“ไม่ลำบาก ไม่ลำบาก หวานหว่านกล่าวเกินไปแล้ว” น้าชายรีบโบกมือปฏิเสธ
ขณะที่ร้านอวี้เหยียนถังกำลังเตรียมจะปิดร้าน องครักษ์เงาข้างกายของเจียงอวี้ก็พลันปรากฏตัวขึ้น เมื่อก้าวเข้ามาในร้านก็ประสานหมัดคารวะซูหว่าน
“แม่นาง นายน้อยของข้าเห็นว่าทุกท่านเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในวันนี้ จึงได้จัดเตรียมสุราและอาหารไว้โต๊ะหนึ่งที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี ขอเชิญทุกท่านไปรับประทานอาหารค่ำขอรับ”
จริงดังว่า วันนี้ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวายกันมาทั้งวัน ตอนกลางวันก็อาศัยช่วงที่ลูกค้าซาลง รีบกินข้าวกันไปคนละคำสองคำพอรองท้อง จนป่านนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง คงจะหิวจนตาลายกันหมดแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถิด วันนี้เป็นวันแรกที่เราเปิดร้าน ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันมามากแล้ว เราควรจะไปเลี้ยงฉลองให้กับการเปิดกิจการอันเป็นมงคล ไปกินให้อิ่มหนำกันสักมื้อที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีกัน”
เมื่อซูหว่านเอ่ยปาก ทุกคนก็ย่อมยินดีที่จะไปด้วย มีเพียงเฉาอวิ๋นและเปียวจื่อที่อาสาว่าจะไม่ไป เพราะอยากจะกลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
ซูหว่านเองก็เป็นเถ้าแก่ที่ใส่ใจลูกน้อง จึงมอบเงินสองตำลึงให้เป็นรางวัล บอกให้ทั้งสองไปซื้อของที่อยากกินกลับไป และคาดว่าทางฝั่งของหมังจ้งก็น่าจะเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พวกเขาแล้ว
“ขอบคุณเถ้าแก่”
“ไม่ต้องขอบคุณ ตั้งใจทำงานให้ดี ทำตัวให้คล่องแคล่วว่องไว ในภายหน้ายังมีรางวัลแบบนี้อีกมาก” ซูหว่านโบกมือเป็นเชิงว่าให้พวกเขากลับไปก่อน
เฉาอวิ๋นและเปียวจื่อซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าพวกตนทำบุญมาด้วยอะไรถึงได้พบกับนายหญิงเช่นนี้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ บรรดาพี่น้องในเรือนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเถ้าแก่ของตนดีเพียงใด ให้ความเคารพพวกตนมากเพียงใด พวกนางบอกว่าที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้ได้สัมผัสกับรสชาติของการได้เป็นมนุษย์อย่างเต็มภาคภูมิ จนบางครั้งก็เผลอลืมไปว่าตนเองนั้นมีสถานะเป็นทาส
หลังจากร้านอวี้เหยียนถังปิดลง ซูหว่านก็ควงแขนแม่ซูไปยังโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี เจียงอวี้ได้เตรียมโต๊ะอาหารอันโอชะไว้รอทุกคนอยู่แล้ว
วันนี้ซูหว่านหาเงินมาได้ไม่น้อย นางจึงไม่คิดจะเอาเปรียบค่าอาหารมื้อนี้ ด้วยความอารมณ์ดีจึงดื่มสุราบ๊วยตามไปหลายจอกจนมีอาการมึนเมาเล็กน้อย
ตอนจะกลับ นางดึงดันจะยัดเงินยี่สิบตำลึงใส่มือผู้จัดการลั่วเพื่อเป็นค่าอาหาร ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง
ผู้จัดการลั่วจนปัญญา ไม่กล้ารับเงิน จึงได้แต่มองไปทางเจียงอวี้เพื่อขอความช่วยเหลือ
เจียงอวี้ยืนอยู่ด้านหลัง ขณะที่ซูหว่านมีแม่ซูกับหยางชิงชิงคอยประคองอยู่ เขาจึงทำเพียงมองนางด้วยสายตาอ่อนโยนและเอ็นดู ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลลั่ว เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย ผู้ดูแลลั่วถึงกล้ารับเงินร้อนก้อนนี้ไว้
คุณหนูใหญ่ซู ถึงได้จากไปอย่างพึงพอใจ
สุดท้ายแล้ว ซูหว่านก็ถูกพี่สามแบกกลับบ้าน ตอนที่ดื่มนั้นนางรู้สึกว่าสุราบ๊วยมีรสหวานชื่นใจ ไม่คิดเลยว่าฤทธิ์ของมันจะรุนแรงถึงเพียงนี้
วันรุ่งขึ้นเมื่อนางตื่นขึ้นมา ในบ้านก็เหลือเพียงเจียงอวี้กับองครักษ์อีกสองสามคนเท่านั้น


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...