“เเต่ว่า พี่ห้าวันนี้ท่านไม่ไปที่หอภาพวาดเหรอ” ซูหว่านนึกขึ้นได้กระทันหัน วันนี้พี่ห้าไม่ทำงานเหรอ
“ไปเป็นเพื่อนเจ้าเดินเล่นสำคัญกว่า ไม่ไปหอภาพวาดวันเดียวก็ไม่เป็นไร” ซูอี้ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
การเฝ้าร้านจะสำคัญกว่าการอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวได้อย่างไร ความสุขของน้องสาวสำคัญที่สุด
“ไปไหนกัน ข้าขอไปร่วมสนุกด้วยได้ไหม”
พี่ใหญ่ไม่รู้ว่ามาตั้งเเต่เมื่อไร อีกสองวันเขาก็จะต้องเดินทางไปรับตำเเหน่งแล้ว ไม่กี่วันนี้เเม่ซูก็จัดการสัมภาระให้ เพราะเขาต้องไปรับตำเเหน่งเเละต้องไปอยู่ในที่ที่ลำบากหลายปี ทั้งเสื้อผ้า อาหาร ที่พัก การเดินทางก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย ไม่เหมือนซูเฉินที่ไปเป็นทหาร ในค่ายทหารต้องสวมเกราะเเละไม่ได้รับอนุญาติให้นำของรุงรังไปมากนัก อีกทั้งซูหว่านก็ได้จัดการให้เขาเรียบร้อยเเล้ว ซึ่งไม่ใช่การเลือกปฏิบัติจริงๆ
ซูหว่านยังตั้งใจไปที่สำนักงานซื้อขายเพื่อซื้อเด็กหนุ่มสองคนที่มีอายุน้อยเเละอ่านออกเขียนได้ อายุสิบห้าหรือสิบหกปี ฉลาดเเละรู้กาละเทศะ เพื่อให้ไปเป็นเด็กรับใช้ของพี่ใหญ่โดยเฉพาะ เเละคอยดูเเลชีวิตประจำวันของเขาด้วย เกรงว่าเขาจะยุ่งเกินไปจนละเลยตัวเอง
เครื่องประดับและอัญมณีที่พี่ใหญ่นำมาให้นางหากแเลกเป็นเงินก็จำนวนมาก นางจะเสียเงินซื้อคนสองคนให้เขาจะเสียหายอะไร
“ข้ากับพี่ห้าจะไปเดินเล่น พี่ใหญ่ไปด้วยกันไหม” ซูหว่านตอบอย่างน่ารัก
“ไปสิ ถ้าหวานหว่านไม่รังเกียจว่าพี่ใหญ่จะเป็นตัวถ่วงล่ะก็” ซูจิ่งสวมชุดผ้าไหมสีขาวนวล เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเขาเป็นสีขาวนวลเเละสีเหลืองอ่อน ซึ่งเป็นสีที่เรียบง่ายเเละสง่างาม
ช่างเป็นคุณชายที่สง่างาม เเละอ่อนโยนดุจหยกจริงๆ
“พี่ใหญ่กับพี่ห้าของข้า คนหนึ่งสง่างามราวแสงจันทร์อ่อนโยนดุจหยก อีกคนหนึ่งบริสุทธิ์เเละสง่างาม มีพวกพี่ไปด้วย ตอนออกไปข้างนอก ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะโดดเด่นเเค่ไหน กลัวว่าบรรดาสาวๆที่เดินเล่นคนเดียวเพียงลำพังจะต้องอิจฉาข้าตายแน่ๆ ข้าจะรังเกียจได้ยังไงล่ะ”
ซูหว่านช่างพูดเก่งจริงๆ เพียงไม่กี่คำก็ทำให้ทุกคนพอใจ เเละยังทำให้พี่ใหญ่กับพี่ห้าหัวเราะอย่างมีความสุขอีกด้วย
ซูจิ่งเอ็นดูถึงกับเเตะจมูกนางเบาๆเเละพูดว่า
“เจ้าช่างปากหวานจริง!”
ซูหว่านยิ้มพลางหลบ หลิวอิ๋งที่ยืนอยู่ข้างๆมองดูด้วยความชื่นชม ซูหว่านมอบภาพวาดของพี่ห้าให้นาง ให้นางเอาไปเก็บให้ดี
ในเวลานั้น หลิวอวิ๋นเดินเข้ามา พร้อมสีหน้าลำบากใจเเละพูดว่า
“คุณหนู คุณชายใหญ่ คุณหนูเเละท่านป๋อน้อยจากจวนหนิงหย่วนป๋อเจวี๋ยได้ส่งเทียบเชิญมาอีกเเล้ว เชิญทั้งสองท่านไปเที่ยวชมธรรมชาติ เดือนนี้เป็นครั้งที่สี่แล้ว จะปฏิเสธอีกไหมเจ้าคะ”
เมื่อได้ยินข่าวที่หลิวอวิ๋นนำมา ซูจิ่งกับซูหว่านก็เปลี่ยนสีหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน
ชั่วพริบตา รอยยิ้มบนใบหน้าก็กลายเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...