เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 194

ทว่าตะกร้าของซูหว่านก็ไม่มีที่ว่างพอจะใส่พริกได้อีกแล้ว ทั้งยังเสียดายไม่อยากให้ดอกไม้ต้องช้ำ ทั้งสองจึงเก็บไปได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

คงต้องขึ้นเขาไปอีกรอบในภายหลัง เพื่อเก็บพริกที่เหลือกลับมาให้หมด

เมื่อกลับถึงบ้าน ซูหว่านรีบนำพริกสีเขียวสีแดงที่หามาได้ไปให้ซูอวิ๋นดูเป็นอันดับแรก

“พี่สี่ ข้าเจอของดีมาด้วย”

“ของดีอันใดกัน ข้าขอดูหน่อยว่าเป็นเช่นไร?” ซูอวิ๋นกำลังง่วนอยู่กับการปรุงซีอิ๊วสูตรของเขา ตั้งใจจะทำเก็บไว้อีกหนึ่งไห พอได้ยินซูหว่านบอกว่ามีของดี ก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที

เมื่อเดินเข้ามาดู ก็เห็นผลไม้หน้าตาไม่คุ้นเคยที่ซูหว่านวางไว้บนโต๊ะกองหนึ่ง มีทั้งสีแดงและสีเขียว รูปทรงเรียวยาวแหลม

“นี่คืออะไรหรือ?”

“พริกเจ้าค่ะ เอาไว้ผัดกับข้าวอร่อยมาก ท่านต้องชอบเป็นแน่”

พอซูหว่านพูดถึงเรื่องผัดกับข้าว แววตาของซูอวิ๋นก็พลันเป็นประกายขึ้นมา

“กินได้ใช่หรือไม่” เขายื่นมือไปหยิบพริกสีแดงเม็ดหนึ่งขึ้นมา เช็ดกับเสื้อผ้าสองสามทีแล้วกัดเข้าไปคำหนึ่ง

ซูหว่านมองออกว่าเขาจะทำอะไร จึงรีบร้องห้าม

“พี่สี่ อย่า...”

แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว ซูอวิ๋นเคี้ยวเข้าไปเรียบร้อย ทันทีที่รสเผ็ดซ่านขึ้นมา เขาก็รู้สึกราวกับมีภูเขาไฟระเบิดอยู่กลางใจ ใบหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“อ๊า~ นี่มันอะไรกัน ซูหว่าน เจ้าแกล้งข้าใช่หรือไม่?” เขาใช้มือพัดเข้าปากไม่หยุด

ซูหว่านหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ เป็นการหัวเราะเสียงดังลั่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่สี่ การชิมทุกอย่างไปเรื่อยมันจะทำร้ายท่านเองนะเจ้าคะ”

นางรีบรินน้ำให้ซูอวิ๋น เขาดื่มรวดเดียวหมดไปหลายแก้ว คนอื่น ๆ ในบ้านได้ยินเสียงก็พากันมามุงดูด้วยความสนใจ

เมื่อเห็นสภาพของซูอวิ๋นที่เผ็ดจนแทบแย่ ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะอย่างอดไม่ได้

โชคยังดีที่เขากินไปเพียงคำเล็ก ๆ ดื่มน้ำตามไปหลายแก้วก็ทุเลาลงได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นน้ำตาก็ยังเผ็ดจนไหลออกมา

ถึงจะเป็นคนที่กินเผ็ดได้ แต่การกินพริกดิบก็เป็นอะไรที่ยากจะทนไหว

“ซูหว่าน นี่คืออะไรกันแน่?”

ซูอวิ๋นรู้สึกว่าตนเองเชื่อใจนางมากเกินไป ถึงได้หยิบมากินโดยไม่ลังเลเลยสักนิด

“พริกเจ้าค่ะ ของสิ่งนี้ต้องปรุงให้สุกเสียก่อนถึงจะกินได้ ใครจะกินแบบดิบเช่นท่าน รีบร้อนอะไรกัน ข้ายังพูดไม่ทันจบเลย”

ซูหว่านไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย เป็นเขาเองที่ไม่ยอมฟังให้จบก็รีบยัดเข้าปากไปเอง

ในตอนนั้นเอง ซูมู่ พี่ชายรองก็เดินเข้ามาหยิบพริกแดงเม็ดหนึ่งขึ้นมาพิจารณา แล้วลองดมดู

อีกอย่าง ซูหว่านก็พูดมาขนาดนี้แล้ว แถมยังเกี่ยวกับโรงเตี๊ยมของเขา เป็นเมนูหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใครอีก เขาจะไม่ร่วมด้วยได้อย่างไร?

เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าเป็นคนแรกอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด

“หวานหว่าน ข้าไปด้วย!” ซูอี้หันมายิ้มให้นาง ดวงตาโค้งเป็นเสี้ยว

“ได้เลยเจ้าค่ะ~”

ดังนั้นสามพี่น้องจึงมุ่งหน้ากลับขึ้นเขาไปอีกครั้ง ส่วนท่านแม่ซูก็อยู่ที่บ้านนำดอกชาภูเขาที่ซูหว่านเก็บกลับมาทั้งหมดมาล้างทำความสะอาด เพราะลูกสาวบอกว่าจะนำไปทำสบู่ ของที่จะใช้กับร่างกายก็ต้องจัดการให้สะอาดสะอ้านแน่นอน

น้าสะใภ้และหยางชิงชิงก็ไม่ได้อยู่เฉย เข้ามาช่วยล้างด้วยกัน

พริกบนเขาบริเวณนั้น ทั้งเม็ดสีแดงและสีเขียวรวมกันแล้ว เก็บกลับมาได้เกือบเจ็ดสิบแปดสิบชั่ง

พริกสีแดงสามารถนำไปตากแห้งทำเป็นพริกแห้ง แล้วบดเป็นพริกป่นเก็บไว้ได้

แค่เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ส่วนหนึ่งก็พอ ส่วนพริกสีเขียวก็เก็บไว้สำหรับผัดสด ๆ หรือจะทำเป็นพริกดองก็ได้

ในตอนเย็น ซูหว่านได้ทำเมนูพริกผัดหมู โดยใช้ทั้งพริกเขียวและพริกแดง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วของซูอวิ๋น ใช้หมูสามชั้นส่วนที่มันน้อยเนื้อเยอะ เป็นเมนูที่กินกับข้าวสวยแล้วเจริญอาหารอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำไก่ผัดพริกขี้หนูหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้อีก ขึ้นอยู่กับวิธีการปรุง

เมื่ออาหารถูกยกขึ้นโต๊ะ ทุกคนต่างก็ไม่กล้าลงตะเกียบก่อน เพราะไม่เคยลิ้มลองมาก่อน แต่กลิ่นที่โชยมานั้นช่างหอมยั่วยวนใจเสียจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม