หยางหมิงรู้ดีว่าสบู่จากนมเเพะทำกำไรได้มาก และเขาก็รู้ว่าถ้าธุรกิจสบู่นมเเพะนี้ประสบความสำเร็จ จะหมายถึงอะไร
จะมีคนจำนวนมากที่อิจฉาธุรกิจนี้ ดังนั้นสูตรสบู่นมเเพะจึงเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้ได้
เพื่อเเสดงความภักดี เขาก็ได้กล่าวคำสาบานอย่างจริงใจต่อหน้าซูหว่าน
ซูหว่านตัดสินใจใช้น้าชายด้วยเหตุผลสองประการ หนึ่ง ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่บ้าน เขาไม่ตั้งใจถามหรือตั้งใจฟังเรื่องต่างๆ เเต่จะหลีกเลี่ยงความสงสัย นี่คือคนฉลาด
สอง เขาเป็นญาติเพียงคนเดียวของเเม่ซู ดังนั้น ซูหว่านจึงควรช่วยเหลือทั้งในเเง่ของความรู้สึกเเละเหตุผล
“น้า ข้าเชื่อใจท่าน ต่อไปเรามาช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ เพื่ออนาคตที่สดใสของเรา”
ตอนที่ซูหว่านพูดประโยคนั้น สีหน้าอันเเน่วเเน่ของนาง ดูราวกับหัวหน้าทีมขายอันดับหนึ่งในกลุ่มเซลล์ยอดขายดีเด่น
……
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนรับประทานอาหาร พ่อซูก็ได้ให้คำตอบกับซูหว่านว่า
“หวานหว่าน พ่อกับเเม่ได้ปรึกษากันเเล้ว เรื่องไปเซียงโจว จะมีเเม่ของเจ้ากับพี่ชายของเจ้า เเละครอบครัวของน้าชายไปกับลูกด้วยเพื่อช่วยกัน ส่วนพ่อก็จะอยู่เฝ้าบ้าน ดูเเลไร่นาในฤดูนี้ให้ดี รวมถึงพริกในไร่ด้วย จะไม่มีคนดูเเลก็ไม่ได้ไม่ใช่หรือ
รอเก็บเกี่ยวข้าวฤดูนี้เสร็จ พ่อค่อยไปหาเจ้าที่เซียงโจว เมื่อคืนพ่อก็คิดเเล้วว่าพวกเจ้าพี่น้องทั้งหกคนจะต้องประสบความสำเร็จในอนาคต พ่อก็ไม่อาจมองเเค่สิ่งตรงหน้าเเบบคนสายตาสั้นได้ เเต่พ่อเป็นคนที่ทำอะไรมีต้นจนจบ ฤดูข้าวนี้พ่อจะต้องเก็บเกี่ยวให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะถือว่าจบ”
พ่อซูตรากตรำทำงานมาเกือบทั้งชีวิต ทันใดนั้นก็จะต้องทิ้งสถานะคนเเบกจอบเสียเเล้ว เขายังไม่ค่อยชิน
ไม่เเน่ว่า นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่เขาได้ทำนา
ตอนนี้ นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดจริงๆ พ่ออยู่บ้านดูเเลไร่นาเเละเฝ้าบ้าน ส่วนคนอื่นๆก็ไปบุกเบิกที่เซียงโจวด้วยกัน
ในเมื่อคนในครอบครัวตกลงเเล้ว ซูหว่านก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป
นางยกเลิกออเดอร์เตาเผาอิฐ เเละเเจ้งเจียงเซิงกับคนอื่นๆให้ถอนต้นกล้าดอกไม้ที่ปลูกไว้บนพื้นที่หนึ่งหมู่กว่าๆหน้าบ้านตระกูลซูออก
เมื่อไปตั้งรกรากที่เซียงโจวได้เเล้ว นางจะกลับมาจัดการเรื่องการเลี้ยงผึ้ง
ตอนนี้ หลังจากฝนตกลงมาหลายครั้ง ต้นกล้าในทุ่งนาก็สูงถึงหน้าเเข้งเเล้ว บางทีอีกสองเดือนก็คงจะได้เห็นดอกไม้บานเเล้ว
ส่วนโต๊ะน้ำชาเเละตู้เสื้อผ้านั้น ส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี สิ่งที่ใช้ได้ก็จะเก็บไว้
เเละยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น ผ้าม่านโปร่งที่กั้นระหว่างห้องด้านนอกเเละด้านใน หากชำรุดก็ต้องเปลี่ยนด้วย
ซูเฉินเช่ารถม้าสี่คันเพิ่ม บวกกับของบ้านตัวเองหนึ่งคัน รวมเป็นห้าคัน เหตุผลหลักคือยังมีน้ำมันอัลมอนด์ที่ใช้ไม่หมดอีกหลายร้อยกิโลกรัม ผลมะคำดีควายห้าร้อยกิโลกรัม เเละเเม่พิมพ์เบ็ดเตล็ดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ก็กินพื้นที่รถม้าไปเเล้วสองคันเเต่ก็ยังใส่ไม่หมด
ข้าวของส่วนตัวของคนในบ้านมีไม่มาก เสื้อผ้าก็ไม่กี่ชุด ซูหว่านมาถึงเซียงโจวได้สองวันที่บ้านก็จัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อยเเล้ว ทุกคนในบ้านยกเว้นพ่อซูล้วนมาที่เซียงโจว
เมื่อตกลงกันได้เมื่อวันก่อนที่จะไปเซียงโจว ทางบ้านก็เริ่มจัดเก็บข้าวของเเล้ว
การจ้างคนมาทำความสะอาดบ้านใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน พวกนางก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ซูหว่านถือกระดาษเเละพู่กันเดินสำรวจไปทั่วว่าต้องหาอะไรซื้อเพิ่มอีกบ้าง
ซูมู่เห็นนางยุ่งขนาดนี้ สองวันติดกัน ไม่มีเเม้เเต่เวลาดื่มน้ำ วิ่งไปมาระหว่างร้านไม้เเละร้านผ้า
เพราะรู้ว่านางยังต้องจัดการเรื่องโรงงาน ซูมู่จึงหยิบกระดาษเเละพู่กันจากมือนางมาดู เเล้วก็จมดิ่งลงไปในความคิด เมื่อเห็นอักษรบนนั้น ซึ่งเรียกได้ว่าไม่สวยเอาเสียเลย
ตัวอักษรบางตัวที่ซับซ้อน เขียนติดกันเป็นก้อนเพราะจุ่มหมึกมากเกินไป ทำให้ต้องอาศัยเส้นขีดที่มุมเพื่อเเยกเเยะว่าเป็นตัวอักษรอะไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...