ของพี่ห้าออกจะพิเศษไปหน่อย ไม่รู้ว่าเขาไปหาไม้ชิ้นเล็ก ๆ มาจากไหน แล้วก็ลงมือแกะสลักรูปปั้นจำลองเล็ก ๆ ที่เป็นหน้าเหมือนซูหว่านออกมา ไม่คิดเลยว่าเขาไม่เพียงแต่จะมีฝีมือด้านการวาดภาพที่เป็นเลิศแต่แม้แต่งานแกะสลักไม้ก็ยังยอดเยี่ยมขนาดนี้
และเพื่อแกะสลักให้ได้ผลงานที่น่าพอใจ เขาถึงกับทิ้งงานที่ทำไปได้ครึ่งๆทางหลายชิ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนนิ้วมือถึงกับพองเป็นตุ่มน้ำ ไม่รู้เลยว่าเขาเริ่มทำตั้งแต่เมื่อไร นางไม่ทันสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
ตอนที่เขายื่นไม้แกะสลักให้ซูหว่าน นางก็สังเกตเห็นตุ่มน้ำที่ปลายนิ้วของเขาในทันที
ใจของซูหว่านกระตุกวูบ ก่อนจะจับมือของเขามาดูอย่างละเอียด
“พี่ห้า มือของท่านทำไมถึงเป็นนี้ได้ล่ะ?”
ซูอี้ชักมือกลับไปซ่อนไว้ข้างหลัง แล้วยิ้มอย่างไม่แยแสว่า
“ไม่เป็นไร ผ่านไปไม่กี่วันก็หายแล้ว ข้าไม่เจ็บเลย”
เขาไม่เจ็บ แต่ใจของซูหว่านนั้นเจ็บปวด
“พี่ห้า ไหนลองบอกมาสิว่า ทำไมต้องเสียเวลาขนาดนี้ด้วย? คงทุ่มเทไปเยอะเลยใช่ไหม? เดี๋ยวข้าช่วยท่านเจาะตุ่มน้ำออก และทายาให้”
ซูหว่านดีใจมากที่ได้รับของขวัญจากพี่สามและพี่สี่ แต่พอถึงตอนซูอี้ ของขวัญที่พวกเขาให้กลับถูกโยนทิ้งไว้ข้าง ๆ และสายตาของซูหว่านก็ถูกเขาดึงดูดความสนใจไปแต่เพียงผู้เดียว
ซูอวิ๋นมองภาพที่ซูหว่านประคองมือซูอี้ขึ้นมาเป่า ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน พอมองดูสีหน้าของซูอี้ที่น้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อยนั้นแล้ว เขาก็ได้แต่กัดฟันกรามจนมีเสียงดังกึกกัก
“พี่สาม ท่านดูเขาสิ เจ้าเล่ห์ที่สุดเลย”
ซูเฉินไม่ได้กัดฟันกรอดเหมือนซูอวิ๋น แต่ในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ซูหว่านได้ยินเสียงบ่นของพี่สี่ นางก็โต้ตอบกลับแทนพี่ห้าทันที
“พี่สี่ ทำไมท่านพูดแบบนั้นล่ะ พี่ห้าเขาเป็นแบบนี้ก็เพราะอยากทำให้ข้ามีความสุขนะ พี่ไม่สนใจเขาก็ช่าง ทำไมท่านถึงพูดว่าเขาเจ้าเล่ห์เช่นนั้นล่ะ?”
เมื่อเห็นน้องสาวทำหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ ซูอวิ๋นก็โมโหจนแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา
“ข้า...ข้า...เจ้า...”
เขาพึมพำอยู่นานสองนานแต่ก็หาคำพูดมาโต้แย้งไม่ได้เลย ที่สำคัญก็คือตอนที่ซูหว่านมองไม่เห็น ซูอี้กลับเลิกคิ้วท้าทายใส่เขา ทำให้เขายิ่งคลั่งหนักเข้าไปอีก
“เยี่ยมไปเลยซูอี้ ปีหน้าพวกเราจะได้เห็นดีกัน”
หลังจากซูอวิ๋นพูดจบ เขาก็โกรธจัดจนกอดอกหันหลังกลับไป
ซูหว่านเห็นพวกเขาทะเลาะกันเหมือนเด็กประถมก็รู้สึกจนใจ เลยออกมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยอีกครั้ง
“ของขวัญจากพวกพี่ข้าล้วนชอบหมดเลยเจ้าค่ะ พวกท่านใส่ใจจริง ๆ พอได้เสื้อผ้าใหม่แล้ว ข้ารู้สึกเหมือนยังขาดอะไรไปนิดหน่อย ขาดพัดกลมที่พี่สามให้ และเครื่องประทินผิวที่ช่วยให้มีสีสันจากพี่สี่พอดี ถ้าข้าก้าวเท้าออกจากบ้านเมื่อไรรับรองว่าต้องเป็นสาวที่งามที่สุดบนถนนทั้งสายแน่นอนเลย”
ซูหว่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประนีประนอม แค่พูดสองสามประโยคก็ทำให้พวกพี่ชายอารมณ์ดีขึ้นได้แล้ว"
“เหตุผลพอรับได้อยู่” ซูอวิ๋นจึงเลิกถือสา
และก็ตอนที่กำลังคุยกันอยู่นั่นแหละ ถึงได้รู้ข่าวเรื่องหนึ่งจากทางบ้าน
พ่อซูบอกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเหอเจียวหลันจากตระกูลเหอได้แต่งงานออกไปแล้ว นางแต่งให้กับบัณฑิตคนหนึ่งในหมู่บ้านข้างเคียง ที่บ้านเตรียมสินสอดให้นางถึงห้าสิบตำลึงเลยนะ
เป็นลูกสาวเหมือนกันแท้ๆ แต่เจียวซิ่งกับนางได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย
แต่ก็ยังเลือกคนมีการศึกษาอยู่ดีนั่นแหละ เห็นทีความฝันของตระกูลเหอยังไม่พังทลายลง
แต่ก็ถือซะว่าฟังเป็นแค่เรื่องตลก หัวเราะแล้วก็ปล่อยผ่านไป ยังไงซะหลังจากนี้ก็คงไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเหออีกแล้ว
เรื่องครอบครัวของพวกเขาจะดีจะร้าย ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกแล้ว
ซูหว่านมีวันเกิดที่มีความสุขมาก ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างอบอุ่นและคึกคัก พอตอนเที่ยงคนในโรงผลิตก็มากันหมดเลย
หมังจ้งกับต้าสู่เป็นแกนนำ พวกเขาทั้งสิบคนร่วมกันอวยพรให้ซูหว่าน
ทั้งสิบคนยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ หมังจ้งทำสัญญาณมือ และพวกเขาก็ตะโกนพร้อมกันว่า
“ขออวยพรให้คุณหนูมีวันเกิดที่เต็มไปด้วยเรื่องมงคล ทุกสิ่งผ่านไปอย่างราบรื่น สมปรารถนาทุกประการ”
ทุกคนต่างก็รู้จักพูดเอาอกเอาใจ ซูหว่านชอบใจจึงได้มอบเงินรางวัลให้พวกเขา คนละห้าสิบเหรียญ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...