เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 371

หลังจากนั้น เหล่าท่านหมอก็ช่วยเช็ดคราบโลหิตบนร่างกายของเขาจนหมดจด ก่อนจะโรยผงยาและพันแผลให้เรียบร้อย หากมิใช่เพราะต้องสวมใส่เสื้อผ้า เกรงว่าสองหนุ่มสาวคงไม่ยอมปล่อยมือที่กุมกันไว้อย่างแน่นอน

เมื่อเจียงอวี้สวมชุดชั้นในสีขาวเรียบร้อยแล้ว เฟิงอิ่งก็นำเสื้อคลุมตัวนอกมาสวมให้เขา ก่อนจะพาท่านหมอถอยออกจากห้องไปด้วยกัน

หลังจากจัดการธุระของตนเองเสร็จ เขาก็ยกชามยาที่วางไว้บนโต๊ะจนอุ่นแล้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด

ซูหว่านจึงค่อยหาที่นั่งลงข้างกายเขา

เขานั่งอยู่บนตั่งกุ้ยเฟย มิใช่บนเตียงนอน ดังนั้นการนั่งอยู่ด้วยกันจึงมิใช่เรื่องเสียหายอันใด

“พวกเรายังต้องเดินทางอีกนานเท่าใดจึงจะถึงสำนักเฟิงเย่ว์หรือเจ้าคะ?” เมื่อเห็นบรรยากาศเงียบงัน ซูหว่านจึงเป็นฝ่ายเอ่ยชวนคุยขึ้นก่อน

“คาดว่าพรุ่งนี้เช้าก็น่าจะถึงแล้ว สำนักเฟิงเย่ว์อยู่บนภูเขาและยังตั้งอยู่บนน้ำด้วย เมื่อถึงแล้วยังต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีก” เจียงอวี้คาดคะเน เขาเคยเดินทางผ่านเส้นทางน้ำนี้มาแล้วหลายครั้ง

อยู่บนน้ำ ทั้งยังอยู่บนภูเขา ฟังดูช่างสูงส่งอลังการยิ่งนัก

ซูหว่านสังเกตเห็นแววตาที่อ่อนล้าของเขา ก็รู้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเขาต้องผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บัดนี้จึงต้องการการพักผ่อนให้ดี

นางลุกขึ้นไปหยิบหมอนและผ้าห่มจากบนเตียงมาหนุนหลังให้เขา

“ท่านพักผ่อนให้ดีเถิด นอนหลับสักงีบหนึ่ง เรื่องของท่านตา ถึงท่านจะร้อนใจไปก็มิอาจบินไปหาได้ในทันที สู้พักฟื้นร่างกายให้ดีก่อน หลังจากนี้ท่านยังต้องรับมือกับน้าชายที่ไม่ได้เรื่องของท่านอีก!”

เมื่อเอ่ยถึงน้าชายที่สมควรตายคนนั้น ซูหว่านก็พลันรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา ใบหน้าบึ้งตึง อยากจะต่อว่าเขาสักร้อย ๆ ประโยค

“ได้ ข้าจะฟังเจ้า!”

เจียงอวี้เอนกายลงอย่างว่าง่าย ซูหว่านเห็นเขาส่งเสียงเจ็บออกมาขณะขยับตัว จึงรีบเข้าไปประคอง

ช่างน่าแปลกนัก ก่อนหน้านี้ตอนที่บาดเจ็บสาหัสปานนั้นตอนกลับบมา นางยังไม่เคยได้ยินเขาร้องออกมาสักคำ

เขาทำได้เพียงนอนตะแคง เพราะด้านหลังและแขนยังมีบาดแผล ซูหว่านช่วยเขาห่มผ้า แล้วนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบงัน

เพียงมีนางอยู่ข้างกาย ในยามนี้จิตใจของเจียงอวี้ก็สงบ เขาลองหลับตาลงเพื่อข่มตานอน ภายในห้องอบอุ่น ซูหว่านรู้สึกเบื่อหน่ายจึงไปหยิบตำราเล่มหนึ่งมาอ่าน

เกี้ยวนั้นเป็นแบบเปิดโล่ง เจียงอวี้นั่งอยู่บนนั้น ร่างกายคลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ ใบหน้ายังคงซีดเซียวไร้สีเลือด ไอเป็นครั้งคราว ซึ่งทำให้บาดแผลและอวัยวะภายในปวดร้าวว

ยิ่งไปกว่านั้น หากไออย่างรุนแรง ในลำคอก็จะรับรู้ได้ถึงรสคาวหวานทะลักขึ้นมา แต่เขาก็ฝืนกลั้นไว้ ด้วยเพราะซูหว่านอยู่ข้างกาย จึงกลัวว่านางจะเป็นกังวล

เมื่อพูดถึงการปีนเขาแล้ว นั่นถือเป็นหายนะของซูหว่านโดยแท้ ไม่ว่าจะในยุคปัจจุบัน หรือยามนี้ที่เปลี่ยนมาอยู่ในร่างใหม่ นางก็ยังคงเกลียดการปีนเขา เพียงแต่บางครั้งก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้

ยิ่งขุนเขาเบื้องหน้านี้ ดูแล้วสูงชันกว่าที่เคยเห็นทั่วไปนัก ชั้นบันไดหินที่ทอดตัวลดเลี้ยวขึ้นไปตามแนวเขา ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด หิมะที่เคยปกคลุมคงถูกกวาดออกไปแต่เช้าแล้ว กองสุมอยู่สองข้างทาง

และก็เป็นไปตามที่นางคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด ใช้เวลาปีนป่ายถึงหนึ่งชั่วยามกว่าจะถึงยอดเขา นางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ทว่ามิได้เอ่ยคำว่าเหนื่อยเลยสักคำ

จะอย่างไร ร่างนี้ก็เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตลอด เมื่อขึ้นมาถึงจึงรู้สึกเพียงว่าขาทั้งสองอ่อนแรง ตอนที่ยังอยู่ที่หุบเขาซานหยางว ภูเขาที่นั่นยังไม่สูงเท่าที่นี่ ครั้งนั้นนางก็ปีนขึ้นไปได้เพียงครึ่งลูกเท่านั้น

อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ แต่นางกลับมีเหงื่อซึมออกมา

เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าซูหว่านทำได้เพียงบรรยายว่า ตระการตา ช่างตระการตาเสียจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม