ซูหว่านคิดถึงวันนั้น หัวใจก็เต้นระรัวไม่หยุด ซูอวิ๋นเองก็เห็นเจียงอวี้ จึงดึงเขามาข้างตัว ยืนคู่กับซูหว่านพลางพูดว่า
“พี่อวี้มาเเล้ว รีบมายืนตรงนี้ พี่ใหญ่ของข้าจะมาถึงเเล้ว”
เจ้าเด็กคนนี้ พอพูดถึงพี่ใหญ่ น้ำเสียงก็ดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
ไม่นานนัก ก็มีขบวนคนชุดเเดงปรากฏตัวขึ้นเเต่ไกล นั่นคือขบวนคุ้มกันที่ราชสำนักส่งมาอารักขาจอหงวนกลับบ้าน พวกเขาสวมเสื้อคลุมสีเเดงเช่นกัน มีรถม้าสองคันที่บรรทุกของรางวัลสำหรับจอหงวน เเละรถม้าอีกคันหนึ่งมีไว้ให้ซูจิ่งได้พักผ่อนระหว่างการเดินทางอันยาวนาน เขาเพิ่งเปลี่ยนมาสวมชุดจอหงวนเมื่อใกล้ถึงเซียงโจว สวมดอกไม้สีแดงดอกใหญ่ ขี่ม้าสูงใหญ่เข้ามา
“มาแล้วมาแล้ว จอหงวนบ้านเรามาแล้ว” ซูอวิ๋นชี้ไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น
แม่ซูทั้งอยากจะร้องไห้ทั้งอยากจะหัวเราะ พ่อซูจับมือนางไว้เเน่น ตัวเขาเองก็ตื่นเต้นจนเหงื่อเต็มมือ
เมื่อขบวนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซูจิ่งอยู่บนหลังม้า หลังเหยียดตรง สายตาจับจ้องไปข้างหน้า ท่าทางสง่างาม
เขาราวกับสายลม ราวกับดวงจันทร์ ราวกับดวงดาว ราวกับกล้วยไม้ ณ ขณะนี้คำพรรณนาอันงดงามทั้งหมดสามารถนำมาใช้บรรยายเขาได้ เฉกเช่นเดียวกับที่ซูหว่านเห็นพี่ใหญ่ครั้งเเรก นางก็เข้าใจเเล้วว่าสุภาพบุรุษผู้สุภาพดุจหยก เเละมีอุปนิสัยเหยือกเย็นดุจกล้วยไม้นั้นเป็นอย่างไร
ชาวโลกพากันถอนหายใจในความงามอันหมดจดเช่นนี้ เเละยังมีพรสวรรค์เช่นนี้อีก เเล้วอันดับสามผู้เพียบพร้อมทั้งความสามาถและความงามเล่า จะเป็นเช่นไร
อันดับสามนั้นไม่เพียงเเต่ต้องเขียนบทความให้ดีเท่านั้น เเต่รูปลักษณ์เเละกิริยามารยาทก็ต้องเป็นเลิศด้วย เเต่ซูจิ่งเป็นจอหงวนยังรูปงามถึงเพียงนี้ เเล้วอันดับสามจะงดงามเพียงใด
เนื่องจากเรื่องนี้ ฮ่องเต้จึงทรงมีเรื่องถกเถียงกับขุนนางมากมายในเวลานั้น บรรดาขุนนางไม่อาจหาผู้ที่งดงามกว่าเขามาเป็นอันดับสามได้เลย จนกระทั่งคำพูดของเสนาบดีในราชสำนัก ทำให้เรื่องการเป็นจอหงวนของซูจิ่งได้ข้อสรุป เขากล่าวว่า
“หากซูจิ่งเป็นเพียงเเค่อันดับสาม เเล้วใครเล่าจะคู่ควรกับตำเเหน่งจอหงวนในครั้งนี้
ความหมายคือ เขานั้นดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครเก่งกว่าเขาอีก
เมื่อมาถึงประตูเมือง ซูจิ่งพลิกตัวลงหลังม้า อันดับเเรกคือทำความเคารพขุนนางหลายท่าน ตำเเหน่งปัจจุบันของเขาสู้พวกเขาไม่ได้ เเต่เขาคือจอหงวน ในอนาคตมีโอกาสสูงมากที่จะได้เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี จึงต้องให้ความเคารพ
จากนั้น ซูจิ่งมาหยุดที่หน้าพ่อซูแม่ซู ไม่สนใจฝุ่นดินสีเหลืองบนพื้น โขกศรีษะให้พวกเขาสามครั้ง ในชั่วขณะนั้น น้ำตาของเเม่ซูก็ไหลพรั่งพรูราวกับลูกปัดจากเชือกที่ขาด
“ท่านพ่อ ท่านเเม่ ลูกกลับมาแล้ว”
“ลูกรักลำบากเเล้ว รีบลุกขึ้นมา” สองสามีภรรยาประคองเขาขึ้นมา
ซูหว่านก็ร้องไห้ตาม ส่วนพี่ชายคนอื่นๆนอกจากซูอวิ๋นเเล้ว ต่างก็พยายามอดกลั้นไว้ เพราะลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้ง่ายๆ ยกเว้นซูอวิ๋น
เจียงอวี้ห็นซูหว่านร้องไห้ เขาก็ล้วงผ้าเช็ดหน้าจะยื่นให้นางเช็ดน้ำตา ปรากฏว่าช้าไปก้าวหนึ่ง ซูหว่านคว้าเเขนเสื้อของเขามาปาดน้ำตาเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...