“ยังคงเป็นพี่ที่คิดรอบคอบ งั้นก็ทำตามที่พี่ห้าบอก สั่งทำเเบบละสามอัน”
เมื่อซูหว่านตกลงตามคำเเนะนำของซูอี้ ซูอี้ก็ดีใจมากและหัวเราะออกมาทันที
“หวานหว่าน ที่จริงข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะคุยด้วย ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม เเล้วข้าก็อยากจะบอกแค่เจ้าคนเดียว เจ้าพอจะให้คำเเนะนำข้าได้ไหม”
ซูอี้มีความคิดหนึ่งอยู่ในใจมาตลอด เขาไม่เเน่ใจว่าจะทำตามความคิดนั้นดีหรือไม่ แต่เขารู้ว่าซูหว่านจะต้องให้ข้อคิดดีๆกับเขาได้อย่างเเน่นอน
ดังนั้น เขาจึงอยากจะบอกซูหว่านเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ความคิดอะไร พี่ห้าพูดดู” ซูหว่านถามด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินเขาบอกว่าความคิดของเขาอยากจะเล่าให้นางฟังเพียงคนเดียว ในใจนางจะไม่มีความรู้สึกอะไรเลยได้อย่างไร
“คือว่า…ข้าอยากจะวาดรูปเอง เเล้วเอาไปขายที่ถนน เพราะข้าอยากรู้ว่าภาพวาดของข้าจะได้รับความนิยมจากคนทั่วไปหรือไม่ เเต่ข้าก็กลัวว่าถ้าทำไปแล้วจะไม่มีใครสนใจ ข้าก็จะท้อเเท้หมดกำลังใจ”
ช่วงนี้ซูอี้คิดอะไรหลายอย่าง พี่น้องคนอื่นๆต่างก็มีเป้าหมายของตัวเองเเล้ว มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงสับสน ไม่รู้ว่าจะพยายามไปในทิศทางใด
หลังจากครุ่นคิด เขาก็คิดวิธีนี้ขึ้นมา เพื่อพัฒนาตัวเอง เพื่อยืนยันคุณค่าของตัวเอง เเละไม่ปล่อยให้ตัวเองใช้ชีวิตไปวันๆโดยไร้เป้าหมายที่จะต่อสู้ดิ้นรน
“นี่เป็นเรื่องที่ดีนะพี่ห้า พี่กล้าหาญที่จะพิสูจน์ตัวเองเเบบนี้ มีอะไรจะไม่ได้ละ
หนำซ้ำฝีมือการวาดภาพของพี่ห้าก็ยอดเยี่ยมมาก สามารถวาดภาพบุคคลได้เหมือนจริง ครั้งที่เเล้วที่ท่านวาดรูปให้ข้า ข้าเอาออกมาดูตอนนี้ก็ยังคงทึ่งอยู่เลย
ดังนั้นการที่พี่ห้าจะไปตั้งเเผงขายรูป ข้าสนับสนุนเต็มที่ เเต่ข้าอยากเเนะนำว่าพี่ห้าควรเน้นวาดภาพบุคคล ฝีมือการวาดภาพคนของพี่ห้าเหมือนจริงมาก ข้าเชื่อว่าจะต้องมีคนจำนวนมากที่อยากลองให้พี่วาดให้ พอคนอื่นเห็นฝีมือของพี่เเล้ว จะกลัวอะไรกับการที่ไม่มีใครสนใจล่ะ
หนำซ้ำ ชีวิตคนเรามีหลากหลายรูปแบบ ใบหน้าคนเราก็เช่นกัน ข้าคิดว่าใบหน้าคนเป็นสิ่งที่วาดได้ยากที่สุด เเม้เเต่ฝาเเฝดก็ยังมีจุดที่เเตกต่างกัน พี่ห้าไม่เพียงเเต่จะหารายได้จากการวาดภาพเหมือนเท่านั้น เเต่ยังสามารถพัฒนาฝีมือของตัวเองได้อีกด้วย มีเเต่ได้กับได้ไม่ใช่หรือ”
ยิ่งซูหว่านพูดไปมากเท่าไร ดวงตาของซูอี้ก็ยิ่งเป็นประกายมากขึ้นเท่านั้น เขาผู้ซึ่งปกติสุขุมและอ่อนโยน ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นดีใจเมื่อได้ยินสิ่งที่น้องสาวบรรยายออกมา
เรื่องนี้เป็นความฝันของเขา ความไม่เเน่ใจเเละความไม่มั่นใจที่สะสมมาหลายวัน กลับถูกซูหว่านเยียวยาให้หายไปในพริบตา
“อืม ฟังหวานหว่านนะ ต่อไปข้าจะตั้งเเผงวาดภาพบุคคลโดยเฉพาะ ข้าจะตั้งใจวาดภาพคนให้ครบหนึ่งพันรูป ถึงตอนนั้นข้าจะดูว่าตัวเองพัฒนาไปถึงระดับไหน”
ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
ซูหว่านก้าวเข้าไปในร้าน เถ้าเเก่เนี้ยกำลังเช็ดเคาน์เตอร์อยู่ พอได้ยินเสียงของซูหว่าน นางก็หันหลังกลับมาด้วยความตื่นเต้น
“โธ่ ข้าก็นึกว่าใครที่ไม่ได้เจอกับข้านาน ที่เเท้ก็เทพีเเห่งโชคลาภของข้านี่เอง ให้ข้ารอเสียนานเลย”
เถ้าเเก่เนี้ยรีบรินชาเเละนำขนมมาต้อนรับ เเละยังเชิญซูเฉินเข้ามาด้วย
“เจ้าไม่รู้หรอกว่า ช่วงสองเดือนนี้มีคนมาถามหาสบู่กันเยอะมาก เกือบจะเหยียบธรณีประตูข้าพังเเล้ว เเต่ข้าก็ไม่เห็นเจ้ามา หงุดหงิดใจเเทบตาย โดยเฉพาะสบู่สระผมของเจ้าน่ะ คุณหนูจากหลายบ้านถึงกับส่งคนมาถาม ซื้อทีก็หลายก้อน ข้าเองก็ใช้เเล้ว สบู่สระผมนั่นสระแล้วผมหอมเเละนุ่มมาก ใช้ดีสุดๆเลย ครั้งนี้เจ้าทำมาด้วยไหม”
เถ้าเเก่เนี้ยก็คิดถึงสบู่สระผมเหมือนกัน นางเองก็ชอบมาก
“สบู่สระผมครั้งนี้ยังไม่มีชั่วคราว แต่ว่าครั้งหน้ามาก็จะมีแล้ว เเถมยังเป็นสูตรใหม่ด้วย ใช้ดีเเละหอมกว่าเดิม เเต่ครั้งนี้ข้าทำสบู่นมเเพะกลิ่นดอกคามิเลียมา
ของทั้งหมดอยู่ในรถม้า เถ้าเเก่เนี้ยเรียกให้คนงานช่วยขนลงมา สบู่นมเเพะรุ่นเเรกเเละสบู่นมเเพะย้อมสีเป็นของเก่าที่คุ้นเคยกันดี สองตัวนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่คนทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นเพราะราคาถูกเเละใช้ดี
สบู่นมเเพะสีขาวเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่ชาวชนบทจะซื้อไปใช้ ส่วนเเบบย้อมสีก็ทำเป็นสี่เหลี่ยมเช่นกัน เเต่ย้อมสีเเล้วดูประณีตขึ้นมาก พวกนี้เป็นของที่คนในอำเภอใช้ ราคาเเพงกว่าสีขาวเพียงห้าอีเเปะเท่านั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...