ซูหว่านจะเลี้ยงผึ้งในโรงเรือน ใช้ผึ้งมาทำครีมบำรุงใบหน้า เเละใช้ตัวอ่อนของผึ้งสำหรับทำขี้ผึ้ง
นางต้องการใช้ประโยชน์จากดอกไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เนื่องจากพบพริก จึงต้องเเบ่งพื้นปลูกผักเดิมหนึ่งหมู่ เพื่อปลูกพริกโดยเฉพาะ ซึ่งมีสองสายพันธุ์คือ พริกแดงเเละพริกเขียว
เมล็ดพริกจัดการง่ายมาก เพียงตากแดดสองสามวันจนเเห้ง เเล้วนำไปหว่านในดินที่ชื้น รอให้งอกเป็นต้นกล้าพริก เมื่อต้นกล้าสูงถึงระดับหนึ่งเเล้ว ก็ถอนต้นกล้าพริกทั้งรากออกมาเเยกปลูกได้เลย
พริกเเต่ละต้นควรรักษาระยะห่างกันพอสมควร รดน้ำใส่ปุ๋ยเป็นประจำ อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือประมาณสิบเเปดถึงยี่สิบองศาเซลเซียส
เมื่อต้นกล้าพริกงอกออกมา อากาศก็จะมีอุณหภูมิประมาณนี้พอดี
งานบ้านจิปาถะเหล่านี้มีมากมาย พี่รองเเละพี่สี่จึงไม่รีบร้อนออกไปไหน เเต่ช่วยซูหว่านปลูกดอกไม้ ปลูกพริก เเละจะต้องทำสบู่ในภายหลังด้วย
เมื่อเรื่องของเเปลงดอกไม้เเละพริกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็เป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมเเล้ว ในเวลานั้นพี่ใหญ่ได้เข้าไปในสนามสอบจอหงวน เเละการสอบชุนเหวยกำลังดำเนินอยู่
บ้านพักของเจียงอวี้มีชื่อที่สง่างามมากว่า เรือนน้อยฝูหรง ไม่มีเหตุผลอื่นใด นอกจากมีฝูหรงสองต้นปลูกอยู่หลังบ้าน จึงได้ชื่อนี้
คนรับใช้เก่าเเก่ที่ดูเเลเรือนน้อยฝูหรงนั้น ซูจิ่งเรียกว่าลุงหยวน ในปลายเดือนมีนาคมที่เมืองหลวง อากาศยังคงหนาวเย็น มีลมหนาวพัดโชย หิมะเพิ่งละลายหมดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในช่วงนี้อากาศยังคงชื้นเเละหนาวเย็น
สนามสอบยังคงชื้นเเฉะ การเข้าไปแล้วจะต้องอยู่ถึงเจ็ดวัน ลุงป๋อจึงเตรียมสนับเข่า เเละเสื้อขนจิ้งจอกให้เขาอย่างใส่ใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเป็นหวัดขณะเขียนบทความในสนามสอบ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาในการสอบ เเละไม่คุ้มค่าเลย
เเละที่บ้านเก่าก็มีพ่อซูเเม่ซู ซูเฉินเเละซูอี้อยู่ที่บ้าน ตอนนี้ก็มีน้าชายกับน้าสะใภ้มาช่วยแล้ว ซูมู่ก็เลยต้องกลับไปทำงานที่จีซ่านถัง
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากที่บ้านต้องสร้างบ้านเเละจัดงานเลี้ยง เเละหลังจากนั้นก็ช่วยซูหว่านทำนั่นทำนี่ ทำให้เสียเวลาไปสองเดือนเเล้ว ถึงเวลาต้องกลับไปได้เเล้ว
เเละซูอวิ๋น ก็ต้องออกเดินทางไปเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีในเมืองเซียงโจวด้วย
เขาจำเป็นต้องไปเปิดหูเปิดตา เรียนรู้เเละดูเชฟใหญ่ทำอาหารให้มากขึ้น แล้วนำมาปรับใช้ด้วยตัวเอง อย่างน้อยไปก็ต้องครึ่งปี
เเม่ซูได้เตรียมเสื้อผ้า เงิน เเละรองเท้าใหม่ให้เขา โดยให้พี่สามซูเฉินเอารถไปส่งเขาที่เมืองเซียงโจว
ตอนที่จากไป ซูอวิ๋นได้ให้คำมั่นสัญญาหนักแน่นกับซูหว่านว่า
“ซูหว่าน เจ้ารอข้าเรียนจบกลับมานะ ข้าจะมีอะไรให้เจ้าประหลาดใจเเน่นอน”
เมื่อไม่กี่วันตอนทำสบู่ ซูหว่านระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยไม่ให้น้าชายเเละคนอื่นๆเห็นส่วนสำคัญ เเละเมื่อนางจ้างคนทำงานก็จะให้พวกเขาจัดการเฉพาะส่วนของการบรรจุหีบห่อขั้นสุดท้ายเท่านั้น
ส่วนเเกนหลักที่เป็นความลับสุดยอดเกี่ยวข้องกับสูตรสบู่นมเเพะ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ ยอมลงมือทำเองดีกว่า
ที่สำคัญที่สุดคือซูหว่านไม่ค่อยได้ติดต่อกับครอบครัวของน้าชายมากนัก จึงยังไม่ค่อยไว้ใจ
เมื่อส่งสบู่ชุดนี้เสร็จ ซูหว่านก็จะมุ่งเป้าไปที่เมืองเซียงโจว โดยนางจะผลิตสบู่หลากหลายรูปแบบออกมา เเละเหมือนเดิมคือหาตัวเเทนจำหน่ายมาช่วยขาย
ค่อยๆสร้างชื่อเสียงของสบู่นมเเพะในเซียงโจว เเละค่อยขยายไปยังทุกอำเภอในเขตเมืองเซียงโจว เพื่อรับคำสั่งซื้อ
เมื่อมีคำสั่งซื้อเพิ่ม นางก็จะจัดตั้งโรงงานเพื่อผลิตในปริมาณมาก โดยจะผลิตเเละจัดส่งตามคำสั่งซื้อทั้งหมด
เมื่อชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างสมบูรณ์เเล้ว นางก็หยุดการใช้ตัวเเทนจำหน่าย เเละหันไปพัฒนาหน้าร้านค้าปลีก ผลิตเอง ขายเอง เเละครองตลาดด้วยตัวเอง
การหาตัวเเทนจำหน่ายในช่วงเเรกเป็นวิธีการโปรโมทอย่างหนึ่ง ทำให้ไม่ต้องลงเเรงขายเอง เเละจะช่วยสร้างชื่อเสียงได้อย่างรวดเร็ว เเม้ว่ากำไรต่อสบู่จะน้อยลงไปก้อนละไม่กี่อีเเปะก็ตาม
นางจะสามารถเปิดร้านค้าปลีกของตัวเองได้ภายในเวลาไม่เกินครึ่งปี

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...