ซูหว่านจึงให้พี่สามเอาเงินให้พวกนางเล็กน้อย เพื่อเป็นการตอบแทน และก็ได้ทราบจากพวกนางว่าบุตรชายจวนนายอำเภอมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่เนื่องจากหาคนไม่พบจึงแสดงท่าทีที่หงุดหงิดและโมโหหนักมาก
เขายังมาสอบถามกับพวกนางด้วยว่าครอบครัวของท่านลุงไปที่ใด แต่พวกนางตอบกลับไปว่าไปเยี่ยมญาติแล้ว ส่วนจะไปหาญาติที่ไหนนั้นพวกนางไม่ได้บอกรายละเอียดไป
ไม่คิดเลยว่าผ่านมานานขนาดนี้บุตรชายนายอำเภอก็ยังไม่ยอมแพ้ เป็นจริงอย่างที่ว่าไว้ไม่มีผิด ของที่ไม่ได้มาครอบครองมักจะทำให้จิตใจคนปั่นป่วนไม่มีทางสงบได้
ซูหว่านไม่กล้าชักช้า รีบหยิบข้าวของกับพี่สามแล้วก็รีบไป ส่วนไก่ที่บ้านถ้าไม่เอาไปก็คงจะเสียดายเหมือนกัน
ด้งนั้นจึงเก็บทั้งหมดเอาไปด้วย รอให้กลับไปถึงเซียงโจวแล้วจะเอาไว้กินก็ดี หรือเลี้ยงต่อให้ออกไข่ก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีวิธีจัดการ
พอปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยแล้ว ซูหว่านและพวกอีกสองคนก็ขึ้นรถม้าเตรียมตัวออกเดินทางกลับไปเซียงโจว
หากออกเดินทางเพลานี้ คาดว่ายังไม่ทันถึงครึ่งทางก็คงจะค่ำแล้ว แต่ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านเล็กๆ สองแห่ง ซึ่งก็มีโรงเตี๊ยมขนาดเล็กให้พักได้ เพียงแต่สภาพแวดล้อมโดยรอบอาจจะแย่เล็กน้อยเท่านั้น
พอออกจากหมู่บ้านของบ้านท่านลุงก็เดินทางมาถึงถนนเล็ก ๆ ในชนบท ซูเฉินขับรถม้าอยู่ข้างหน้า ส่วนต้าสู่ก็ขับรถม้าตามมาข้างหลัง
เบื้องหน้าปรากฏว่ามีเกี้ยวเปิดหลังคาแบบที่ต้องใช้ชายสี่คนหาม บนเกี้ยวนั้นมีชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่ มองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคุณชายเสเพลจากตระกูลมั่งมี
ข้างเกี้ยวมีลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ติดตามมาด้วยคนหนึ่งที่ตอนนี่กำลังทำประจบประแจงพูดอะไรบางอย่างกับเขา
สำหรับรถม้าสองคันที่เจออยู่บนถนนเช่นนี้ เดิมทีพวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกัน แค่สวนทางกันไปก็เท่านั้น
แต่เมื่อเกี้ยวของทั้งสองฝ่ายเคลื่อนมาที่ระนาบเดียวกันก็มีลมพัดมาที่ม่านของเกี้ยวซูหว่านจนเปิดออก
เพียงแค่เหลือบมองชั่วแวบเดียว ซูหว่านในรถม้าก็บังเอิญเงยหน้ามองออกมาทางนอกหน้าต่างพอดี ในเสี้ยววินาทีที่ผ้าม่านตกลงมา นางเห็นแววตาที่ตกในภวังค์ของชายคนนั้นเท่านั้น
ซูหว่านรู้สึกงงงวย แต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไร
จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาด้านนอกรถม้า
“เดี๋ยวก่อน หยุดเดี๋ยวนี้”
ถนนชนบทขรุขระมากซูเฉินจึงไม่ได้ขับเร็วมากนัก พอได้ยินประโยคนั้นซูเฉินก็ชะลอความเร็วรถลงด้วยความรู้สึกที่สงสัยทวีคูณ ส่วนชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเกี้ยวที่สวนทางกันไปเมื่อครู่ก็ได้กระโดดลงจากเกี้ยว และวิ่งพาพวกลูกหาบเกี้ยวมาขวางหน้ารถม้าของซูเฉินเอาไว้
ซูเฉินไม่รู้จักเขา และไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร รู้แต่เพียงว่าเขาชี้มาที่รถม้าด้วยความตื่นเต้นแล้วตะโกนว่า
“ข้าเหมือนจะรู้จักสตรีข้างในรถม้า ขอให้นางออกมาพบข้าหน่อยได้หรือไม่?”
ซูหว่านที่อยู่ในรถม้าก็ได้ยินชัดเจน ดังนั้นยังไม่ทันที่ซูเฉินจะได้พูดอะไร นางก็เปิดประตูรถม้าออกมาแล้วชะโงกหน้ามองออกไป
เมื่อสบตากับชายหนุ่มที่หน้าตาไม่สบอารมณ์คนนั้น ชายหนุ่มก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีและกลืนน้ำลายหลายอึก
“พี่สาม ไม่ต้องพูดกับเขามากมายขนาดนั้นหรอก ไปกันเถอะ”
แต่ว่าคนพวกนี้ขวางทางอยู่เขาก็อยากไปเช่นกัน แต่จะให้ขับรถทับพวกเขาไปก็คงไม่ได้
“คุณชายท่านนี้ โปรดหลีกทางให้ด้วย” ซูเฉินพยายามพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด
“ถามเจ้าก็ตอบมาสิ พูดจาไร้สาระอะไรอยู่ได้ คุณชายของข้าถามว่าน้องสาวของเจ้าหมั้นหมายแล้วหรือยัง? ฟังไม่เข้าใจหรือไง?”
ลูกน้องจอมประจบประแจงที่ค่อยติดตามชายผู้นั้น ทำหน้าตาและพูดจาไม่สุภาพใส่ซูเฉินซึ่งๆหน้า
ปรากฏว่าเจ้านายของเขากลับเอาพัดตีหัวเขาแล้วตำหนิว่า
“พูดแบบนั้นได้ยังไงล่ะ นี่คือพี่ชายของว่าที่ภรรยาในอนาคตของข้าเชียวนะ พูดจาให้มันสุภาพหน่อย ตัวข้าตกหลุมรักแม่นางในรถม้าตั้งแต่แรกเห็นยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบ จึงได้ถามเรื่องการแต่งงานโดยเฉพาะ หากแม่นางยังไม่ได้หมั้นหมายกับใคร ถ้าเช่นนั้นแต่งงานกับข้าเถอะ ข้าจะแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี จะยกเกี้ยวพร้อมขันหมากไปรับนางมาเป็นภรรยาเอก”
ซูเฉินได้ยินคำพูดเหล่านี้ หน้าก็บึ้งตึงลงทันทีก่อนจะขบกรามแน่น
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? พูดใหม่อีกทีสิ?”
“นี่ฟังไม่เข้าใจหรือไง? คุณชายของข้าพอใจในน้องสาวของเจ้ายินดีจะแต่งนางเป็นภรรยาและยังเป็นภรรยาเอกอีกด้วย พวกเจ้าควรจะดีใจถึงจะถูก คุณชายของข้าเป็นบุตรชายคนเดียวของนายอำเภอชิงหย่วน การได้เป็นครอบครัวเดียวกับคุณชาย รับรองว่าจะกินดีอยู่ดี ในเขตชิงหย่วนแห่งนี้ไม่ว่าอยากได้ลมก็จะได้ลม ไม่ว่าอยากได้ฝนก็จะได้ฝน อย่ามาทำเป็นแกล้งไม่รู้หน่อยเลย ให้น้องสาวของเจ้าลงจากรถม้ามาเจอหน้ากันเดี๋ยวนี้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...