เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 288

“ไม่ลำบาก ไม่ลำบาก หวานหว่านกล่าวเกินไปแล้ว” น้าชายรีบโบกมือปฏิเสธ

ขณะที่ร้านอวี้เหยียนถังกำลังเตรียมจะปิดร้าน องครักษ์เงาข้างกายของเจียงอวี้ก็พลันปรากฏตัวขึ้น เมื่อก้าวเข้ามาในร้านก็ประสานหมัดคารวะซูหว่าน

“แม่นาง นายน้อยของข้าเห็นว่าทุกท่านเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในวันนี้ จึงได้จัดเตรียมสุราและอาหารไว้โต๊ะหนึ่งที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี ขอเชิญทุกท่านไปรับประทานอาหารค่ำขอรับ”

จริงดังว่า วันนี้ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวายกันมาทั้งวัน ตอนกลางวันก็อาศัยช่วงที่ลูกค้าซาลง รีบกินข้าวกันไปคนละคำสองคำพอรองท้อง จนป่านนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง คงจะหิวจนตาลายกันหมดแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถิด วันนี้เป็นวันแรกที่เราเปิดร้าน ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันมามากแล้ว เราควรจะไปเลี้ยงฉลองให้กับการเปิดกิจการอันเป็นมงคล ไปกินให้อิ่มหนำกันสักมื้อที่โรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซีกัน”

เมื่อซูหว่านเอ่ยปาก ทุกคนก็ย่อมยินดีที่จะไปด้วย มีเพียงเฉาอวิ๋นและเปียวจื่อที่อาสาว่าจะไม่ไป เพราะอยากจะกลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้

ซูหว่านเองก็เป็นเถ้าแก่ที่ใส่ใจลูกน้อง จึงมอบเงินสองตำลึงให้เป็นรางวัล บอกให้ทั้งสองไปซื้อของที่อยากกินกลับไป และคาดว่าทางฝั่งของหมังจ้งก็น่าจะเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พวกเขาแล้ว

“ขอบคุณเถ้าแก่”

“ไม่ต้องขอบคุณ ตั้งใจทำงานให้ดี ทำตัวให้คล่องแคล่วว่องไว ในภายหน้ายังมีรางวัลแบบนี้อีกมาก” ซูหว่านโบกมือเป็นเชิงว่าให้พวกเขากลับไปก่อน

เฉาอวิ๋นและเปียวจื่อซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าพวกตนทำบุญมาด้วยอะไรถึงได้พบกับนายหญิงเช่นนี้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ บรรดาพี่น้องในเรือนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเถ้าแก่ของตนดีเพียงใด ให้ความเคารพพวกตนมากเพียงใด พวกนางบอกว่าที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้ได้สัมผัสกับรสชาติของการได้เป็นมนุษย์อย่างเต็มภาคภูมิ จนบางครั้งก็เผลอลืมไปว่าตนเองนั้นมีสถานะเป็นทาส

หลังจากร้านอวี้เหยียนถังปิดลง ซูหว่านก็ควงแขนแม่ซูไปยังโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี เจียงอวี้ได้เตรียมโต๊ะอาหารอันโอชะไว้รอทุกคนอยู่แล้ว

วันนี้ซูหว่านหาเงินมาได้ไม่น้อย นางจึงไม่คิดจะเอาเปรียบค่าอาหารมื้อนี้ ด้วยความอารมณ์ดีจึงดื่มสุราบ๊วยตามไปหลายจอกจนมีอาการมึนเมาเล็กน้อย

ตอนจะกลับ นางดึงดันจะยัดเงินยี่สิบตำลึงใส่มือผู้จัดการลั่วเพื่อเป็นค่าอาหาร ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง

ผู้จัดการลั่วจนปัญญา ไม่กล้ารับเงิน จึงได้แต่มองไปทางเจียงอวี้เพื่อขอความช่วยเหลือ

เจียงอวี้ยืนอยู่ด้านหลัง ขณะที่ซูหว่านมีแม่ซูกับหยางชิงชิงคอยประคองอยู่ เขาจึงทำเพียงมองนางด้วยสายตาอ่อนโยนและเอ็นดู ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลลั่ว เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย ผู้ดูแลลั่วถึงกล้ารับเงินร้อนก้อนนี้ไว้

คุณหนูใหญ่ซู ถึงได้จากไปอย่างพึงพอใจ

สุดท้ายแล้ว ซูหว่านก็ถูกพี่สามแบกกลับบ้าน ตอนที่ดื่มนั้นนางรู้สึกว่าสุราบ๊วยมีรสหวานชื่นใจ ไม่คิดเลยว่าฤทธิ์ของมันจะรุนแรงถึงเพียงนี้

วันรุ่งขึ้นเมื่อนางตื่นขึ้นมา ในบ้านก็เหลือเพียงเจียงอวี้กับองครักษ์อีกสองสามคนเท่านั้น

“อืม ท่านพูดถูก ในจวนควรจะมีสาวใช้ไว้คอยรับใช้ปัดกวาดเช็ดถูสักสองสามคน ในครัวก็ควรมีแม่ครัวไว้ทำอาหารด้วยเช่นกัน”

คนที่ทำงานในจวนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องฉลาดหลักแหลมมากนัก ขอเพียงทำงานเป็นก็พอแล้ว ข้างกายนางเองก็ต้องการสาวใช้ติดตามสักคนสองคนจริง ๆ เผื่อในอนาคตต้องออกไปเจรจาการค้าจะได้พาไปด้วย

อีกไม่นานพี่สามก็ต้องไปเป็นทหารแล้ว เมื่อคิดดูตอนนี้ ประกาศรับสมัครทหารคงจะถูกนำมาติดที่เซียงโจวในเร็ว ๆ นี้

“คนที่ไว้ทำงานปัดกวาดในจวนไปหาซื้อจากสำนักงานซื้อขายบ้านได้ตามใจชอบ แต่คนที่รับใช้ข้างกายเจ้าจะปล่อยปละละเลยมิได้ ข้าจะจัดหาคนเป็นวรยุทธ์ให้สักสองคน ไว้คอยคุ้มครองเจ้าอย่างใกล้ชิด”

เจียงอวี้เริ่มวางแผนจัดการให้นางอีกแล้ว

“ไม่ต้องหรอก ท่านไม่ต้องคิดเผื่อข้าไปเสียทุกเรื่องเช่นนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกว่า หากไม่มีท่าน ข้าคงทำอะไรไม่สำเร็จเลยสักอย่าง”

ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังพึ่งพิงเจียงอวี้อยู่

คำพูดของซูหว่านที่แฝงไปด้วยความห่างเหินนั้นทำให้เจียงอวี้รู้สึกเจ็บปวดในใจราวกับถูกหนามทิ่มแทง เขาจึงยื่นน้ำแกงหวานให้นาง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเจือความน้อยใจว่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม