของนางเสียแล้ว บนหัวของนางมีทั้งปิ่นระย้าอยู่แล้ว ยังจะมีปิ่นอันนี้อีก ดูแล้วช่างประหลาดนัก

“ข้าเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อันใด เจ้าก็รู้ว่าแม่ของข้าเสียไปนานแล้ว ปิ่นอันนี้ข้าไม่มีที่จะให้ใคร!” เจียงอวี้สวมหน้ากากเขี้ยว น้ำเสียงยามที่เขาเอ่ยประโยคนี้ช่างราบเรียบ ทั้งยังมองไม่เห็นสีหน้าของเขาอีกด้วย

ทันใดนั้นซูหว่านก็ใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธเขาได้อีกต่อไป นางจึงค่อย ๆ ถอดปิ่นดอกไม้ออกมาเก็บใส่กล่อง แล้วถือโอกาสเอาดอกไม้ไข่มุกของตนใส่เข้าไปด้วย

ดีเลย กำลังหาที่เก็บดอกไม้ไข่มุกอยู่พอดี

“เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะ...” ซูหว่านตอบกลับอย่างขัดเขิน เจียงอวี้ไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแค่พยักหน้า แล้วมองดูซูหว่านรับโคมไฟกระต่ายและโคมดอกไม้จากพี่ชายรองและพี่ชายสี่มาถือไว้อย่างเปี่ยมสุข

เมื่อแม่ซูเห็นดังนั้น จึงเอ่ยหยอกล้อจากด้านข้างว่า:

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม