ในเมื่อว่างอยู่แล้ว ก็อยู่เป็นเพื่อนแม่นางทั้งสองแก้เบื่อสักหน่อยแล้วกัน!
“ลองเลียนแบบนายน้อยของเจ้าดูสิ” ซูหว่านคิดถึงเจียงอวี้เป็นคนแรก
เลียนแบบนายน้อยน่ะหรือ นั่นง่ายนิดเดียว เขาคุ้นเคยกับนายน้อยที่สุดอยู่แล้ว
“เฟิงอิ่ง เรื่องที่ข้ามอบหมายให้เจ้าไปทำ เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” อาเหิงเริ่มทันที ไม่เพียงแต่เลียนเสียงของเจียงอวี้ได้สมจริง แต่ยังรวมไปถึงท่าทางและสีหน้ายามเอ่ยวาจา เขาก็สามารถเลียนแบบออกมาได้อย่างครบถ้วน
ช่างเหมือนกันราวกับแกะ น่าทึ่งยิ่งนัก
“ว้าว~ เก่งกาจจริง ๆ เช่นนั้นเจ้าลองเลียนแบบซูมู่ดูบ้างสิ เจ้าเคยพบเขาหรือไม่?” ซุนหลิงเอ๋อร์อยากให้เขาเลียนแบบซูมู่
“เคย แต่เคยได้ยินเขาพูดเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น หากข้าทำได้ไม่ดี แม่นางหลิงเอ๋อร์อย่าได้หัวเราะเยาะข้า”
ซูมู่เปรียบดั่งภูเขาน้ำแข็ง ปกติแล้วเป็นคนพูดน้อยนัก อาเหิงมิใช่ราชองครักษ์คนสนิทของเจียงอวี้ โดยทั่วไปจึงมักจะคอยเฝ้าอยู่ที่หอไจซิง
วรยุทธ์ของเขาไม่โดดเด่น มีเพียงความสามารถด้านการเลียนเสียงที่ยอดเยี่ยม บัดนี้สามารถช่วยงานนายน้อยได้ เขาดีใจยิ่งนัก
“ฝ้าลิ้นเหลืองเหนียวร้อนสะสมในตับและถุงน้ำดี ฝ้าลิ้นเหลืองแห้งร้อนสะสมในม้ามและกระเพาะอาหาร ต้องใช้ร่วมกับ...” อาเหิงเลียนแบบน้ำเสียงและสีหน้าของซูมู่ยามท่องตำราโอสถ ทว่าอาการเช่นนี้ต้องใช้สมุนไพรอันใดปรุงยา เขาก็ไม่ทราบแล้ว
“โธ่ แม่นางหลิงเอ๋อร์ ท่อนต่อไปข้าน้อยพูดไม่ออกแล้ว ข้าเลียนเหมือนหรือไม่?”
น้ำเสียงก็เหมือน สีหน้าก็คล้าย แต่แววตาอันเฉยเมยเย็นชาของซูมู่นั้น เขาไม่อาจเลียนแบบออกมาได้
ซูมู่เป็นคนประเภทที่ร้อนช้า ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา เขาก็ยังสามารถเก็บข้าวของของตนเองได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่รีบร้อนแม้แต่น้อย
“เหมือน ๆ อาเหิง เจ้าช่างเก่งกาจเสียจริง” ซุนหลิงเอ๋อร์ยกนิ้วโป้งให้เขา
ในที่สุดแม่นางทั้งสองก็หากิจกรรมทำแก้เบื่อได้แล้ว พวกนางรบเร้าให้อาเหิงเลียนเสียงผู้อื่นไม่หยุด
ครั้นถึงยามเย็น เมื่อเจียงอวี้มาถึงก็พบกับภาพตรงหน้า ซูหว่านของเขากำลังนั่งเท้าคาง มองอาเหิงเลียนเสียงผู้อื่นด้วยใบหน้าจริงจัง และยิ้มอย่างซื่อ ๆ
ซุนหลิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน นางตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ จนกระทั่งเขาเดินมาถึงตรงหน้าจึงเพิ่งจะรู้สึกตัว
อาเหิงเป็นคนแรกที่เห็นนายน้อย เขาตกใจจนสะดุ้งตัวลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งในทันที
“นะ... นายน้อย!”
ภาพลักษณ์ของเจียงอวี้ในสายตาของเขานั้นเคร่งขรึมยิ่งนัก เขาจึงทั้งเคารพเลื่อมใสและยำเกรงในเวลาเดียวกัน
ว่ากันว่าอาเหิงก็เป็นเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งเช่นกัน บัดนี้อายุเพียงสิบหกปี เจ้าสำนักเฒ่าได้เลี้ยงดูเด็กกำพร้าไร้ที่ไปเหล่านี้จนเติบใหญ่ และฝึกฝนให้พวกเขากลายเป็นคนสนิทของเจียงอวี้
แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้ได้ ก็เพราะเจียงอวี้ปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี จึงได้รับความภักดีอย่างเต็มใจจากพวกเขาเป็นการตอบแทน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...