“เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้ยี่สิบตำลึง ที่นาหนึ่งหมู่ยังเเค่ยี่สิบตำลึงเอง ปลูกข้าวได้เป็นร้อยชั่งต่อปี ส่วนที่ดินปลูกผักของนางไม่ได้ทำจากทองซะหน่อย เเถมมีเเค่ครึ่งหมู่ นางกล้าเรียกจริงๆ”
ป้าสะใภ้ฟังเเล้วก็รู้สึกว่าไร้เหตุผลสิ้นดี ไม่มีใครกล้าโก่งราคาขนาดนี้หรอก
ซูหว่านคิดทบทวนดูเเล้ว เมื่อที่นี่ทำไม่ได้ โรงงานก็คงสร้างไม่ได้
เเต่ลานบ้านเล็กๆของตระกูลซูนั้นไม่พอใช้งานจริงๆ
“เงินยี่สิบตำลึงไม่มีทางให้นางหรอก เงินของเราไม่ได้ลอยมาจากฟ้าซะหน่อย”
ถึงแม้ว่าตอนนี้เงินยี่สิบตำลึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับซูหว่าน เเต่นางก็ไม่อยากเป็นคนโง่ให้ใครหลอก
“จริงๆเล้วเรายังมีอีกคนที่สามารถไปหาได้นะ” จู่ๆพ่อซูก็พูดแทรกขึ้นมา
“ใครอ่ะ” ซูหว่านถาม ทุกคนหันไปมองเขาพร้อมกัน
“ผู้ใหญ่บ้านเหอ!” พ่อซูเอ่ยชื่อออกมา
ผู้ใหญ่บ้านเหอ นับตั้งเเต่เรื่องนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่เคยติดต่อหรือไปมาหาสู่กันอีกเลย แม้เจอหน้ากันในหมู่บ้านก็ไม่ทักทายกัน
“เจ้าไม่ได้เล็งที่ดินไร่กว่าของเขาหรอกนะ!” แม่ซูค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อ
ที่ดินปลูกผักไร่กว่าของตระกูลเหออยู่ไม่ไกลจากบ้านตระกูลซูเลย คนในบ้านซูยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านก็มองเห็นได้ทันที เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงเเล้ว
หากหน้าบ้านใช้ไม่ได้จริงๆ ก็เหลือเเค่ตระกูลเหอนี่เเหล่ะ ที่ดินปลูกผักของตระกูลซูอยู่ติดกับของเขา เเต่ปลูกพริกไปเเล้ว ของดีเเบบนี้จะขุดทิ้งได้ยังไง พี่สี่ต้องเสียใจตายเเน่ๆ เขายังบอกอีกว่าอีกสักพักจะกลับมาดู หลังจากปลูกพริกแล้ว ยังเหลือที่ดินอีกครึ่งหมู่แต่ก็ไม่พอใช้อยู่ดี
จริงๆเเล้วตระกูลซูยังมีที่ดินอีกหลายแปลง เเต่ก็อยู่ไกลออกไปบนเนินเขา เหมาะสำหรับปลูกข้าวโพด มันเทศ พวกนั้นก็ใช้ไม่ได้
“นอกจากที่ดินของบ้านพวกเขาเเล้ว ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเเล้ว ลูกสาวจะใช้ทำเรื่องสำคัญ ถึงเเม้จะไม่ถูกกัน ก็ต้องไปคุย”
พ่อซูยังคงมีเหตุผลในเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพราะเรื่องความแค้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะไม่ยอมเสียหน้า
แม่ซูก็รู้สึกว่ามีเหตุผล ซูหว่านจะซื้อที่ดินสร้างโรงงานเพื่อหาเงิน จะสะเพร่าได้อย่างไร
เเต่บ้านอื่นๆไม่เหมือนกัน พวกเขามีเเรงงานเยอะ ที่ดินรกร้างว่างเปล่ามากมายเหล่านี้สามารถบุกเบิกใหม่ได้ เพิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ในไร่ก็ยังไม่ได้ปลูกผักอะไรเลย โล่งเตียนไปหมด พวกเขาได้เงินไป ถือว่าเป็นค่าเหนื่อยในการบุกเบิกที่ดินรกร้างในปีนั้น ผักในไร่ก็ไม่ได้เอาของพวกเขาไป ทุกคนตกลงพูดคุยกัน ได้ประโยชน์กันทุกคน จะไม่มีความสุขได้อย่างไร
“นี่เป็นวิธีที่ดีเหมือนกันนะ!”
เเม่ซูตบเข่าฉาดใหญ่ รู้สึกว่าวิธีของซูหว่านนี่ดีจริงๆ
“เฮ้ ต้องเป็นลูกสาวของข้านี่เเหล่ะ ฉลาด!” พ่อซูยกนิ้วโป้งให้ซูหว่าน
เงินสองตำลึงก็ไม่ได้มากมายอะไร เเต่ก็มากพอที่จะให้ยายหลิวที่ชอบหาเศษหาเลย ยอมยกที่ดินหน้าบ้านให้ได้ เเถมยังช่วยประหยัดเวลา ทำให้สร้างโรงงานชั่วคราวได้เร็วขึ้น
ซูหว่านยังต้องคัดเลือกคนดีมีความสามารถ ในอนาคตโรงงานก็ต้องมีผู้จัดการ เเละนางจะทำธุระสำคัญ จะให้อยู่เฝ้าโรงงานทุกวันก็คงไม่ได้ ก็ต้องเลือกคนที่ไว้ใจได้มาเป็นผู้จัดการ
ตัวเลือกเเรกของซูหว่านคือน้าชาย ประการเเรก เขาเป็นญาติที่สนิทที่สุดกับตระกูลซู เเละยังเป็นญาติฝ่ายแม่คนเดียวของเเม่ซูด้วย เมื่อตระกูลซูร่ำรวยขึ้น ก็ต้องช่วยเหลือเขาบ้าง การให้เขามาอยู่ในตำเเหน่งนี้เป็นการช่วยเหลือที่ดีที่สุด ซูหว่านจะไม่ทำให้เขาต้องลำบาก
ประการที่สอง เท่าที่ดูตอนนี้ น้าชายเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่ได้เเสดงความประสงค์ร้ายอะไร เเละปกติก็ไม่เคยคิดจะสืบเรื่องสบู่นมเเพะ เเต่เรื่องความประพฤติก็ยังต้องรอการตรวจสอบต่อไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...