เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 165

เสียงพูดค่อยๆ เบาลงไป

“ไม่ต้องดูหรอก ตราบใดที่พี่ห้าให้มา ข้าก็ชอบหมดแหละ!”

ซูหว่านเน้นที่การให้เกียรติเป็นหลัก มีบ้างก็ดีแล้ว ถือเป็นน้ำใจ ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

อันที่จริงนานขนาดนี้แล้ว นางก็ไม่ได้กลัวจุดจบของตัวเองที่มีในหนังสือนิยายเหมือนช่วงแรก ๆ อีกแล้ว เส้นทางชีวิตเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง ขอแค่เราไม่ทำความชั่ว แม้แต่กฎหมายก็ไม่สามารถควบคุมเราได้ แล้วคนอื่นจะเอาอะไรมาตัดสินเราได้เล่า?

แค่ตัวเองไม่มีอะไรต้องละอายใจก็พอแล้ว

ซูอี้พยักหน้า ยิ้มอย่างเข้าใจ สักพักเขาก็จากไป พอดีกับที่เจียงอวี้มาถึงหน้าห้องของซูหว่าน เขายืนอยู่ที่หน้าประตู ยิ้มให้ซูหว่าน และเอียงศีรษะเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้ซูหว่านออกมา

ซูหว่านออกมา นางเองก็มีเรื่องจะพูดคุยกับเขาพอดี

“คุยกันหน่อยไหม?” เจียงอวี้ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ร้ายกาจ

ซูหว่านพยักหน้า จากนั้นเจียงอวี้ก็พานางไปยังที่แห่งหนึ่ง ปรากฏว่าด้านบนของโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซียังมีอีกชั้นหนึ่ง มีประตูลับที่มีบันไดขึ้นไปประมาณเจ็ดถึงแปดเมตร พอขึ้นไปแล้วก็เจอกับ ศาลาริมระเบียง ยืนอยู่บนนั้นสามารถมองเห็นอาคารและถนนบางส่วนของเซียงโจวจากมุมสูงได้

ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ และงดงามมากจริงๆ

ในศาลา เจียงอวี้จุดเตาถ่าน และกำลังต้มชาไว้บนโต๊ะ กลิ่นหอมฟุ้ง ทั้งยังมีขนมอันประณีตวางอยู่มากมาย ดูท่าเขาจะเป็นคนที่รู้จักใช้ชีวิตให้มีความสุขไม่น้อยเลย

ซูหว่านเกาะอยู่ที่ราวระเบียงมองดูทิวทัศน์ในเมือง ราวกับไม่เคยเห็นโลกกว้างมาก่อน ส่วนเจียงอวี้ก็คอยเฝ้าดูนางจากข้างหลัง

“อย่าโน้มตัวออกไปมากเกินไป อันตรายนะ!”

ซูหว่านพยักหน้า หิมะพลันโปรยปรายลงมาจากบนท้องฟ้า ทำให้ฉากนี้เพิ่มความงดงามเข้าไปอีก

“หิมะตกอีกแล้ว”

“หิมะตกแค่นี้ถือว่าน้อยนะ ถ้าเป็นที่เมืองหลวง พอหิมะตกทีก็จะตกหนักเหมือนเป็นขนห่านเลย ตกแค่คืนเดียวทั่วทั้งเมืองก็กลายเป็นสีขาวโพลนแล้ว เหยียบลงไปทีหิมะก็สูงถึงหน้าแข้ง ถ้าออกไปข้างนอกแล้วไม่มีเสื้อคลุม รับรองว่าได้แข็งตายแน่ๆ”

เจียงอวี้พึมพำกับตัวเอง หิมะที่เซียงโจวนี้ ห่างไกลจากหิมะที่เมืองหลวงมากนัก ทั้งยังไม่เกาะตัวสะสมกันเป็นชั้นๆ อีกด้วย

ซูหว่านหันกลับไปมองเขา หิมะโปรยปรายลงบนผมของทั้งสองคน นางรู้สึกว่าคำพูดของเขาแฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย

“ท่านกำลังนึกถึงเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจอยู่หรือเปล่า?”

“ก็ไม่เชิง แค่คิดถึงตอนเด็กๆ ที่ข้าเล่นหิมะอยู่ในลานบ้านจนมือแดงก่ำไปหมด ท่านแม่ของข้ากับคนอื่นๆ วิ่งไล่จับข้าไปทั่วลานบ้านเลย ท่านเป็นห่วงข้า กลัวว่าข้าจะเป็นหวัด แต่ก็ทำใจดุข้าไม่ลง"

ในความทรงจำของเจียงอวี้นั้น ภาพลักษณ์ของมารดาชัดเจนที่สุด ท่านเป็นเหมือนแสงจันทร์สีขาวของเขา แทบไม่มีใครเทียบได้เลย

“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วหรือว่านี่เป็นของแทนใจ? ข้ายังติดค้างบุญคุณเจ้าอยู่เลยนะ!”

“ไม่ติดค้างแล้ว ครานี้ท่านช่วยพี่สี่ของข้า ดังนั้นท่านจึงไม่ได้ติดค้างอะไรพวกเราแล้ว…”

ซูหว่านอธิบายอย่างจริงจัง แต่นางไม่ได้สังเกตเห็นว่ามุมปากของเจียงอวี้ที่ซ่อนอยู่หลังถ้วยชาได้คลายลงโดยไม่รู้ตัว และนิ้วที่กำถ้วยชาก็เริ่มซีดเล็กน้อย

ถ้าเขาใช้พลังภายในอีกนิด ถ้วยนี้คงแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้ว

นางบอกว่าไม่ติดค้างแล้ว ดังนั้นแม้แต่ของก็ยังต้องคืนให้เขา นี่นางจะตัดความสัมพันธ์กับเขาแล้วใช่หรือไม่?

ในใจของเจียงอวี้หงุดหงิดอย่างไม่มีสาเหตุ เขาวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ แล้วหันหน้าเข้าหาซูหว่าน เขาพยายามควบคุมความยึดมั่นของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะกลัวจะทำให้นางตกใจ

“ของที่ข้ามอบให้ไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะเอาคืน”

น้ำเสียงของคำพูดนี้ฟังดูเหมือนกัดฟันพูด ซูหว่านรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความกดอากาศรอบตัวเจียงอวี้ลดต่ำลง

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่ว่า เจ้าไม่ได้ถือว่าข้าเป็นสหายหรืออย่างไร? หรือว่าพอเจ้าคืนหยกให้ข้าแล้ว ก็จะไม่คิดเจอข้าอีกเลย?” เจียงอวี้มองนางด้วยดวงตาที่เปี่ยมเสน่ห์ หางตาแดงเรื่อเล็กน้อย ครึ่งแรกของประโยคฟังดูเหมือนเขากำลังอดกลั้น ส่วนครึ่งหลังนั้นทำให้รู้สึกว่าเขากำลังตัดพ้อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม