ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของฮูหยินกู้ที่พูดกับลูกสาวจะอ่อนโยน แต่บรรยากาศรอบข้างกลับเต็มไปด้วยความประหลาดพิกล
ความหมายก็คือ ในเมื่อซูหว่านตัดขาดกับนางแล้ว ถึงขั้นไม่ยอมเรียกนางว่าท่านแม่ แต่ตัวนางกลับเป็นฝ่ายอยากจะเกี่ยวดองเป็นญาติด้วย ทั้งยังมารบกวนความสุขของครอบครัวคนอื่นอีก
กู้เย่ว์หันไปมองคนบ้านสกุลซูอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ จากนั้นก็เม้มปากอย่างไม่เต็มใจแล้วเดินตามนางไป
แม้ฮูหยินกู้จะรักและเอ็นดูบุตรสาว พยายามทำตามความต้องการของนางทุกอย่าง แต่ในยามปกติแล้วกลับเข้มงวดกวดขันอย่างยิ่ง ซูอวิ๋นยังไม่ทันได้คุยกับนางไม่กี่คำ คนก็จากไปเสียแล้ว
เมื่อเห็นพวกนางขึ้นรถม้าจากไป แม่ซูก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เฮ้อ อย่างไรเสียนางก็เป็นลูกสาวที่เลี้ยงดูมาตั้งนาน…
ซูอวิ๋นเดินตามอยู่ข้างหลังคนเดียว พลางครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เพราะเขาสังเกตเห็นว่ากู้เย่ว์ดูเหมือนจะเกรงกลัวฮูหยินกู้อยู่บ้าง
ในขณะนั้น เฉินอิ้งหงก็กลับมาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ นางตบไหล่ซูอวิ๋นจากด้านหลัง
ซูอวิ๋นสะดุ้งตกใจ ถามนางว่าเป็นอันใดไป เฉินอิ้งหงกลับบอกให้เขาเบาเสียงลง แล้วบอกว่ากู้เย่ว์อารมณ์ไม่ดี ดังนั้นนางจึงมาตามเขาให้ไปคุยเป็นเพื่อนนาง ให้นางอารมณ์ดีขึ้น
แต่ซูอวิ๋นกลับสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
“นางไม่ได้มีฮูหยินกู้กับนายท่านกู้ อยู่เป็นเพื่อนหรอกหรือ?”
“นายท่านต้องไปคุยเรื่องการค้า ส่วนฮูหยินรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงกลับไปพักผ่อนที่โรงเตี๊ยมแล้วเจ้าค่ะ ดังนั้นจึงมีเพียงคุณหนูที่ลงเรือไปคนเดียว ฮูหยินยังส่งบ่าวรับใช้ชายสามคนไปคอยคุ้มกันนางด้วยนะเจ้าคะ แต่นางก็ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ดี” เฉินอิ้งหงไม่ได้โกหก
ทว่า กู้เย่ว์มิได้บอกให้นางมาตามซูอวิ๋นไปอยู่เป็นเพื่อน ทั้งหมดเป็นเพราะความคิดส่วนตัวของนางที่อยากจะใช้เวลากับซูอวิ๋นให้มากขึ้น
ซูอวิ๋นเหลือบมองครอบครัวที่เดินนำหน้าไปไกลแล้ว พอดีกับที่ซูหว่านหันกลับมามองเขา เมื่อเห็นเฉินอิ้งหง นางก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
นางกลับไปแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?
ทันใดนั้น ซูอวิ๋นก็โบกมือให้นาง แล้วเดินตามเฉินอิ้งหงไป ซูหว่านห้ามเขาไว้ไม่ทัน
ดูท่าแล้ว คงจะไปหากู้เย่ว์
“เฮ้อ...” นางวิ่งตามไปได้ครู่หนึ่ง ซูอวิ๋นก็หายเข้าไปในฝูงชนเสียแล้ว
“ให้ข้าไปตามเขากลับมาหรือไม่?” เจียงอวี้เอ่ยถามอยู่ข้าง ๆ
“เช่นนั้นรบกวนท่านแล้ว ต้องช่วยพาเขากลับมาให้ได้” ซูหว่านราวกับเห็นแสงแห่งความหวัง
อีกเดี๋ยวกู้เย่ว์จะถูกลักพาตัวไป ซูอวิ๋นจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้เด็ดขาด หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำอย่างไร คนอื่นเขามีรัศมีของตัวเอก แต่เขาไม่มี
เมื่อเห็นนางร้อนรนถึงเพียงนี้ เจียงอวี้ก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ได้
“เจ้าตามพวกอาสะใภ้ไปก่อน อย่าได้หลงทางเชียว ส่วนซูอวิ๋นข้าจะไปตามหาเอง”
ก่อนจะไป เจียงอวี้ก็ยังไม่วายกังวลว่าซูหว่านจะเดินหลงทาง
“พี่สี่ ท่านมาได้อย่างไรกัน?”
ซูอวิ๋นหันไปมองเฉินอิ้งหง
“ไม่ใช่เจ้าเรียกข้ามาหรอกหรือ?”
“เอ่อ คืออย่างนี้เจ้าค่ะ ข้าเห็นคุณหนูอารมณ์ไม่ดี เลยไปเรียกพี่ซูอวิ๋นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าค่ะ” เฉินอิ้งหงรีบอธิบายด้วยท่าทางมีพิรุธ
กู้เย่ว์ทำปากยื่น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ว่ากระไร ทว่าการที่ซูอวิ๋นมาได้นางก็ยังคงรู้สึกยินดีอยู่ดี
“พี่สี่ งานล่องเรือจะเริ่มแล้ว พวกเราขึ้นเรือกันเถิด ได้ยินว่าอีกสักครู่จะมีการแสดงดอกไม้ไฟด้วยเจ้าค่ะ”
“ได้สิ!” ซูอวิ๋นยิ้มรับคำ
ขณะที่กำลังจะขึ้นเรือ ที่ริมฝั่งก็มีผู้คนมากมายมุงดูกันอยู่
และในขณะนั้นเอง เหล่าโจรที่เตรียมจะลักพาตัวกู้เย่ว์ก็ได้แฝงตัวอยู่ในเงามืดแล้ว
คนร้ายสิบกว่าคนลงมือพร้อมกันในพริบตา เข้าสกัดองครักษ์ทั้งสามของกู้เย่ว์ไว้ ฉวยโอกาสใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกของนางจากทางด้านหลังแล้วลากเข้าไปในฝูงชน นางยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ มีเพียงแววตาตื่นตระหนกสุดขีดที่ปรากฏออกมา
ซูอวิ๋นซึ่งเดินอยู่ข้างกายนางเห็นเหตุการณ์จึงคิดจะเข้าไปช่วย แต่กลับถูกฝูงชนที่กำลังชุลมุนขวางกั้นไว้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...