เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 262

เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวในนาที่บ้านเสร็จแล้ว เขาจึงจะสามารถเดินทางไปยังเมืองเซียงโจวเพื่อพบหน้าครอบครัวได้

เขาตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อทำแป้งทอดและหมั่นโถว เตรียมไว้ให้พวกนางพกไปกินระหว่างทาง หนทางยาวไกล ทั้งยังไม่มีที่ให้แวะพักกินข้าว จะปล่อยให้หิวได้อย่างไร

“หวานหว่าน เอาพวกนี้ติดตัวไปกินระหว่างทางเถิด อย่าปล่อยให้หิวเชียว”

เห็นได้ชัดว่าพ่อซูอาลัยอาวรณ์พวกเขา ก่อนจากไป ซูหว่านยังโผเข้ากอดเขา

“ท่านพ่อ พวกเรารอพร้อมหน้าพร้อมตากับท่านอยู่ที่เซียงโจวนะเจ้าคะ”

เสียงเรียกท่านพ่อที่หวานจับใจนั้น ฟังแล้วทำให้หัวใจของพ่อซูแทบละลาย

“ได้ ๆ เจ้าเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ ที่เซียงโจว อย่าเจ็บไข้ได้ป่วย ต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็อย่าลืมกินข้าว อาเฉิน ดูแลน้องสาวของเจ้าให้ดี ได้ยินหรือไม่?”

เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรสาว ใบหน้าของพ่อซูเปี่ยมด้วยความรักใคร่เอ็นดู แต่พอหันมาทางบุตรชายกลับกลายเป็นเคร่งขรึมจริงจัง

ซูเฉินจนปัญญา ได้แต่ยักไหล่แล้วตอบว่า

“ข้ารู้แล้ว ต่อให้ท่านไม่พูด ข้าก็จะดูแลหวานหว่านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว”

พ่อซูจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปมองเจียงอวี้

“อาอวี้ ถึงเซียงโจวแล้วก็เที่ยวเล่นให้สบายใจ อยากกินอะไรก็กิน พักอยู่ที่บ้านเราได้อย่างสบายใจ อยากอยู่นานแค่ไหนก็ได้”

เจียงอวี้โค้งคำนับให้เขา

“ท่านลุงวางใจได้ ข้าไม่เกรงใจแน่นอนขอรับ”

รถม้าเริ่มออกเดินทาง เส้นทางเล็ก ๆ ที่ออกจากหมู่บ้านมีช่วงหนึ่งขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ซูเฉินบังคับรถม้าอยู่ด้านนอก โดยมีเจียงอวี้อยู่เป็นเพื่อน

ซูหว่านอยู่ในรถม้าตามลำพัง พอขึ้นรถม้าทีไรนางก็ง่วงนอนทุกที ยิ่งรถโคลงเคลงไปมา ก็ยิ่งเหมือนถูกกล่อมให้นอนหลับ

ตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ ขอเพียงแค่นั่งรถเกินหนึ่งชั่วโมง ความง่วงก็จะถาโถมเข้ามาจนต้านทานไม่ไหว

วันนี้อากาศไม่สู้ดีนัก ลมบนภูเขาพัดจนใบไม้สั่นไหวส่งเสียงซู่ซ่า นกนางแอ่นบินต่ำ ดูท่าว่าฝนจะตก

เมื่อเห็นอากาศไม่ดี ซูเฉินจึงบอกเจียงอวี้ให้หาที่หลบฝนก่อน อย่าเพิ่งรีบเดินทาง ความปลอดภัยสำคัญที่สุด

เจียงอวี้อย่างไรก็ได้ พวกเขาที่เป็นบุรุษสองคนไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่ในรถม้ายังมีสาวน้อยบอบบางอยู่คนหนึ่ง

เขาเปิดประตูชะโงกเข้าไปมองข้างใน เด็กสาวฟุบหน้าอยู่ริมหน้าต่าง หนุนแขนตัวเอง ปากเผยอเล็กน้อย กำลังหลับสบาย

ซูเฉินเหลือบมองแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู

“หวานหว่านพอนั่งรถม้าทีไรก็หลับง่ายทุกที”

ซูเฉินค่อย ๆ ชะลอความเร็วของรถม้าลง เพื่อให้น้องสาวหลับสบายขึ้น แต่สายลมด้านนอกเริ่มหอบเอาเม็ดฝนมาปะทะใบหน้าแล้ว

“อาอวี้ เจ้าเข้าไปข้างในก่อนเถิด ข้างนอกมีข้าอยู่ก็พอ”

เขาใช้มือประคองศีรษะของนาง กดให้ซบลงในอ้อมอกของตน

โพรงจมูกพลันอบอวลไปด้วยกลิ่นอายเฉพาะตัวของเจียงอวี้ ประสาทสัมผัสทั้งหมดถูกครอบงำโดยสิ้นเชิง

“ไม่เป็นไรใช่ไหม? นั่งให้ดี ข้าจะออกไปดู”

เขาอุ้มนางลด้วยสองมือ ให้นางนั่งลงด้านข้างอย่างคล่องแคล่ว

ซูหว่านยังคงงุนงงสับสน หัวใจเต้นรัวเร็วแทบขาดอากาศหายใจ

เจียงอวี้ก้าวออกจากรถม้า ร่างกายของซูเฉินเปียกปอนไปกว่าครึ่ง เขามองเจียงอวี้อย่างจนปัญญา รถม้าครึ่งคันจมอยู่ในหล่ม

“ข้าไม่ทันระวัง ล้อรถเลยตกลงไป หวานหว่านเล่า นางไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

“นางไม่เป็นไร วางใจเถิด”

เจียงอวี้เหลือบมองหลุมขนาดใหญ่นั้น เพียงชั่วครู่ก็เต็มไปด้วยน้ำโคลน แสดงให้เห็นว่าพายุฝนนั้นรุนแรงเพียงใด

ลำพังแรงของเขากับซูเฉิน คงยากที่จะนำรถม้าขึ้นมาได้

ดังนั้น เขาจึงเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วผิวปากเสียงดังครั้งหนึ่ง ไม่นานนัก นกเหยี่ยวก็โผบินมาวนอยู่บนท้องฟ้า ส่งเสียงร้องกังวานใส ราวกับกำลังขานรับเจียงอวี้

“เอาล่ะ เข้าไปหลบฝนข้างในก่อนเถิด อีกประเดี๋ยวก็จะมีคนมาช่วยแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม