เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 21

หลังจากที่เชิญลุงเจียงเข้ามาในบ้านแล้วสอบถามเรื่องราว ก็ได้ความว่าซูหว่านแอบทุกคนเข้าไปในป่าลึกคนเดียว แถมยังเกือบโดนหมูป่าขวิดอีกด้วย

"ใช่แล้ว ถ้าไม่ได้เด็กคนนี้ หมูป่าตัวนั้นคงหนีไปแล้ว และคงไม่ตกลงไปในกับดักหรอก ข้าก็คิดว่าจะฆ่าเอาเนื้อ แล้วแบ่งมาให้พวกเจ้ากิน!”

ลุงเจียงวางเนื้อลงบนโต๊ะ ดูแล้วน่าจะหนักราวๆ ยี่สิบชั่ง เป็นเนื้อส่วนขาหลังดีๆ ทั้งนั้น

"ท่านนายพรานเจียง ไม่ต้องมากมายขนาดนี้ ท่านเก็บกลับไปบ้างเถอะ!"

ซูจิ่งรู้สึกเกรงใจเกินกว่าจะรับเนื้อหมูมากมายถึงเพียงนี้ เนื้อหมูยี่สิบชั่ง คิดเป็นเงินในตลาดก็ปาเข้าไปหนึ่งร้อยหกสิบเฉียนแล้ว

อันที่จริง นี่เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริงก็คือ ลุงเจียงรู้สึกสงสารลูกศิษย์ เห็นว่าฐานะทางบ้านลำบาก จึงใช้เรื่องของซูหว่านเป็นข้ออ้างในการนำเนื้อมาให้ ซูหว่านเองก็เข้าใจดีว่า คนเก่งกาจอย่างท่านลุงเจียง มีหรือจะไม่มีปัญญาจัดการกับหมูป่าตัวหนึ่งได้

"ข้าแบกมาแล้ว จะให้หอบกลับไปได้อย่างไรกัน พวกเจ้ารับไว้เถิด!"

เขาตั้งใจนำมามอบให้ จะมีแก่ใจคิดจะนำกลับไปได้อย่างไร

ซูจิ่งไม่อยากติดค้างบุญคุณชายผู้นี้ จึงชวนลุงเจียงอยู่ทานอาหารเย็นก่อนกลับ ด้านลุงเจียงจึงอยู่ต่อโดยไม่ได้ปฏิเสธ

ซูหว่านยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง ซูจิ่งหันกลับมาตีหน้าผากนางทีหนึ่ง

"พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าเข้าไปในป่า ทำไมถึงไม่เชื่อฟัง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำอย่างไร"

ยัยเด็กคนนี้ดื้อรั้นจริงๆ กำชับตั้งหลายครั้ง สุดท้ายก็ยังเข้าไปในป่าจนได้

ซูหว่านแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนรู้สึกผิดอยู่บ้าง

"เก็บเห็ดเพลินไปหน่อย เผลอลืมไปชั่วขณะ คราวหน้าจะไม่ทำอีกแล้ว!"

ซูจิ่งก็ไม่อยากทำให้นางลำบากใจ จึงถอนหายใจอย่างจนปัญญา จากนั้นก็ไปช่วยซูอวิ๋นก่อไฟทำอาหาร ซูอวิ๋นมองเนื้อมากมายขนาดนี้ รู้สึกเหมือนความสุขมาถึงอย่างกะทันหันจริงๆ

เขาสามารถใช้ของเหล่านี้ไปปรุงอาหารได้อย่างเต็มที่

คืนนี้มีแขก จึงหุงข้าวผสมมันเทศหม้อใหญ่ ใส่มันเทศน้อยกว่าข้าวสาร ซูหว่านมองซูอวิ๋นผัดอาหารอยู่ข้างๆ นางสังเกตว่ายุคสมัยนี้ดูเหมือนจะไม่มีเครื่องปรุงรสอย่างซีอิ๊ว อาหารที่ทำจึงดูจืดชืด

ซูอวิ๋นผัดอาหารคล่องแคล่วมาก จับกระทะเหล็กใบใหญ่สะบัดไปมาราวกับพ่อครัวมืออาชีพ ทั้งที่ไม่ได้เรียนมา สมกับที่เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการอาหารในอนาคตจริงๆ

"น้ำปรุงรสหรือ" ซูอวิ๋นไม่เข้าใจ

“ถูกต้อง ก็คือแบบที่สามารถเก็บรักษาอาหารได้นาน เมื่อเติมลงไปเพียงเล็กน้อยก็สามารถชูรสชาติของอาหารให้เลิศล้ำยิ่งขึ้น วิธีปรุงอาหารของพวกเราที่นี่ดูจะยังเรียบง่ายเกินไป เพียงคุมเรื่องของอุณหภูมิความร้อนเท่านั้น ข้าคิดว่าเราควรต้องมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ พัฒนาไปสู่ตำรับอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง!"

ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม ซูอวิ๋นใฝ่ฝันที่จะสร้างเอกลักษณ์ของตนอยู่เสมอ เขามีกลเม็ดเคล็ดลับมากมายในการเตรียมวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นการทอด ผัด ต้ม ตุ๋น หรืออบ เขาคิดมาหมดทุกอย่าง แต่สิ่งที่เขาไม่ได้ใส่ใจคือเรื่องของเครื่องปรุงรส เขาปรารถนารสชาติที่แตกต่าง แต่ก็ยังหาแนวทางที่ใช่ไม่เจอ ความจริงแล้วความสามารถในการสร้างสรรค์ของเขานั้นยอดเยี่ยม มีลูกเล่นมากมายที่ทำให้ลูกค้าติดใจ แต่ความแปลกใหม่เมื่อนานไปก็จะกลายเป็นความจำเจ เขาจึงต้องคิดค้นลูกเล่นใหม่ๆ อยู่เสมอ เขาต้องทำให้อาหารชนิดนั้นกลายเป็นตำนาน ตำนานเท่านั้นที่จะอยู่ยืนยง

เมื่อซูอวิ๋นฟังคำพูดนั้นก็เริ่มครุ่นคิดวนในหัว เขาพยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ก็ไม่แน่ใจนัก พึมพำทบทวนคำพูดของนางซ้ำไปมา

จริงด้วย พวกเขาทำอาหารไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพียงแค่ควบคุมไฟและรสชาติเค็มให้ดีก็พอแล้ว ถ้าสามารถคิดค้นเครื่องปรุงรสพิเศษบางอย่างออกมาได้ก็คงดี ซึ่งจะเปลี่ยนรสชาติที่จำเจได้บ้าง

ต่อมาเขาทำเนื้อต้มเกลืออีกอย่าง เอาไว้สำหรับลวกผัก นี่ก็เป็นวิธีที่ซูอวิ๋นคิดขึ้นมา มีความคล้ายหม้อไฟ เนื้อต้มเกลือยิ่งต้มนานก็จะยิ่งเข้าเนื้อ ผักที่นำไปลวกก็จะอร่อย ได้รสชาติเนื้อสัตว์ยิ่งขึ้น

นับเป็นวิธีที่ไม่เลวเลย

เขาถามซูหว่านถึงวิธีการทำมันทอด ซูหว่านจึงกล่าวแนะว่าให้ปฏิบัติตามขั้นตอนโดยละเอียด เขาหวังจะปรุงให้ได้รสชาติเช่นเดียวกับที่นางทำ ไม่มีกลิ่นไหม้เลยแม้แต่น้อย ทว่าขณะที่กำลังทอดนั้นยังไม่อาจควบคุมไฟให้คงที่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม