เพราะบุญคุณที่ช่วยชีวิต เจียงอวี้จึงแอบช่วยเหลือนางมากมาย ต่อมาก็ถูกความเฉลียวฉลาดและความเมตตาของนางดึงดูดใจ จนเกิดความรู้สึกชอบพอนาง
แต่ในตอนนั้นนางเอกกำลังมีความสัมพันธ์อันร้อนแรงกับพระเอก จึงไม่ได้ชอบเขา เขาก็ทำได้แค่ เฝ้ารอเงียบ ๆ จากนั้นก็ ถอนตัวออกจากเรื่องนี้ไปอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน และอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปจนแก่ตาย
เจียงอวี้เป็นคนที่มีเกียรติและสง่างาม มีคุณสมบัติทุกอย่างที่พระรองในนิยายควรจะมี เขาเป็นดั่งดอกไม้สูงศักดิ์บนยอดเขา ทั้งยังเป็นแสงจันทร์สีขาวนวล
นางยื่นมือไปดึงหน้ากากเขี้ยวออกจากใบหน้าของเขา เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดขาว แต่กลับงดงามจนน่าตกใจ
มุมปากมีคราบเลือด ดวงตาแดงก่ำบวมเป่ง ความงามที่ดูอ่อนแอ บอบบาง และบอบช้ำจากการต่อสู้แบบนี้ ทำให้ซูหว่านเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ
"พี่รองเจ้าคะ เราต้องช่วยเขา ต้องช่วยเขาให้ได้นะ!"
"จะช่วยอย่างไร เจ้ากำลังละเมอเพ้อฝันอะไรอยู่?"
ซูหว่านตั้งสติให้มั่นคง นางพยายามนึกย้อนกลับไปว่ากู้เย่ว์ช่วยเจียงอวี้ได้อย่างไรในนิยาย
กู้เย่ว์ไม่สนใจการขัดขวางของซูมู่ พาเขากลับไปที่บ้านตระกูลซู จากนั้นก็ให้ซูเฉินขี่ม้าของนายพรานเจียงไปยังหัวเมือง และช่วยชีวิตเจียงอวี้ไว้ได้ในนาทีสุดท้าย
"เราพาเขากลับบ้านไปก่อนเถอะพี่รอง เชื่อข้าเถอะนะ เขาไม่ใช่คนไม่ดี พี่รองเป็นหมอ หมอจะทนเห็นคนตายได้อย่างไรเจ้าคะ? ถึงแม้จะมีความหวังแค่หนึ่งในสิบ พี่รองก็ต้องลองดูมิใช่หรือ?
ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะพี่รอง ช่วยเขาหน่อยได้หรือไม่?"
ซูหว่านร้อนใจมาก คำพูดก็รีบร้อน สีหน้าเต็มไปด้วยความวิงวอน แต่สิ่งนี้ก็ได้ทำให้ซูมู่ลังเล
ใช่แล้ว เขาเป็นหมอ หมอจะทนเห็นคนตายโดยไม่ช่วยได้อย่างไร?
ถ้าทำเช่นนั้น เขาก็ไม่ใช่หมอที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว
เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่ทำหน้าบึ้งตึงแล้วเข้าไปประคองเจียงอวี้ เพราะบาดแผลถูกดึงรั้ง เจียงอวี้เจ็บจนสูดหายใจเฮือกหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะครางออกมาเบา ๆ
…
ในเวลาเดียวกัน บรรยากาศในบ้านตระกูลซูก็เต็มไปด้วยความสุข เพราะการกลับมาของกู้เย่ว์
ทันทีที่นางก้าวเข้ามา ก็พบว่านางแต่งกายอย่างหรูหราด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณ รองเท้าปักลายจากผ้าต่วน และเครื่องประดับผมกับกำไลที่เปล่งประกายจนผู้คนไม่กล้าสบตา
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่กู้เย่ว์ในอดีตไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการถึง ข้างกายนางยังมีคนรับใช้ คนขับรถม้า และสาวใช้สองคนคอยปรนนิบัติ ความยิ่งใหญ่ของนางนั้นช่างน่าประทับใจจริงๆ
พี่ชายทุกคนต่างก็ดีใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขากับนาง
พวกเขากับนางอยู่กันคนละระดับกันแล้ว
ซูอวิ๋นรู้สึกเศร้าอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังคงต้อนรับกู้เย่ว์อย่างกระตือรือร้น ถามไถ่ว่านางเป็นอย่างไรบ้างที่บ้านตระกูลกู้ กินดีอยู่ดีหรือไม่ นอนหลับสบายไหม
"เย่ว์เย่ว์ ในใจของพวกเรา เจ้าจะเป็นน้องสาวที่พวกเรารักตลอดไป!"
เขาเป็นพี่ชายที่คลั่งรักน้องสาวอย่างกู้เย่ว์มาก ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดความรู้สึกที่มีต่อนางได้เร็วขนาดนั้น
กู้เย่ว์เอาผ้าชั้นดีหลายผืนกลับมาให้พวกเขาตัดเย็บเสื้อผ้า ทั้งยังซื้อแท่นฝนหมึกและพู่กันขนหมาป่าชั้นดีให้ซูจิ่ง ซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยตำลึง
นอกจากนี้ยังซื้อขนมชื่อดังราคาแพงให้ซูอวิ๋นอีกมากมาย
ในสายตาของนาง ซูอวิ๋นสนใจแค่เรื่องกินเรื่องดื่มก็เท่านั้น
แล้วก็มีพวกสีที่ซื้อให้ซูอี้ใช้วาดรูปด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นของดีมีคุณภาพทั้งนั้น
นางคิดว่าตัวเองเอาอกเอาใจพวกเขาแล้ว แต่กลับไม่รู้เลยว่าตอนที่ให้ของเหล่านี้ไปนั้น มันได้สร้างความกดดันให้กับเหล่าพี่ชาย
เมื่อเห็นสีเหล่านั้น ซูอี้เพียงแค่ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนหน้านี้คิดว่าฐานะไม่ดี เลยไม่สนับสนุนเขา ตอนนี้นางได้ดีแล้ว กลับมาทำสิ่งเหล่านี้ให้ แล้วมันจะมีความหมายอันใด
เหมือนตีหัวแล้วลูบหลังอย่างนั้นหรือ? บอกให้พี่ชายเหล่านี้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขากับนางใช่หรือไม่?
ความคิดของซูอี้ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ เขามีความคิดที่ลึกซึ้ง และคิดมากด้วย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...