เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 332

ซูจิ่งยิ่งเล่นหมากก็ยิ่งรู้สึกน่าสนใจ ทั้งสองสบตากันแล้วยิ้มให้แก่กัน กล่าวคำชื่นชมเยินยอกันไปมา

ขณะที่เล่นหมากไปพลางสนทนาไปพลางนั้น ซูจิ่งพลันนึกถึงเรื่องที่วันนี้จู่ ๆ เจียงอวี้ก็ปรากฏตัวที่สวนฝูหรงขึ้นมาได้ จึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า

“วันนี้เหตุใดอาอวี้จึงไปอยู่ที่สวนฝูหรงได้เล่า?”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ซูหว่านเองก็รู้สึกสงสัยใคร่รู้ขึ้นมาเช่นกัน จึงเงยหน้าขึ้นมองเขาเพื่อรอคอยคำตอบ

เจียงอวี้มิได้ปิดบังแต่อย่างใด เขาเอ่ยตอบตามตรงว่า

“พี่ซูอาจไม่ทราบ แท้จริงแล้วสวนฝูหรงนั้นเป็นสมบัติของข้าเอง เมื่อปีก่อนข้าให้คนนำต้นฝูหรงพันธุ์ดีทั้งหลายย้ายไปปลูกทีละต้น ด้วยเหตุนี้ดอกไม้จึงได้บานสะพรั่งงดงามถึงเพียงนั้น ศาลาฝูหรงข้าก็เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างด้วยตนเอง ทั้งนี้มิใช่เพราะเหตุใดอื่น เพียงแต่ข้าเองก็หลงใหลในดอกฝูหรงเป็นอย่างยิ่ง และคนที่ข้าให้ความสำคัญก็รักดอกฝูหรงเช่นกัน!” เมื่อกล่าวประโยคสุดท้าย เจียงอวี้จงใจเหลือบมองซูหว่านเป็นพิเศษ

ซูหว่านสบตากับเขา ชั่วเวลาเพียงสองวินาที ก็ทำให้ใจนางสั่นไหวอย่างรุนแรง

เป็นความรู้สึกหวั่นไหวที่ทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

เจียงอวี้ละสายตากลับมายังกระดานหมากอีกครั้งแล้วกล่าวต่อว่า

“อันที่จริง ท่านแม่ของข้าก็โปรดปรานดอกฝูหรงยิ่งนัก วันนี้ที่ไปสวนฝูหรง เดิมทีข้าคิดว่าเดือนนี้เป็นช่วงที่ดอกฝูหรงบานงามที่สุด จึงตั้งใจจะไปดูลาดเลาไว้ก่อน แล้วค่อยเชิญทุกท่านไปชมดอกไม้ด้วยกัน เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนไปจัดงานเลี้ยงดื่มสุรากันอยู่ก่อนแล้ว เมื่อข้าเห็นว่าพี่ซูเองก็อยู่ด้วย จึงไม่อยากขัดอรรถรสของท่าน เลยได้แต่ล่าถอยไป ระหว่างทางกลับ บังเอิญพบคุณหนูหกที่กำลังมึนเมาพอดี ทั้งท่านป๋อน้อยสกุลหนิงก็กำลังพร่ำพรรณนารักต่อนาง ข้าจึงถือวิสาสะพานางกลับมาก่อน พี่ซูโปรดอภัยด้วย”

เจียงอวี้กล่าวไปตามความจริง ไม่ได้เสริมเติมแต่งให้เกินเลย เพียงแต่ปิดบังรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูหว่านเอาไว้เท่านั้น

อีกทั้ง สวนฝูหรงแห่งนี้เดิมทีเขาตั้งใจเตรียมไว้ให้เป็นของขวัญแก่ซูหว่าน แต่หนิงจื้อเชียนผู้น่าหงุดหงิดกลับบังอาจเลือกใช้เป็นสถานที่สารภาพรักโดยที่เขาไม่รู้ตัว มาบัดนี้นึกถึงแล้วช่างรู้สึกอัปมงคลเสียจริง

ยังมีเจ้าเฟิงอิ่งอีกคน ก็ไม่รู้จักให้คนเฝ้าสวนฝูหรงให้ดี ปล่อยให้คนฉวยโอกาสเข้าไปได้ กลับไปแล้วจะต้องจัดการเขาให้เข็ด

ในขณะเดียวกัน เฟิงอิ่งที่กำลังซื้อของว่างให้ชิวเหนียงอยู่บนถนน ก็รู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง ลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างผุดขึ้นในใจ

แม้จะกล่าวมายืดยาว แต่ทั้งซูจิ่งและซูอี้กลับได้ยินเพียงประโยคเดียว นั่นคือประโยคที่ว่าท่านป๋อน้อยพร่ำพรรณนารักต่อซูหว่าน

ซูจิ่งขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง ส่วนซูอี้ก็แค่นเสียงเย็นชา เขาจับไหล่ของซูหว่านให้นางหันมาเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ แล้วพินิจพิจารณานางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“เจ้าหมอนั่น มันมิได้ล่วงเกินเจ้าใช่หรือไม่?”

ซูหว่านส่ายศีรษะเป็นพัลวัน

บนกระดานเต็มไปด้วยเม็ดหมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ สุดท้ายจึงจบลงที่เสมอกัน

หากมิใช่เพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เกรงว่าคนทั้งสองคงได้เปิดกระดานใหม่อีกสักตาเป็นแน่

ทว่าโอกาสเช่นนี้คงหาได้ยากยิ่งแล้ว เพราะอีกไม่นานซูจิ่งก็จะต้องเดินทางไกลไปยังเซวียนเหอเพื่อรับตำแหน่ง การพบกันครั้งหน้าจะเป็นเดือนปีใดก็มิอาจรู้ได้

ยามต้องจากลา ทุกคนต่างก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ แม่ซูก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความเศร้าโศกอีกครา

บุตรธิดาต่างก็มีภาระหน้าที่และภารกิจที่ต้องทำให้ลุล่วง ไม่อาจอยู่เคียงข้างนางได้ สิ่งเดียวที่นางทำได้ก็คือพยายามแสร้งทำเป็นไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ในยามที่ต้องส่งพวกเขาเดินทางไกล เพื่อให้พวกเขาจากไปได้อย่างสบายใจ

เด็กรับใช้ของซูจิ่งสองคนช่วยกันขนย้ายข้าวของของเขาขึ้นไปบนรถม้า กองกำลังทหารที่ราชสำนักจัดเตรียมไว้จะคอยคุ้มกันเขาจนกว่าจะเดินทางถึงเซวียนเหออย่างปลอดภัย

แม่ซูได้เตรียมเสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ในชีวิตประจำวันให้เขาอย่างเพียงพอ

ในตัวของเขาพกตั๋วเงินติดตัวไว้สี่พันตำลึง ในจำนวนนี้สามพันตำลึงจะถูกใช้เพื่อจัดซื้อและสำรองยาเอาไว้ ป้องกันยามฤดูน้ำหลากมาถึงแล้วอาจมีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ชาวบ้านเมืองเซวียนเหอกลับไร้เงินซื้อยา

ส่วนอีกหนึ่งพันตำลึงนั้นเขาเก็บไว้ใช้ส่วนตัว สำหรับของรางวัลที่ได้มาจากเมืองหลวงนั้น เขาได้มอบทิ้งไว้ให้ครอบครัวทั้งหมด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม