เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 312

“พวกเจ้ากลับมาแล้วหรือ?”

สองพี่น้องกลับไปนานถึงแปดเก้าวัน เมื่อซูเฉินเห็นพวกเขากลับมาจึงรู้สึกยินดีและประหลาดใจยิ่งนัก

หลายวันก่อนเขาได้สมัครเป็นทหารแล้ว และมะรืนนี้ก็คือวันรวมพลครั้งสุดท้าย ทว่าเนื่องจากน้องสาวและพี่ใหญ่ยังไม่กลับมา เขาจึงตั้งใจจะรอประกาศเรื่องนี้ต่อหน้าพวกเขา

เขาคิดจะบอกแม่ซูก่อนล่วงหน้า แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มอันเปี่ยมสุขของนาง ทั้งยังไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบของเขาด้วยความห่วงใย เขาก็ไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรดี

เขาตัดสินใจเรื่องนี้โดยพลการ สถานการณ์ในสนามรบแนวหน้านั้นผันผวนยากคาดเดา การไปครั้งนี้อาจเป็นการอำลาชั่วนิรันดร์ แม้เขาจะมั่นใจว่าสามารถปกป้องตนเองได้ แต่ด้วยนิสัยของแม่ซู หากนางล่วงรู้เข้า เกรงว่าจะต้องด่าทอเขาอย่างหนักและไม่ยอมให้เขาไปเป็นแน่ มิหนำซ้ำอาจจะร้องไห้ฟูมฟายจนล้มป่วยลงได้

บัดนี้ซูหว่านและพี่ใหญ่กลับมาแล้ว เขาจึงคิดจะให้พวกเขาทั้งสองช่วยเกลี้ยกล่อมแม่ซู พี่ใหญ่เป็นผู้ที่ห่วงใยบ้านเมืองและราษฎร เขาคงจะเข้าใจความคิดที่อยากจะปกป้องแคว้นของเขาได้กระมัง?

ส่วนซูหว่านนั้นคอยสนับสนุนการตัดสินใจของพี่ชายทุกคนเสมอมา ทั้งยังชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา นางก็น่าจะเห็นด้วยเช่นกัน

“อืม เรื่องทางบ้านจัดการเรียบร้อยแล้ว ข้ากับหวานหว่านจึงกลับมาที่เซียงโจวก่อน น้อยนักที่จะเห็นเจ้ามีสีหน้ากลัดกลุ้มเช่นนี้ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ?”

พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ เพียงชั่วพริบตาก็สังเกตเห็นความผิดปกติของน้องชายได้ นิสัยของน้องสามนั้นเรียบง่ายและจริงใจที่สุด เขาเป็นคนขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์ และอ่านง่ายที่สุด

ซูจิ่งนั่งลงตรงข้ามเขา ซูหว่านเองก็นั่งลงตาม ตงเอ๋อร์ สาวใช้ที่ดูแลความสะอาดเรียบร้อยได้เข้ามารินชาให้พวกเขาหนึ่งกา

เมื่อถูกพี่ใหญ่ล่วงรู้ความคิดในใจ ซูเฉินจึงกัดฟันเล่าเรื่องที่เก็บซ่อนไว้ในใจออกมา

“พี่ใหญ่ หวานหว่าน ก่อนที่ข้าจะพูด ข้าต้องขอสารภาพผิดต่อพวกท่านก่อน!” เขาก้มหน้าลง หมัดที่กำแน่นบ่งบอกถึงความตึงเครียดในยามนี้ เพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิ

ซูหว่านเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้นก็เข้าใจในทันที พี่สามของนางคงจะตัดสินใจลงมือไปก่อนแล้วจึงค่อยมาบอกกล่าว เขาได้สมัครเป็นทหารแล้วเป็นแน่

ขณะที่ซูจิ่งเองก็ตระหนักได้ว่า เรื่องที่น้องสามกำลังจะพูดนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

“เราล้วนเป็นพี่น้องร่วมอุทร เจ้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิดต่อพวกเรา จะสารภาพผิดเรื่องอันใดกัน? มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถิด” ไม่ว่าอย่างไร ซูจิ่งซูจิ่งก็ไม่มีทางตำหนิน้องชายแท้ ๆ ของตนได้ลงคอ

เขาไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายผิดทำนองคลองธรรมเสียหน่อย แล้วจะมีโทษทัณฑ์อันใดกัน?

“ใช่แล้วพี่สาม ท่านอยากจะพูดอะไรก็พูดเถิด อยากจะทำอะไรก็ทำเถิด เพียงทำตามหัวใจของตนเอง ตราบใดที่มันดีต่อตัวตนเองและไม่รู้สึกผิดต่อมโนธรรม เช่นนั้นก็พอแล้ว ท่านพี่ไม่ได้ทำผิดต่อผู้ใด และไม่ได้มีความผิดอันใดเลย”

“เดิมทีข้าตั้งใจจะรอให้ท่านพี่กับหวานหว่านกลับมาแล้วค่อยหารือกัน แต่พวกท่านไปนานมิกลับเสียที วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเกณฑ์ทหารแล้ว ข้าไม่มีเวลาแล้ว จึงทำได้เพียงตัดสินใจไปก่อนแล้วค่อยบอกทีหลัง” ซูเฉินอธิบาย สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

ซูจิ่งหรี่ตามองเขาด้วยแววตากดดันอย่างยิ่ง จนซูเฉินมิกล้าสบตาพี่ใหญ่ ส่วนซูหว่านที่อยู่ด้านข้างก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรออกมาเช่นกัน

ครู่ต่อมา ซูจิ่งถอนหายใจยาวพร้อมกล่าวถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“เจ้าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือว่ารอคอยวันเวลานี้มานานแล้วกันแน่?”

“ข้าไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว ข้าจะไม่ปิดบังพี่ใหญ่อีกต่อไป อันที่จริงแล้วนายพรานเจียงแห่งหุบเขาซานหยางก็คือท่านอาจารย์ของข้า ข้าเริ่มฝึกยุทธ์กับท่านอาจารย์ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ บัดนี้เมื่อชายแดนมีภัย ชาติบ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤต การปกป้องบ้านเมืองถือเป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายทุกคน พี่ใหญ่ทุ่มเทร่ำเรียนมาหลายปี บัดนี้สอบได้เป็นบัณฑิตแล้วก็ยังคงห่วงใยทุกข์สุขของบ้านเมืองและราษฎร ข้ากับท่านพี่ก็คิดเห็นเฉกเช่นเดียวกัน ทั้งหมดล้วนเพื่อชาติบ้านเมือง”

พี่สามผู้ซึ่งปกติพูดน้อยและไม่เคยเอ่ยถ้อยคำสละสลวยใด ๆ บัดนี้กลับกล่าววาจาที่เปี่ยมไปด้วยเลือดรักชาติถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าความตั้งใจที่จะปกป้องบ้านเมืองของเขานั้นแน่วแน่เสียจนต่อให้ใช้ม้าแปดตัวก็ฉุดรั้งไว้ไม่อยู่

ปีนั้น ครั้งแรกที่ท่านอาจารย์ได้พบเขา เด็กชายซูเฉินกำลังถือเพียงกิ่งไม้เล่นสนุกกับเด็กคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน สวมบทบาทเป็นแม่ทัพใหญ่ เขาแกว่งกิ่งไม้ไปมาอย่างไม่เป็นระเบียบนัก แต่เจียงอวิ๋นเฮ่อก็มองออกในทันทีว่าเด็กน้อยผู้นี้มีแววที่จะฝึกยุทธ์ได้ดี

จวบจนเมื่อเด็กชายซูเฉินต้องช่วยงานบ้านหาบน้ำตามลำพัง ทั้งที่อายุยังน้อย แต่กำลังแขนของเขาก็มากพอที่จะยกถังน้ำที่เกือบเต็มขึ้นมาได้อย่างมั่นคง โดยไม่หกเลอะเทอะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม