ช่วงสองสามวันที่กำลังตากสบู่ ซูหว่านไปสั่งนมแพะและดอกไม้ก่อน
แม่พิมพ์เครื่องกลั่นยังต้องรออีกสองวันกว่าจะมาถึง ด้านโรงงานจึงยังไม่ต้องรีบร้อน
นางยังสั่งชั้นไม้ยี่สิบอันแต่ละอันมีสี่ชั้น ใช้ผึ่งสบู่นมแพะให้แห้งตามธรรมชาติ
ด้านบนปิดไว้ เผื่อบางครั้งฝนตกเก็บเข้าไปในที่ร่มไม่ทันจะได้ไม่เปียก ใช้เวลาเพิ่มอีกสองสามวันก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าให้เสียหายก็พอ
ในบ้านจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว ซื้อภาชนะในครัว ฟืน ข้าวสาร น้ำมันและเกลือครบแล้ว ฟืนก็ส่งมาถึงแล้ว เริ่มทำอาหารได้แล้ว
ซูเฉินขับรถพาซูหว่านออกจากเมืองแต่เช้า ซูมู่กับซูอี้ไปที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี
ด้านหนึ่ง ซูมู่ได้ร่ำลาครอบครัวแล้ว กำลังจะไปพบกับท่านอาจารย์ซุนเตรียมตัวไปเรียน
ก่อนหน้านั้น แม่ซูให้ซูมู่เชิญท่านอาจารย์ซุนมาเยี่ยมบ้านอีกครั้ง จะได้รู้จักบ้านไว้
ด้านหนึ่ง พี่สี่ซูอวิ๋นยังไม่ทราบว่าทั้งครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่เซียงโจวแล้ว ต้องไปแจ้งให้เขาทราบ โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีอยู่ใกล้บ้าน ถ้าเป็นไปได้ก็ให้เขาย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัว บรรยากาศครึกครื้นดี
ซูอวิ๋นที่อยู่กับโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีตอนนี้ ได้เรียนรู้การแกะสลักดอกไม้แล้ว ตอนนี้กำลังต่อสู้กับเต้าหู้ ต้องหั่นเต้าหู้ให้เป็นดอกไม้ที่สมบูรณ์ให้ได้
ตอนที่ยุ่งๆ หัวหน้าพ่อครัวก็จะให้เขาผัดอาหารง่ายๆ เขาก็ทำได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการโยนกระทะ การกลับข้าง ไม่ใช่ปัญหา
ซุนเป่ยโต่วกับหลานสาวรอซูมู่อยู่ที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีหกวันแล้ว ในที่สุดก็มาถึงเสียที
เขาสวมชุดเสื้อคลุมยาวสีขาวเหยียบย่างเข้าไปในโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี ซุนหลิงเอ๋อร์กำลังนั่งดื่มชาฟังเพลงอยู่ที่ชั้นล่าง
ซูมู่มัดผมหางม้าสูง ริมฝีปากแดงฟันขาว คิ้วคมดุจดาบ ดวงตาเปล่งประกายดุจดวงดาว เมื่อปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ก็ดึงดูดสายตาของลูกค้าสาวในโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีให้มองตาไม่กะพริบ
ไม่ว่าจะเป็นสาวแก่แม่ม่าย ต่างก็ถูกความหล่อเหลาสะกดสายตา
ซูมู่ดูสง่างามมาก ซุนหลิงเอ๋อร์เพิ่งเคยเห็นซูมู่ในภาพลักษณ์นี้เป็นครั้งแรก ก็อดตกตะลึงไม่ได้ กระทั่งสบตากับซูมู่ก็หน้าแดงเรื่อ รีบหลบสายตา
“แม่นางซุน รอนานหรือไม่ขอรับ ท่านอาจารย์ล่ะ”
ซุนหลิงเอ๋อร์ยังไม่ทันตั้งตัว ซูมู่ก็เดินมาถึงตรงหน้าแล้ว เสียงใสเย็นทำให้นางไม่กล้ามองเขา
“อ่า...ไม่นาน ท่านปู่อยู่ข้างบน เดี๋ยวข้าจะไปตามท่าน!” นางลนลานยกกระโปรงจะผละไป
“ข้าไปด้วยแล้วกัน”
ซูมู่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ เดินตามไปติดๆ
“อย่างนั้นพี่รอง ข้าไปหาพี่สี่แล้วกัน” ซูอี้ไม่ตามเขาไป เขาไปหาพี่สี่ดีกว่า
เขาปล่อยมือชะเง้อคอกวาดตาดู แต่ไม่เห็นเงาของซูหว่าน อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้
“หวานหว่านกับพี่สามไปสั่งดอกไม้นอกเมือง แม่ให้ข้ามาตามเจ้าไปดูบ้านหลังใหม่ของเรากัน” ซูอี้อธิบาย
“บ้านใหม่? หมายความว่าอย่างไร” ซูอวิ๋นงุนงง
ซูอี้จึงเล่าเรื่องที่ซูหว่านทำในเซียงโจวช่วงนี้ให้เขาฟัง
คราวนี้ผ่านไปนานแค่ไหน ถึงกับย้ายมาเปิดจวนที่เซียงโจวแล้ว แม้แต่โรงงานและคนรับใช้ก็ซื้อเรียบร้อยแล้ว
“ต้องเป็นซูหว่านเท่านั้นที่มีความกล้าหาญเช่นนี้ ทำทุกอย่างให้สำเร็จได้ ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วัน ครอบครัวเราก็กลายเป็นคนเมืองแล้วหรือ”
“ใช่แล้ว หวานหว่านบอกว่ารอให้ผ่านช่วงยุ่งๆ นี้ไปก่อน ก็จะย้ายทะเบียนบ้านมาที่เซียงโจว ต่อไปเราก็จะเป็นคนเมืองอย่างเป็นทางการแล้ว”
การย้ายทะเบียนบ้านมาที่เซียงโจวทำให้หลายอย่างง่ายขึ้น
“ดีเลย ข้าสะสมวันหยุดไว้ห้าวันพอดี ข้าจะกลับไปดูบ้านกับเจ้า”
ซูอวิ๋นมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสองเดือนแล้ว ทุกเดือนเขาเก็บวันหยุดไว้ไม่ยอมหยุดพัก อยากเก็บสะสมวันหยุดให้มากๆ จะได้กลับไปอยู่บ้านนานๆ ตอนนี้บ้านอยู่ใกล้ขึ้น เขาจะได้กลับบ้านทุกวัน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...