ซูหว่านพยักหน้า พร้อมทำท่าสาบาน
“ได้ รับรองไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด”
หลังจากซูเฉินนั่งลง เขาก็มองซูหว่านอย่างจริงจังเเละพูดว่า
“จริงๆเเล้ว ข้ากับลุงเจียงเป็นศิษย์อาจารย์กัน หลายปีที่ผ่านมา ท่านได้แอบถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ให้ข้า โดยไม่ให้เเพร่งพรายไปไหน ตอนนี้อาจารย์มีธุระต้องจากเซียงโจวไป ท่านเลยทิ้งกุญเเจประตูบ้านไว้ให้พี่ ดังนั้น ดอกไม้ในสวน เจ้าจะเก็บเมื่อไรก็ได้”
ซูหว่านรอให้เขาพูดจบ เเล้วเบิกสองตากว้าง เอามือปิดปาก ทำท่าตกใจสุดขีด
“สวรรค์ พี่สามเป็นลูกศิษย์นายพรานเจียงหรือ งั้นวรยุทย์เขาดีมากใช่ไหม พี่สามบินได้อะป่าว”
เอิ่ม…
ไม่รู้ทำไม ซูเฉินมองดูปฏิกิริยาที่น้องสาวเเสดงออกมาราวกับชื่นชมนั้น เขารู้สึกว่ามันค่อนข้างปลอม
เเต่ว่า..น่ารักจังเลย ตากลมโตเป็นประกาย
เขาพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เเดงเถือก
“อื่อ เดินบนกำเเพงไต่หลังคายังพอไหว เเต่จะให้บินตลอดก็ไม่ได้หรอก นั่นมันกลายเป็นเซียนเเล้ว”
พี่สามยังอุตส่าห์ตอบคำถามของนางอย่างจริงจังอีก น่ารักจะตายอยู่แล้ว ซูหว่านถึงกับใจละลายเพราะความน่ารักของเขา
สองพี่น้องต่างก็ซึ้งใจซึ่งกันเเละกัน ต่างฝ่ายต่างก็พยายามเอาชนะใจกัน ไม่เเปลกที่เป็นพี่น้องเเท้ๆเลย
“พี่สามเก่งจังเลย!”
ซูหว่านทำหน้าตาเหมือนเเฟนคลับตัวยง ซึ่งไม่ใช่การเเกล้งทำ
“ไป พี่สามจะพาเจ้าไปเก็บดอกไม้”
ซูเฉินล้วงกุญเเจออกมาจากตัว เเล้วโบกไปมาต่อหน้าซูหว่าน
จากนั้นสองพี่น้องก็หิ้วตะกร้าคนละใบ เเอบที่บ้าน พุ่งตรงไปยังลานบ้านเล็กๆของลุงเจียงทันที
ดอกท้อเอ๋ย อยู่ในอันตรายแย้ว!
เมื่อเปิดประตูบ้านลุงเจียงเข้าไป ก็เห็นดอกไม้ร่วงหล่นเต็มสวนไปหมด กลีบดอกท้อบางส่วนปลิวว่อนไปในอากาศตามแรงลม ดอกไม้ที่ปลูกอยู่ใต้ต้นอย่างดอกไฮเดรนเยียก็บานสะพรั่ง รวมถึงดอกเเมกโนเลียสีขาวสวยงามก็บานด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปในเเดนสวรรค์
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกไป
“สวยจังเลย~”
“สวยใช่ไหม ของเจ้าทั้งหมดเลย อยากทำอะไรก็ทำไปเลย ขอแค่อย่าให้รากมันเสียหายก็พอ”
ซูเฉินไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับดอกไม้ใบหญ้าพวกนี้ ดังนั้นคำพูดที่ออกมาจึงตรงไปตรงมามาก
“พี่สาม ท่านเเสดงวิชาตัวเบากระโดดขึ้นต้นไม้ให้ดูหน่อยสิ!”
ซูหว่านชี้ไปที่ต้นท้อเเล้วพูดกับซูเฉิน
“พอเเล้ว ครึ่งหนึ่งทำดอกไม้เเห้ง อีกครึ่งสกัดเป็นน้ำบริสุทธิ์”
ซูหว่านคิดว่าน่าจะเหลือดอกไม้ไว้บนต้นสักหน่อย ต้นที่โล้นๆก็ดูน่าเกลียดเกินไป
เมื่อสองพี่น้องกลับถึงบ้าน เเม่ซูก็กลับมาเเล้ว ดูท่าทางจะถูกยายหลิวไล่กลับมา
ไม่อย่างงั้นล่ะก็ ทำไมเเม่ซูถึงได้มีสีหน้าเหมือนไม่อยากมีชีวิตอยู่
ตัวนางเองก็โมโหแทบเเย่ ป้าสะใภ้เองก็ปลอบอยู่ข้างๆว่าอย่าไปโกรธผู้เฒ่าเลย
“ยายหลิวคนนี้ช่างไม่มีเหตุผลจริงๆ ข้าพูดกับนางดีๆ นางกลับด่าว่าข้าไปขัดขวางทางทำมาหากินของนาง ทั้งๆที่บ้านเราก็ไม่ใช่ไม่ได้ให้เงินนาง เเล้วนางก็ไม่ฟังอะไรเลย ถ้าข้ากลับช้ากว่านี้อีกนิด นางคงเอาไม้กวาดมาตีคนเเล้ว”
ซูหว่านเพิ่งเข้าประตูมาก็ได้ยินแม่ซูบ่นไม่หยุด ใบหน้าเเดงก่ำด้วยความโกรธ
พ่อซูที่อยู่ข้างๆก็ไม่รู้จะพูดยังไง เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ จะไปหาเรื่องทะเลาะกับคนเเก่มันก็ยังไงอยู่
“ท่านเเม่ เป็นอะไรไป ยายหลิวไม่ยอมหรือ” ซูหว่านกับซูเฉินวางดอกท้อไว้ใต้ชายคา นางเดาได้อยู่เเล้ว
การคุยกับคนเเก่ที่ไม่มีเหตุผลนี่ มันเปลืองเเรงที่สุดเลย
“ใช่น่ะสิ เเม่โดนนางด่าสะไม่มีชิ้นดีเลย” แม่ซูฟ้องลูกสาวด้วยความน้อยใจ
“นางยังบอกอีกนะว่า ถ้าอยากให้นางยกที่ดินให้ ก็ง่ายๆ ให้นางยี่สิบตำลึงนางก็จะยอม”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...