ซูหว่านและครอบครัวสกุลซูต่างยุ่งวุ่นวายกันมาทั้งวัน จวบจนกระทั่งร้านปิดในยามค่ำคืน สบู่ที่เตรียมไว้ทั้งหมดหนึ่งหมื่นก้อนก็ขายออกไปจนเกลี้ยง
เฉพาะที่อยู่ในชุดของขวัญก็มีถึงหกพันก้อนแล้ว ส่วนที่เหลือนั้นถูกขายออกไปแบบบรรจุห่อ
สบู่นมแพะสูตรพื้นฐานและสบู่นมแพะย้อมสีที่แจกเป็นของสมนาคุณก็มีมากถึงสองพันกว่าก้อน
โชคดีที่โรงงานยังมีสินค้าสำรองอยู่ไม่น้อย พรุ่งนี้สามารถนำมาวางขายต่อได้
สุดท้ายซูหว่านจึงคำนวณบัญชีทั้งหมดเพื่อดูว่าวันนี้ทำเงินไปได้เท่าไหร่ เมื่อคำนวณออกมาแล้ว ยอดขายรวมกลับสูงถึงสองพันแปดร้อยตำลึง
และเมื่อหักต้นทุนวัตถุดิบแล้ว พวกนางประเมินอย่างต่ำที่สุดก็สามารถทำกำไรได้ถึงสองพันห้าร้อยตำลึง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป กำไรจากสบู่นมแพะก็เกินความคาดหมายเดิมของนางไปมากแล้ว
เมื่อนางบอกยอดขายของวันนี้ให้ทุกคนฟัง ทุกคนต่างตกตะลึง นี่เป็นเพียงยอดขายของวันแรกเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เดือนหนึ่งจะทำเงินได้เท่าไหร่กัน?
“ซูหว่าน เจ้าเก่งกาจนัก วันนี้ทำเอาข้าทึ่งไปเลย ชุดของขวัญหกหกมงคล นั่น ทำเอาข้าเองยังอยากจะคว้ามาใช้สักสองชุด”
ซูอวิ๋นยอมรับนับถือจากใจจริง การทำการค้าของซูหว่านไม่มีที่ติ เพียงไม่กี่ประโยคก็ทำให้ทุกคนรู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะซื้อหาจับจอง ดูเผิน ๆ เหมือนว่าทางร้านจะยอมขาดทุนเพื่อสร้างชื่อเสียง แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็กำไรไม่น้อยเลย แถมลูกค้าเหล่านั้นยังกลัวว่าจะพลาดของดีราคาถูกไปเสียอย่างนั้น ต่างแย่งชิงกันจนหัวแทบแตก
“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!” ซูหว่านกล่าวอย่างไม่ถ่อมตนพร้อมกับขยับปิ่นปักผม
“ใช่แล้ว เพียงแค่ร้านสาขาที่เซียงโจวแห่งนี้ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าปานนี้แล้ว หากวันข้างหน้าไปเปิดสาขาที่เมืองอื่นอีกจะขนาดไหนกัน ชิงชิง เจ้าต้องตั้งใจเรียนรู้เรื่องการคำนวณจากหวานหว่านให้ดี หวานหว่านไว้ใจเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้าอย่าทำให้นางต้องผิดหวังเล่า”
เมื่อน้าชายได้ยินว่าวันเดียวทำเงินได้ถึงสองพันแปดร้อยตำลึง ก็ไม่อาจเก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้บนใบหน้าได้
เขาเชื่อมั่นว่า หากบุตรสาวของตนได้ติดตามลูกพี่ลูกน้องคนนี้แล้ว วันข้างหน้าชีวิตจะยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ
น้าชายเองก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับโรงงาน คอยสอดส่องปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้
ซูหว่านพยักหน้าอย่างครุ่นคิด แล้วเอ่ยถามว่า
“ท่านน้า ท่านไปสืบมาแล้วหรือยังเจ้าคะ ว่าพวกเขาจะขายต่อในราคาเท่าใด?”
“สืบมาแล้ว ตอนที่พวกเขาซื้อมาเกือบสี่ร้อยตำลึง ตอนนี้ก็อยู่มาได้สิบกว่าปีแล้ว ลูกชายคนรองของเขาทำการค้าขายอาหารว่างในช่วงหลายปีมานี้พอจะเก็บเงินได้บ้าง เลยตั้งใจจะเปลี่ยนไปอยู่บ้านใหม่ ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงขายต่อในราคาสองร้อยแปดสิบตำลึง”
ปัญหาเหล่านี้ท่านลุงไปสืบเสาะมาหมดแล้ว เขาเห็นว่าเหมาะสมดีแล้ว มิฉะนั้นคงไม่เอ่ยเรื่องนี้กับซูหว่าน
ซูหว่านเองก็สังเกตเห็นปัญหาที่น้าชายกล่าวมาเช่นกัน เฉาอวิ๋นและเปียวจื่อที่เพิ่งมาใหม่ ตอนนี้ยังต้องเบียดอยู่กับพวกหมังจ้ง ไม่ค่อยสะดวกสบายนัก
“เจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะไปดูด้วยตัวเอง ถ้าหากเหมาะสมข้าจะซื้อมันไว้ ถึงตอนนั้นเรื่องทลายกำแพงเชื่อมลานบ้านคงต้องลำบากท่านน้าแล้ว พอถึงสิ้นปีข้าจะแบ่งเงินปันผลให้ทุกคน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...