เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 359

จะว่าไปแล้ว การที่ได้มาอยู่ในโลกนี้จริงๆ ได้สัมผัสด้วยตนเองถึงจะรู้ว่า สิ่งที่เห็นด้วยกับตาและรับรู้ด้วยตนเองนั้นถึงเป็นตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคน

“ได้ ต่อไปไม่พาเจ้าไปแล้ว ข้าเองก็จะพยายามไปให้น้อยลงเหมือนกัน”

ตอนที่ซูหว่านกำลังเหม่อลอย เจียงอวี้ก็ได้ตอบนางแล้ว

ตอนนี้ตำแหน่งซื่อจื่อของเจียงอวี้เป็นแค่ชื่อ ตอนนี้เขายังไม่ได้คุมอำนาจของจวนกั๋วกง

ซูหว่านพิงอยู่ที่ไหล่ของเขา ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากลมหายใจของเขา

เขาหลับตาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนจะไม่ค่อยสบาย ซูหว่านคาดเดาว่าเขาคงจะปวดหัวเพราะฤทธิ์เหล้า

มือของซูหว่านถูกเขากุมไว้นานก็เริ่มอุ่นขึ้นแล้ว นางดึงมือออกแล้วเลิกพิงไหล่ จากนั้นก็นั่งตัวตรง

มือเล็กที่นิ่มนวลกดไปที่ขมับของเขาแล้วนวดเบาๆ ช่วยคลายความปวดหัวของเจียงอวี้

เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าตั้งใจของซูหว่าน ปากของนางสีแดงดูน่าหลงใหล

“บอกแล้วว่าให้ดื่มน้อยๆ หน่อย เหล้านั่นดูก็รู้ว่าเป็นเหล้าแก่ ฤทธิ์มันแรงอยู่แล้ว”

นี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านเห็นเขาในสภาพเมาเล็กน้อย แม้แต่ลมหายใจที่พ่นออกมานั้นยังร้อนแผ่ว

อยู่ๆ เขาก็เอามือไปโอบที่เอวนางแล้วลากนางมากอด

ซูหว่านเซเข้าไปในอ้อมกอดของเขา เจียงอวี้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับใบหน้านางไว้ นิ้วหัวแม่มือลูบผิวแก้มนางเบาๆ

เจียงอวี้มองนางแล้วถึงกับกลืนน้ำลาย อดไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้นาง ลมหายใจที่ร้อนแผ่วนั้นเป่ารดไปที่ใบหน้าของนาง มีกลิ่นของเหล้าเบาๆ ทำให้ซูหว่านถึงกับขนลุกและตัวสั่น

นางหลับตาลง คิดว่าเขาจะจูบนาง

เขาเองก็จูบจริงๆ เพียงแต่จูบแค่มุมปากอย่างเบาๆ เพียงไม่กี่วิเท่านั้น

เจียงอวี้ไม่กล้าจูบที่ริมฝีปากของนาง กลัวว่าหากจูบจริงๆ แล้วจะไม่สามารถหยุดได้ อยากจะกลืนกินนางไปทั้งคน

ริมฝีปากของเขาแยกห่างจากมุมปากของนาง จากนั้นเขาก็ให้นางพิงที่อก ให้นางฟังดูเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

“เก็บไว้ก่อน ไว้ค่อยเอาคืนทีเดียว” เจียงอวี้เอาคางเกยไว้ที่หน้าผากนางแล้วกระซิบเบาๆ

พระเจ้า นี่เขาพูดบ้าอะไรออกมาเนี่ย

ซูหว่านเขินหน้าแดงและใจเต้นแรง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปาก

ตอนนี้นางยังอายุน้อย หากเจียงอวี้ยังจะกอดจูบนางอย่างไม่สนใจอะไร มันจะดูชั่วช้าเกินไป ดังนั้น การอดทนของเขานั้นก็แสดงออกถึงความรักและความเคารพต่อนาง

ซูหว่านเผลอหลับไปในอ้อมกอดของเขาโดยไม่รู้ตัว ตอนที่รถม้ามาถึงโรงเตี๊ยม สารถีก็เคาะประตูอยู่ด้านนอก นางจึงตื่นขึ้นมาทันที

พวกเขาเดินดูในบริเวณที่วางพิณ ทดลองเสียงไปเรื่อยๆ ดูรายละเอียดงานและวัสดุไม้ที่ใช้ รวมถึงสายพิณด้วย แต่ก็ไม่มีที่ถูกใจเลย

สุดท้ายแล้วเขาบอกกับเจ้าของร้านว่า

“เอาพิณที่ดีที่สุดในร้านเจ้าออกมาให้ข้าหน่อย”

เจ้าของร้านดูออกว่าเขาเป็นคนรู้ที่ชำนาญและรู้จริง และก็รู้ว่าเขามีเงิน จึงไปหยิบมาอย่างสุขใจ

เขายกออกมาให้เขาได้เลือกทีละตัว

“นี่เป็นของสะสมของทางร้านเลยนะขอรับ ท่านชมดูได้เลย ต้องมีที่ถูกใจแน่ๆ”

พิณพวกนี้ดีกว่าที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้หรือลวดลาย รวมถึงวัสดุไม้และสายที่ใช้ก็ล้วนเป็นของชั้นเลิศ แถมเสียงยังละเอียดไพเราะน่าฟัง

สุดท้ายเจียงอวี้ก็เลือกหนึ่งตัวแล้วให้ซูหว่านดู

“อันนี้ได้ไหม ชอบหรือไม่”

ซูหว่านเองก็ไม่รู้เรื่องพิณ ยังไงของที่เขาเลือกก็ดีที่สุดอยู่แล้ว แถมลายดอกของปลายพิณทั้งสองด้านยังงามประณีตอย่างมาก ดอกเหมยนั้นดูสมจริงมีชีวิตชีวา

“ท่านอาจารย์ถูกใจก็พอแล้ว ศิษย์ได้หมดเลยเจ้าคะ” ซูหว่านแกล้งหยอกล้ออย่างดีใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม