ยังคงเป็นห้องส่วนตัวเหมือนเมื่อครั้งที่เเล้ว เพียงเเต่ครั้งนี้มีคนน้อยกว่า โรงเตี๊ยมเยว่หม่านซีก็ยังคงต้อนรับซูหว่านอย่างอบอุ่นเช่นเคย ตอนเดินขึ้นบันได นางก็สำรวจไปรอบๆ เเต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามผู้จัดการลั่ว
ชิวเหนียงกำลังรออยู่ในห้อง นางสวมชุดสีเเดงสดงดงามน่าหลงใหลเหมือนเมื่อพบกันครั้งที่เเล้ว ดวงตาเย้ายวนชวนมอง
นางนำกล่องกระเบื้องเล็กๆหลายกล่องมาให้ดู ในนั้นบรรจุยาบำรุงผิวปิงจีอวี้กู่, ครีมทามือ, เเละครีมบำรุงผิวทั่วไป ส่วนดินสอเขียนคิ้วรูปหอยถูกบรรจุอยู่ในกล่องไม้สีเเดง ด้านบนแกะสลักลวดลายกิ่งท้อสีชมพู ภายในมีดินสอเขียนคิ้วรูปหอยสามเเท่ง ซึ่งก็คือดินสอเขียนคิ้วรูปหอยในตำนานนั่นเอง
ส่วนกล่องกระเบื้องสีขาวเหล่านั้น ล้วนออกแบบมาอย่างเรียบง่ายงดงาม ชิวเหนียงจะวางขายสินค้ารูปแบบนี้ในอนาคต นางจึงอยากให้ซูหว่านช่วยดูว่ามีอะไรที่ต้องเเก้ไขหรือไม่
ซูหว่านไว้วางใจในการทำงานของชิวเหนียง นางพอใจมากเเละบอกว่าไม่ต้องเเก้ไขอะไร
นอกจากนี้ ชิวเหนียงได้ดูทำเลร้านปิงจีถังไว้เเล้ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามไม่ไกลจากร้านอวี้เหยียนถัง กำลังอยู่ระหว่างการตกเเต่ง เเละภายในก็มีสองชั้น ส่วนโรงงานกำหนดไว้เรียบร้อยเเล้ว เเละเตรียมสต็อกสินค้าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ซูหว่านเเสดงความพึงพอใจรัวๆ นี่เเหล่ะมืออาชีพทำงานเร็วเเละประณีต เเต่สุดท้ายนางก็อดได้ที่จะถามขึ้นว่า
“นายน้อยของพวกเจ้ายุ่งขนาดนั้นเลยหรือ ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงเจ้าของร้านปิงจีถัง เเต่ไม่ใส่ใจเลยสักนิด”
ทันทีที่พูดจบ ประตูก็ถูกผลักเปิดออก เจียงอวี้ยืนอยู่ที่ประตู วันนี้เขาเปลี่ยนจากชุดสีม่วงที่เคยใส่ประจำ มาเป็นชุดคลุมยาวสีดำ เเขนเสื้อถูกรัดขึ้น ผมถูกรวบเป็นหางม้าสูงเรียบร้อย ปลายผมดูยุ่งเล็กน้อย รองเท้ายังเปื้อนโคลน เเละยังมีกลิ่นน้ำค้างติดตัว ราวกับว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากที่ไหนสักเเห่งในตอนกลางคืน
จากใบหน้าที่อ่อนล้าของเขาก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ได้นอนมาทั้งคืน หรืออาจจะไม่ได้นอนมาหลายวันติดต่อกัน
เจียงอวี้เพิ่งกลับมาจากซู่โจวที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนเขามีเรื่องที่ต้องจัดการจึงล่าช้าไปหลายวัน หลังจากรีบกลับมาก็ได้ยินว่านางกำลังคุยเรื่องงานกับชิวเหนียงที่โรงเตี๊ยมเยว่หม่านซีมาครึ่งชั่วโมงแล้ว เขากลัวว่าจะมาไม่ทันเวลา
เพราะมีเรื่องที่ต้องบอกนาง
เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว หัวใจของซูหว่านก็เต้นขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ แม้เเต่จมูกก็รู้สึกเเสบเล็กน้อย เเต่นางก็ยังคงรักษาสีหน้าให้สงบนิ่ง เพียงเเค่เหลือบมองเขาเล็กน้อย เเล้วเบือนสายตาออก
เจียงอวี้ไม่สนใจความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เขาดึงเสื้อคลุมที่อยู่บนบ่าออกโยนให้คนรับใช้ จากนั้นก็มองไปที่ชิวเหนียง
“คุยธุระเสร็จหรือยัง”
ชิวเหนียงมองเจียงอวี้ เเล้วก็มองซูหว่านผู้ไร้อารมณ์ รู้ว่าคู่หนุ่มสาวทะเลาะกัน จึงยิ้มอย่างรู้ใจเเล้วพยักหน้า
เจียงอวี้ไม่พูดอะไร เพียงเเต่พานางไปนั่งบนเก้าอี้เอนอย่างดี จากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆนาง ซูหว่านจะลุกขึ้นก็ถูกเขากดเเขนไว้
“อย่าดื้อ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
“ใครดื้อ” ซูหว่านปากไม่ตรงกับใจ
“งั้นเจ้าอายอะไร” เจียงอวี้มองนางอย่างขบขัน สาวน้อยรู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ
“มีอะไรก็รีบว่ามา ข้ายังมีธุระต้องรีบไปทำอีกนะ!” ซูหว่านจัดกระโปรงของตัวเองอย่างใจเย็น ทว่าในใจนางกลับรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
เจียงอวี้เลิกคิ้วขึ้น มือที่วางบนเข่าของเขาเเสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใจเย็นนัก
“ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา ข้าไม่ได้ตั้งใจจะหลบหน้าเจ้า ตอนเเรกคิดว่าจะสงบใจสักสองสามวัน เพื่อคิดทบทวนคำถามที่เจ้าถามข้าให้ดี เเละให้คำตอบที่น่าพอใจกับเจ้า เเต่เเล้วที่ซู่โจวก็มีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ จึงไปซู่โจวมา พอกลับมาถึงก็รีบมาหาเจ้า”
ไม่ว่าจะพูดอะไร เขาอธิบายสาเหตุที่เขาหายหน้าไป ด้วยท่าทีที่จริงใจเเละน้ำเสียงที่อ่อนโยน ทำให้ความน้อยใจของซูหว่านหายไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...