พอเข้าช่วงกลางคืน พวกเขาก็หาเมืองเล็กๆ พักค้างแรมหนึ่งคืน และก็เดินทางกลับมาถึงเซียงโจวก็ในวันรุ่งขึ้น
ซูหว่านเล่าเรื่องที่ซูเฉินสั่งสอนคุณชายจวนนายอำเภอให้กับครอบครัวของท่านลุงฟังราวกับเป็นเรื่องตลก
แต่หลังจากท่านลุงฟังจบแล้ว กลับแสดงสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“พวกเจ้าไปต่อยเขาซะขนาดนี้ เขาจะไม่มาล้างแค้นเหรอ? พวกเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาสู้กับขุนนางไม่ได้หรอกนะ ถ้าเขามาหาเรื่องถึงบ้านจะทำยังไง?
เรื่องนี้เดิมที่ก็เป็นเรื่องที่พวกเราก่อขึ้นเอง ถึงตอนนั้นก็จะพานทำให้พวกเจ้าเดือดร้อนไปด้วย”
“ท่านลุง อย่าพูดแบบนั้นสิ เขาสมควรโดนต่อยอยู่แล้ว อีกอย่างใครใช้ให้เขาพูดจาลามกคะนองปากล่ะ? ถึงกลับกล้ามาพูดลวนลามหวานหว่านต่อหน้าข้า ข้าไม่ทำให้เขามีลูกหลายสืบสกุลไม่ได้ก็นับว่าปรานีมากแล้ว” ซูเฉินกล่าวอย่างไม่พอใจ
เขารู้อยู่แล้วว่าหลังจากเขาไปแล้ว คุณชายนายอำเภอก็โดนซ้อมอีกยกหนึ่ง แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนของเฟิงอิ่งจะทำในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ
ซูหว่านพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของพี่สาม พร้อมกับเอ่ยพูดปลอบโยนท่านลุง
“ท่านลุง พวกเราอยู่ที่เมืองเซียงโจวนะ พวกเขาก็ทำได้แค่อวดเบ่งในเขตชิงเหอเท่านั้น นายอำเภอก็แค่ขุนนางขั้นแปด หากเป็นในหัวเมืองก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แม้จะมีคนหนุนหลังแล้วจะทำไม?
ชิงหย่วนอยู่ไกลขนาดนั้น พวกเราต่อยไปแล้วก็คือทำลงไปแล้ว ไม่ได้บอกชื่อแซ่ด้วยซ้ำ เขาจะไปหาพวกเราได้ที่ไหน? คงได้แต่ก้มหน้ารับกรรมเท่านั้น”
แม้ว่าท่านลุงและคนอื่น ๆ จะยังคงหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกสะใจเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกเหมือนได้แก้แค้นสำเร็จ ความอัดอั้นในใจที่เก็บกดเอาไว้ทั้งหมดก็คลายลงไปได้มาก
ที่อำเภอชิงหย่วน จวนนายอำเภอกำลังจะลุกเป็นไฟเพราะบุตรชายเพียงคนเดียวของนายอำเภอถูกทำให้เป็นคนไร้ประโยชน์ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
คุณชายของจวนนายอำเภอมีเพียงลูกสาวสองคนเท่านั้น ยังไม่มีลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว
บรรดาอนุทั้งเจ็ดแปดคนในเรือนหลัง รวมถึงภรรยาเอกของเขาเองต่างก็แสร้งทำเป็นเสียใจกันทั้งนั้น พอลับหลังคนแล้วก็อยากจะจุดประทัดฉลองกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
ตอนนี้เขาไม่มีทางไปลวนลามสาวๆ ได้อีกแล้วถึงแม้จะอยากทำแต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงนั้นแล้ว
ซูหว่านไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ในอีกครึ่งเดือนหลังจากนี้ นางเอาแต่เดินทางไปยังอีกห้าอำเภอที่เหลือในเมืองเซียงโจว ตอนนี้กระจายสบู่ไปแล้วถึงสามพันก้อน
พอกลับมานางก็ซื้อชายฉกรรจ์อีกสามคนและทาสหญิงอีกสองคนมากด้วย ให้พวกเขาไปพักอาศัยอยู่ในโรงผลิต
ต้าสู่และพวกทั้งหมดห้าคน ต่อไปก็ให้รับหน้าที่ส่งของในแปดอำเภอของเซียงโจวเท่านั้นพอ โดยให้ต้าสู่เป็นแกนนำหลัก
ทุกคนขยันทำงานกันมาก จนซูหว่านแทบไม่ต้องกังวลอะไรเลย
โชคดีที่ภายในเมืองเซียงโจวค่อนข้างสงบ ทำให้ต้าสู่และคนอื่น ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอโจรภูเขาหรือผู้ร้ายดักปล้นระหว่างส่งของ ในภายภาคหน้าหากซูหว่านมีกำลังมากขึ้น นางจะจัดตั้งทีมส่งของที่แข็งแกร่งสักกลุ่มเป็นของตัวเอง โดยทั้งหมดจะต้องเป็นชายหนุ่มที่แข็งแรงร่างกายกำยำ และนางจะเชิญอาจารย์มาฝึกฝนพวกเขาด้วย ให้เรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัว เพื่อที่ในภายภาคหน้าการส่งของระหว่างเมืองต่างๆ จะได้ปลอดภัยและมีหลักประกันมากขึ้น
โรงผลิตหลักจะตั้งอยู่ที่เซียงโจว ในภายภาคหน้าโรงผลิตจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และคนงานก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เป้าหมายของซูหว่านก็คือ ตั้งฐานโรงผลิตสาขาย่อยในเมืองจิงที่คึกคักที่สุดและก็ในเมืองจงโจวด้วย เพื่อควบคุมตลาดทั่วทั้งแคว้นจิ้นทั้งเหนือจรดใต้ ทำให้สบู่นมแพะแพร่หลายไปทั่วแคว้น และถึงกระทั่งที่ขยายไปยังแคว้นอื่นด้วย
เมืองเซียงโจวดูแลพื้นที่ทางเจียงหนาน เมืองจิงอยู่ทางเหนือ ส่วนจงโจวก็ไม่ต้องสงสัยเลยที่นั่นคือพื้นที่ตอนกลางของแคว้นจิ้น
หลังจากทำธุระในมืองเซียงโจวเสร็จสิ้น ซูหว่านก็ว่างลงในที่สุด นางสามารถนอนตื่นสายที่บ้านได้อย่างสบายใจแล้ว
ช่วงต้นเดือนห้า นางกำลังจะย่างเข้าอายุสิบสี่ปีแล้ว พอพ้นอายุสิบสี่ไปแล้วก็เท่ากับนางอายุสิบห้าปีตามปฏิทินจีน และปีหน้าก็จะเข้าวัยปักปิ่นแล้ว
วันที่สองเดือนห้าเป็นวันเกิดของนาง และเป็นวันเกิดของกู้เย่ว์ด้วยเช่นกัน
แต่ซูหว่านไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะวิญญาณของนางมาจากโลกอนาคต และวันเกิดของนางก็ไม่ใช่ในวันนี้ด้วย ดังนั้นนางจึงจำวันเกิดตัวเองไม่ได้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...