เจียงอวี้ไม่ชอบเอาของคนอื่นมาเปล่าๆ และก็ไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใครด้วย
ซุนหลิงเอ๋อร์กวาดตามองไปรอบๆ และนางก็ยิ้มเจ้าเล่ห์สบตากับท่านปู่ทันที นางกำลังจะอ้าปากพูดอยู่แล้ว ใครจะไปรู้ว่าเจียงอวี้จะหัวเราะออกมาอย่างจนใจ พร้อมกับยกมือขึ้นพูดว่า
“หยุดเลย เห็ดหลินจือพันปีใช่ไหม เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาไปส่งให้พวกเจ้า”
ทั้งผู้ใหญ่และเด็กคู่นี้เล็งเห็ดหลินจือพันปีของเขามานานแล้วนะสิ นี่เป็นของที่ตาเฒ่าที่เมืองจิงให้คนส่งมาให้เขาเองเลยนะ
เขายังหนุ่ม ๆ อยู่แท้ๆ เลือดลมก็กำลังพลุ่งพล่าน จะไปต้องใช้ยาบำรุงที่ประสิทธิภาพสูงแบบนี้ไปทำไมกัน?
ก่อนหน้านี้ซุนเป่ยโต่วพยายามพูดหว่านล้อมต่างๆนานาเพื่อจะขอแลกกับเขาแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่ให้ไปเพราะคิดว่าเผื่อภายภาคหน้ามีเรื่องต้องขอความช่วยเหลือใคร คราวนี้เขาเลยตกลงด้วยความใจกว้างอย่างง่ายดาย
“ฮ่า ๆ ๆ เขายังไม่ยอมรับอีกนะ คราวนี้กลับยอมรับแล้ว พวกคนหนุ่มสาวอย่างเจ้าพวกเจ้านี่นะ ข้าผู้ที่อาวุโสแล้วรู้สึกอิจฉาจริง ๆ” ซุนเป่ยโต่วชี้ไปที่เจียงอวี้ พลางมองไปที่เจียงอวิ๋นเฮ่อ
เจียงอวิ๋นเฮ่อก็หัวเราะพลางพูดหยอกล้อว่า
“เด็กน้อยโตแล้ว ๆ”
เจียงอวี้ผู้เป็นดั่งบุปผาบนยอดเขาสูง ในที่สุดก็ตกลงมาที่แท่นบูชาแล้ว เมื่อเขาได้พบกับเด็กสาวที่ตนเองชอบมากๆ เขาก็ทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป ไม่เก็บซ่อนความรู้สึกของตนเอง และแสดงออกมาอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา
เป็นครั้งแรกที่บนใบหน้าของเจียงอวี้ปรากฏความเขินอายออกมา เขาใช้การดื่มชาเพื่อปกปิดอาการ และแอบสังเกตปฏิกิริยาของซูมู่
สีหน้าของซูมู่ดูไม่ค่อยดีนัก มือที่จับถ้วยอยู่ซีดลงเพราะออกแรงมากเกินไป
น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองถูกคนอื่นหมายตาแล้ว เขายังจะหัวเราะออกอีกเหรอ?
เจียงอวี้เจ้าลูกหมานี้ เปิดเผยความคิดในใจของเขาออกมาทั้งหมดโดยไม่ปิดซ่อนเลย
แต่พอคิดๆดูอีกที ยังไงซะในภายภาคหน้าก็ต้องยอมรับเจ้าคนที่น่ารังเกียจคนหนึ่งมาเป็นน้องเขยอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นให้คนคนนั้นเป็นเจียงอวี้ยังจะดีกว่า อย่างน้อยเขาก็พึ่งพาได้ มีความสามารถและหน้าตาก็ยังดีอีกด้วย
ถ้าเป็นพวกแมวพวกหมาตัวอื่นๆ บางที่เขาคงจะรับไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็เถอะเจียงอวี้วี้ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่พอจะยอมรับได้เท่านั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงอวี้ ตอนนี้เขาอาจคงจะยังเป็นแค่เด็กรับใช้ในร้านขายยาที่เมืองเล็ก ๆ นั่นอยู่เลย จะไปมีโอกาสอย่างทุกวันนี้ที่ได้ติดตามปรมาจารย์ซุนเป่ยโต่เหรอ?
