แม่ซูก็แค่พูดล้อเล่นเท่านั้น เจียงอวี้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ให้คนรับใช้นำของออกมาทั้งหมด
"นี่คือของขวัญวันเกิดที่พี่รองของเจ้าฝากให้ข้านำมาให้ ส่วนนี่คือของขวัญวันเกิดที่แม่นางหลิงเอ๋อร์ฝากข้ามาให้เจ้าเช่นกัน"
เขาส่งกล่องของขวัญให้ซูหว่านทีละกล่อง
ของที่พี่รองให้คือปิ่นปักผม ส่วนที่หลิงเอ๋อร์ให้คือกำไลที่สวยงามมากวงหนึ่ง มันใสเป็นประกาย ไม่มีสิ่งเจือปนใดๆ
ซูหว่านชอบมาก นางดูซ้ำไปซ้ำมา จากนั้นก็ปักปิ่นลงบนศีรษะทั้งยังสวมกำไลไว้ที่ข้อมือทันที
พอแม่ซูได้ยินข่าวคราวของลูกชายคนรองก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาเลย
“อาอวี้ ทำไมเจ้าถึงเจออามู่ได้ล่ะ?”
"ข้ารู้จักกับหมอเทวดาซุนเป๋ยโต่วขอรับ พวกเขาผ่านมาทางจงโจว เลยแวะมาหาข้า พอรู้ว่าข้าจะมาเซียงโจว ซูมู่ที่พะวงเรื่องวันเกิดของหวานหว่านมาโดยตลอด เลยฝากข้าให้เอาของขวัญมาให้นาง เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วขอรับ แม่นางหลิงเอ๋อร์ก็อยู่ด้วย เลยฝากของขวัญมาให้นางด้วยอีกคน”
เจียงอวี้ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด เขาพูดความจริงทั้งหมด
“เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” แม่ซูเอ่ยถามต่อ
“เขาสบายดีขอรับ ท่านป้าวางใจได้เลย เขาติดตามหมอเทวดาซุนท่องไปทั่วสารทิศ สิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยินล้วนเป็นความรู้ อีกอย่างผู้อาวุโสซุนก็เป็นผู้สูงศักดิ์ มีคุณธรรมสูงส่ง ย่อมไม่ปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน”
“ข้ารู้ว่าผู้อาวุโสซุนไม่มีทางจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่เป็นธรรม ข้าแค่กลัวว่าเขาอยู่ห่างบ้านนานเกินไปแล้วจะไม่คุ้นชินน่ะสิ”
ซูมู่ไม่เคยเดินทางไกล แม่ซูเลยกลัวว่าเขาจะไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของที่อื่น
“ท่านป้าขอรับ เขาสบายดีมาก ตอนที่ข้าเจอเขา สีหน้าเขาแลดูสดใส มีเรี่ยวแรงเต็มเปี่ยม แถมดูเหมือนจะอ้วนขึ้นด้วยซ้ำ” เจียงอวี้พูดเพื่อให้แม่ซูสบายใจ สีหน้าสดใสเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้อ้วนขึ้นเลย
เจียงอวี้เป็นเด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์ ของขวัญของเขา เขาเอาออกมาทีหลังสุด ซูหว่านยังไม่ทันได้ตั้งตัว กล่องไม้ใบใหม่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านางอีกครั้ง
“ยังมีอีกหรือ?” วันนี้ซูหว่านรับของขวัญจนเมื่อยมือไปหมดแล้ว
“นี่คือของขวัญวันเกิดจากข้าที่มอบให้เจ้า ขอให้เจ้ามีความสุขในทุกๆ ปีนะ!”
คืนนี้ซูหว่านเหมือนถูกมนต์สะกด นางมัวแต่หลบสายตาของเจียงอวี้ ไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ เลย นางหยิบกล่องมา แล้วเปิดออกอย่างประหม่า แต่ปลดล็อกเท่าไรก็ไม่สำเร็จสักที จนคนอื่นมองว่านางดูงุ่มง่ามไปหมด
ข้างในมีกระดาษพับอยู่หนึ่งแผ่น มีตัวอักษรเขียนไว้อยู่ ซูหว่านมองเจียงอวี้ด้วยความงุนงง
“นี่คืออะไร?”
“เปิดดูก็จะรู้แล้ว” เจียงอวี้เห็นท่าทางระมัดระวังของนาง ช่างเหมือนนกกระทาตัวน้อยๆ
อันที่จริงแล้ว สูตรขี้ผึ้งอวี้เหยียนนี้ดึงดูดใจซูหว่านเป็นอย่างมาก นางเลยด้านหน้ารับมันมา
“เช่นนั้น...ภายหน้าเมื่อขี้ผึ้งอวี้เหยียนทำกำไรได้ ข้าจะแบ่งกำไรให้ท่านหนึ่งส่วนดีหรือไม่?”
“หนึ่งส่วน? เยอะขนาดนั้นเลยหรือ?” เจียงอวี้เลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับลากเสียงสูงท้ายประโยค พลางคิดในใจว่ายัยเด็กไม่มีใจคนนี้อย่างไรก็ขี้งกอยู่ดี ที่สำคัญคือนางยังคิดว่าตัวเองใจกว้างมากแล้วด้วยซ้ำ
“อะไรกัน ท่านรังเกียจว่ามันน้อยไปหรือ?”
เป็นไปตามคาด ซูหว่านรู้สึกว่าส่วนแบ่งที่นางให้นั้นมากพอแล้ว
"ไม่น้อยเลย ไม่น้อยเลย ขอแค่คุณหนูหกมีความสุขก็สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดแล้ว" เจียงอวี้เริ่มพูดจาแปลกๆ อีกแล้ว
“ท่านพูดดีๆ ได้ไหม?” ซูหว่านมักจะรู้สึกว่าเขาเหมือนจะจงใจอ่อยนาง
จำได้ว่าในนิยาย เขาไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา แม้แต่ตอนอยู่ต่อหน้ากู้เย่ว์ เขาก็ยังทำหน้าเฉยเมย ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
เขาจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย ถ้าเรื่องนั้นไม่ได้ทำให้เขาได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์
เจียงอวี้หัวเราะออกมาอีกครั้ง ตั้งแต่เจอสาวน้อยคนนี้ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลย นางก็เอาแต่ทำให้เขาหัวเราะ องครักษ์ทั้งสองคนเห็นแล้วก็รู้สึกว่าเสียงหัวเราะที่นายน้อยสะสมมาตลอดครึ่งปีคงถูกใช้หมดไปกับตรงนี้แล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...