แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือสวนดอกไม้อยู่ไกลจากอำเภอชิงเหอเกินไป การขนส่งจึงเป็นเรื่องลำบาก
หากดอกไม้สดหากเหี่ยวเฉาเน่าเสียก็จะส่งผลต่อกลิ่นอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ดอกไม้ที่สดใหม่
ในขณะที่ซูหว่านกำลังมืดแปดด้าน ซูอี้ก็ได้เสนอความคิดหนึ่งขึ้นมา
“หวานหว่าน ข้าว่า หากเจ้าอยากจะทำการค้าสบู่นมแพะให้รุ่งเรือง ก็ย้ายมาตั้งโรงงานที่เมืองเซียงโจวเลยดีกว่า ที่นี่มีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ สามารถส่งดอกไม้สดให้เจ้าได้ไม่จำกัด เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปมาระหว่างอำเภอชิงเหอกับเมืองเซียงโจว พอได้ดอกไม้มาก็สกัดเป็นน้ำดอกไม้ แล้วค่อยนำไปทำสบู่ขาย เป็นอันสิ้นเรื่อง เมืองเซียงโจวเป็นแหล่งรวมผู้คนมากความสามารถและทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทุกสิ่งล้วนหาได้ ในอนาคตเมื่อกิจการของเจ้าเติบใหญ่ขึ้น เซียงโจวก็จะเป็นตลาดหลักของเจ้าอยู่ดี ในเมื่อไม่ช้าก็เร็วก็ต้องย้ายออกมา ไยไม่ย้ายมาเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยเล่า?”
ซูอี้คิดว่าหากซูหว่านย้ายมาทำการค้าที่เซียงโจวโดยตรง นางก็จะไม่ต้องวุ่นวายเดินทางไปไหนมาไหนให้เหนื่อยยาก ทั้งยังประหยัดเรื่องต่าง ๆ ไปได้อีกมาก
เขาเองก็ไม่อยากเห็นน้องสาวต้องเดินทางไปกลับให้วุ่นวายอยู่ทุกวัน มันเหนื่อยแสนเหนื่อย
“แต่ว่า หวานหว่านเพิ่งจะซื้อที่ดินเพื่อปลูกดอกไม้และสร้างโรงงาน หากตัดสินใจย้ายไปเซียงโจวตอนนี้ ที่ดินเหล่านั้นจะไม่เสียเปล่าหรือ?” ซูเฉินคำนึงถึงเรื่องที่ซูหว่านเคยทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับการซื้อที่ดิน
หากย้ายไปเซียงโจวเลย ที่ดินเหล่านั้นก็เท่ากับซื้อมาทิ้งเปล่า
“ทำการค้าย่อมมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดกันได้ ที่ดินผืนนั้นอย่างไรเสียก็ยังใช้ปลูกธัญพืชได้ ไม่มีทางขาดทุนหรอก”
ซูอี้มองการณ์ไกล ที่ดินสำหรับเพาะปลูกเช่นนี้ ซื้อมาเท่าไหร่ก็ไม่ขาดทุน โฉนดก็อยู่ในมือ ต่อให้วันหนึ่งล้มละลายขึ้นมา ก็ยังกลับมาทำนาสร้างตัวใหม่ได้
เมื่อได้ฟังคำพูดของพี่ห้า ซูหว่านพลันได้สติและไตร่ตรองตาม ก่อนหน้านี้นางคิดการณ์ไม่รอบคอบ คิดจะทำอะไรก็ทำทันที รีบร้อนซื้อที่ดิน ตั้งใจจะปลูกดอกไม้และสร้างโรงงานด้วยตนเอง แต่ตอนนี้กลับต้องมาติดขัดเพราะปัญหาเรื่องการจัดหาดอกไม้สด ทำให้นางเพิ่งตระหนักว่าการตัดสินใจที่ผ่านมานั้นเต็มไปด้วยช่องโหว่
หากยังดึงดันจะสร้างโรงงานที่บ้านเกิด ไม่เพียงแต่เรื่องการขนส่งดอกไม้จากแดนไกลจะเป็นปัญหาใหญ่ แม้แต่การที่นางจะเดินทางออกไปเจรจาการค้าหรือซื้อของก็ไม่สะดวกเช่นกัน
ยิ่งอยู่ในชนบทห่างไกล หากบรรดาคู่ค้าจะมาพบปะก็คงจะไม่สะดวก
“อันที่จริง ที่ข้าคิดจะตั้งโรงงานที่บ้านเกิดก็เพราะเป็นห่วงเรื่องบ้านใหม่ที่เราเพิ่งสร้างเสร็จ ยังอยู่กันได้ไม่กี่วันก็ต้องจากไปแล้ว อีกทั้งท่านพ่อท่านแม่เองก็คงทำใจลำบาก ข้ายอมรับว่าข้าคิดไม่รอบคอบจริง ๆ เรื่องที่ดินนั้นไม่นับเป็นปัญหาใหญ่ ข้ายังนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ ข้าแค่กลัวว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่ยอมมาเซียงโจวกับข้า”
ซูอี้คิดว่า รอให้นางประสบปัญหาด้วยตนเอง ได้รับบทเรียนแล้วจดจำไว้ ครั้งต่อไปนางจะได้คิดให้รอบคอบก่อนลงมือทำ มิต้องให้เขาคอยเตือน ย่อมเป็นแนวทางที่ดีกว่ามิใช่หรือ?
ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป ยังสามารถเปลี่ยนใจได้ ซูหว่านปรับสภาพจิตใจของตนเองอย่างรวดเร็ว ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ก่อนอื่นต้องกลับไปปรึกษาหารือกับคนในครอบครัวก่อน จะตัดสินใจอะไรโดยพลการไม่ได้
ซูหว่านลุกขึ้นจากคันนา แล้วปัดฝุ่นตามเนื้อตัว
“พี่สาม พี่ห้า พวกเรากลับบ้านกันเถอะ กลับไปปรึกษาท่านพ่อท่านแม่เรื่องย้ายมาอยู่ที่เซียงโจว”
“หากกลับตอนนี้ ต้องเดินทางตอนกลางคืน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับดีกว่า!”
ซูเฉินคำนวณเวลาดูแล้ว หากตอนนี้กลับไปที่โรงเตี๊ยมในเมืองเซียงโจวเพื่อเตรียมรถม้า ก็คงจะเป็นเวลาบ่ายแล้ว หากจะออกจากเมืองกลับบ้านวันนี้ ต้องเดินทางผ่านภูเขาซึ่งก็ลำบากพอแล้ว ยังต้องกังวลเรื่องการเดินทางในเวลากลางคืนอีก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...