เขาไม่ได้ทำเป็นเล่นตัว ถือซะว่าเป็นการซื้อใจเขา
แม่ซูกังวลเรื่องวันเกิดของซูหว่านที่กำลังจะถึง ดังนั้นจึงเริ่มออกไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาดล่วงหน้าหนึ่งวัน เพื่อเตรียมจัดงานวันเกิดให้ซูหว่าน
นางไปที่ร้านขายเสื้อผ้าตัดสำเร็จเพื่อซื้อชุดฤดูร้อนให้ซูหว่านสองชุด ซึ่งเป็นสีที่แม่นางน้อยล้วนชอบทั้งนั้นเลย
บอกตามตรงว่า นี่เป็นครั้งแรกที่บ้านจะจัดงานวันเกิดให้ลูกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ตอนนี้ฐานะทางบ้านดีขึ้นแล้ว ถึงเวลาที่จะครึกครื้นก็ต้องจัดให้ครึกครื้นเสียหน่อย จะได้เพิ่มความเป็นสิริมงคลเข้ามา
ถ้าเช่นนั้นกู้เย่ว์ก็เกิดวันนี้เหมือนกัน พวกเขาสองคนเกิดวันเดียวกัน จะทำเป็นไม่สนใจก็ไม่ได้เลยจริงๆ
“รีบลุกไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาได้แล้ว และก็ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่นะลูก เดี๋ยวแม่จะหวีผมทำทรงสวยๆ ให้ พวกเรามาฉลองวันเกิดกันอย่างมีความสุขตลอดทั้งวันกันเถอะ”
แม่ซูดึงมือของนางให้ลุกขึ้น หลังจากซูหว่านล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ก็ปล่อยให้นางจัดการแต่งตัวให้ตัวเอง
นางสวมชุดหรูฉวินสีเขียวหยกซึ่งดูสดใสมาก ผมยาวๆของนางถูกเกล้าขึ้นครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งก็ปล่อยสยายลงมาพาดไปด้านหลัง ดูแล้วเพิ่มความอ่อนโยนมากขึ่นไปอีกหลายส่วนทีเดียว
บนศีรษะยังไม่ได้ประดับตกแต่งอะไรมากนัก ก็แค่ปักปิ่นดอกไม้ลูกปัดสีเดียวกัน ดูเรียบง่ายแต่ใส่ใจทุกรายละเอียด
หลังจากนางแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อแรกเห็นก็ดูไม่ต่างกับตอนที่อยู่ตระกูลกู้เท่าไร ราวกับว่านางยังคงเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์คนนั้นไม่เปลี่ยน
วันนี้พี่สี่ตั้งใจสลับวันหยุดงานหนึ่งวัน กลับมาฉลองวันเกิดกับนาง
พวกพี่ชายทั้งสามคนของซูหว่านต่างก็เตรียมของขวัญวันเกิดไว้ให้นางทุกคน โดยซูเฉินซื้อพัดกลมที่ปักลายฝูหรงและมีพู่ห้อยอยู่ที่ด้ามพัดให้นาง
อากาศเริ่มร้อนขึ้น ผู้หญิงในเมืองเซียงโจวแทบทุกคนจะมีพัดถือในมือคนละอัน เขาจึงไปซื้อมาให้ซูหว่านอันหนึ่ง เขารู้ว่านางชอบดอกฝูหรง
พี่สี่มอบกล่องเครื่องประทินให้กล่องหนึ่ง เขาถึงกับควักเงินเบี้ยเลี้ยงรายเดือนสองเดือนเพื่อซื้อให้ โดยเขาไปถึงร้านแม่นางเซี่ยเพื่อเลือกเครื่องประทินที่ดีที่สุดด้วยตัวเอง และยังขอคำแนะนำจากแม่นางเซี่ยมาด้วยว่าแบบใดเหมาะกับซูหว่านที่สุด รับรองว่าไม่มีทางเลือกผิดแน่นอน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...