เพียงแต่ ผู้ที่ช่วยชีวิตเขาเปลี่ยนจากกู้เย่ว์มาเป็นนาง
การช่วยชีวิตเจียงอวี้ในครั้งนี้ เขาจะติดค้างบุญคุณนางไปตลอด การกระทำในอนาคตของนางก็จะมีไพ่ตายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบ ถ้าหากยังคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเป็นไปตามเนื้อเรื่องเดิมที่นางไม่ได้รับการยอมรับจากทุกคน นี่อาจจะเป็นไพ่ที่ช่วยชีวิตของนางไว้ได้
เมื่อก่อนกู้เย่ว์ป่วยหนัก ซูมู่เพิ่งจะเริ่มเรียนแพทย์ได้ไม่นาน จึงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ปัจจุบันที่บ้านมีสมุนไพรพื้นฐานที่จำเป็นเก็บไว้เสมอ เพราะคนในบ้านเยอะ ใครจะกินธัญพืชห้าชนิดแล้วไม่ป่วยบ้าง (สำนวนจีน หมายถึง มนุษย์ย่อมเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา) และก็เพื่อ เตรียมพร้อมยามจำเป็นด้วย
สมุนไพรห้ามเลือดมีมากมายและหาได้ทั่วไป ซูมู่จัดการทำความสะอาดบาดแผลให้เจียงอวี้เอง แล้วนำผงสมุนไพรห้ามเลือดที่บดจากสมุนไพรแห้งมาโรยบนบาดแผลเพื่อห้ามเลือด
จากนั้นก็ให้ซูอวิ๋นไปต้มยาจีนมาหนึ่งชุด อีกสักครู่จะให้เขากิน
อีกทั้งวันนี้อากาศร้อน หากบาดแผลไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ก็จะติดเชื้อได้ง่าย
บนตัวเขา มีบาดแผลจากดาบเล็กใหญ่รวมสิบสามแห่ง ทั้งลึกและตื้น กระจายอยู่ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่หลังซึ่งบาดเจ็บสาหัสที่สุด
และที่ร้ายแรงที่สุดคือเขาโดนพิษ บาดแผลภายนอกสามารถหายได้ แต่ถ้าพิษไม่ถูกถอนออก เกรงว่าสภาพตอนตายจะดูน่ากลัวมาก
ในช่วงเวลานี้ คนอื่น ๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ซูจิ่ง ซูอี้ และซูหว่านต่างก็รออยู่ด้านนอกด้วยกัน
ซูจิ่งจึงมีเวลาถามซูหว่านถึงสาเหตุ
"หวานหว่าน พวกเจ้าไปช่วยคนผู้นี้มาจากที่ใด? บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ แถมยังโดนพิษร้ายแรง ดูจากการแต่งกายและรูปร่างหน้าตาแล้ว คนผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่ ๆ พวกเจ้าพาคนกลับมาโดยพลการ รู้หรือไม่ว่าเขามีศัตรูหรือเปล่า?
หากพวกเขาตามมาแก้แค้น พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?"
"พวกเราเจอเขาที่ศาลเจ้าที่ตรงปากทางเข้าหมู่บ้านเจ้าค่ะ ตอนกลับมาก็จงใจเดินกลับทางหลังเขา ไม่มีใครเห็นพวกเราพาเขากลับมา ตอนนี้จึงยังไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ!" ซูหว่านตอบตามจริง
"แต่ว่า ฐานะทางบ้านของพวกเราก็ลำบากอยู่แล้ว การพาคนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้กลับมาโดยพลการ แม้จะบอกว่าช่วยชีวิตคน ดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น แต่แบบนี้ก็เป็นภาระเหมือนกันนะ!"
ที่บ้านก็ลำบากมากอยู่แล้ว แถมยังติดหนี้ก้อนโต ตอนนี้ยังมีคนบาดเจ็บเพิ่มมาอีก ทั้งค่ากิน ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล นั่นล้วนเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น!
"วางใจได้เลยเจ้าค่ะพี่ใหญ่ พวกเราไม่ได้ช่วยเขาโดยไม่ได้อะไรเลย เพราะเขาจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เราทีหลัง เขายังเอาป้ายหยกมาจำนำกับเราอีกด้วยนะเจ้าคะ พี่ดูสิ หยกนี้เนื้อดีมาก มีค่าเป็นพันตำลึง พวกเราไม่ขาดทุนหรอกเจ้าค่ะ!"
ซูหว่านนำป้ายหยกที่เจียงอวี้ให้นางออกมาให้ซูจิ่งดู
ซูจิ่งมองนาง แล้วส่ายหน้าอย่างจนใจ
"ของมีค่าขนาดนี้ เจ้าจะรับมาง่าย ๆ ไม่ได้นะ เฮ้อ ช่างเถอะ คนก็พามาแล้ว ข้าจะไล่คนใกล้ตายไปได้อย่างไรกันเล่า?
ซูมู่พบว่าดวงตาของเจียงอวี้ได้รับบาดเจ็บจากปูนขาว จึงใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดให้เขา จากนั้นก็ต้มน้ำยาสมุนไพรที่อ่อนโยน แล้วใช้ล้างตาให้เขาอีกครั้ง พอใส่ยาเสร็จก็ปิดตาเขาด้วยผ้าสีดำ
ดวงตาของเขายังไม่สามารถโดนแสงได้ในตอนนี้ จึงต้องปิดเอาไว้
บาดแผลภายนอกได้รับการดูแลเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เขาเสียเลือดไปมาก ตอนนี้ร่างกายจึงอ่อนแอมาก เหลือเพียงลมหายใจที่รวยรินเท่านั้น
ส่วนซูเฉินนั้นมีม้าชั้นดี ม้าตัวนี้วิ่งได้เร็วกว่าม้าธรรมดาทั่วไปมาก การเดินทางไปกลับภายในห้าชั่วยามครึ่ง หากไม่เสียเวลาแม้แต่เค่อเดียว การไปเอายาแล้วรีบกลับมาก็ไม่น่าจะยาก
ซูหว่านร้อนรนใจมาก แต่ก็ทำได้แค่ร้อนใจเท่านั้น เลยหาอะไรทำแก้เบื่อ นางเริ่มต้มไขมันหมูและบดดอกไม้แห้งเพื่อใช้ผสมสี
พอรักษาบาดแผลเรียบร้อยไม่ถึงสองชั่วยาม เจียงอวี้ก็เริ่มมีไข้ ตัวร้อนไม่ลดเลย หน้าผากร้อนจนทอดไข่ได้แล้ว
ซูมู่ก็เริ่มต้มยาแก้ไข้ บรรยากาศทั่วลานบ้านตระกูลซูอบอวลไปด้วยกลิ่นเนื้อหอมกรุ่นผสมกับกลิ่นยา
แม้จะห่วงใยความปลอดภัยของเจียงอวี้ แต่ซูหว่านก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก อีกทั้งยังละเลยงานสำคัญไม่ได้ นางยังต้องส่งสบู่อีกร้อยแปดสิบก้อนให้ร้านขายของชำด้วย
ซูจิ่ง ซูอวิ๋น และซูอี้ก็ช่วยนางทำ ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นนางทำมาแล้วสองครั้ง ก็พอจะเข้าใจขั้นตอนหมดแล้ว ซูอี้ไปเผาขี้เถ้าไม้ให้พอเพียง ส่วนซูอวิ๋นต้องไปสั่งทำแม่พิมพ์เพิ่มอีกสองสามชุดที่ร้านช่างไม้ เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น และสามารถส่งมอบสินค้าได้เร็วที่สุด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...