“พวกเจ้าก็อย่าโทษนางเลย นางไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรเสีย ขอเพียงพิษของเจ้าสำนักเฒ่าถอนได้ก็พอแล้ว”
รายละเอียดปลีกย่อยเขาก็ไม่ยอมปริปากเล่า เรื่องราวเมื่อครั้งยังหนุ่มสาวล้วนผ่านมาหลายสิบปีแล้ว หมอเทวดาซุนปากแข็งใจอ่อน เห็นชัดว่าตนเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่กลับทำราวกับถูกบังคับขืนใจ
อันที่จริง หากเขาไม่ยินยอม เรื่องสำคัญในชีวิตเช่นนี้ จะมีใครบังคับเขาได้จริงหรือ?
“ท่านปู่ เพียงท่านชอบก็พอแล้ว อย่างไรเสียท่านก็อายุปูนนี้แล้ว การมีคนอยู่เคียงข้างก็ไม่เลว”
ซุนหลิงเอ๋อร์เป็นคนแรกที่แสดงท่าที นางจะไม่คัดค้าน ขอเพียงท่านปู่มีความสุขก็พอ คนเราเกิดมาทั้งที ชีวิตคนเราย่อมไม่อาจมีเรื่องค้างคาใจได้!
นางจำได้แม่นยำว่า ท่านปู่มีผ้าเช็ดหน้าที่เก็บรักษาไว้อย่างดีผืนหนึ่ง ผ่านไปหลายสิบปี เนื้อผ้าก็ใกล้จะเปื่อยยุ่ยแล้ว
ตอนเด็กนางเคยเห็นท่านปู่นำออกมามองบ่อยครั้ง ต่อมาเขายิ่งถนอมมันดุจสมบัติล้ำค่า แม้แต่จะสัมผัสก็ยังไม่กล้าทำ ทำได้เพียงหยิบกล่องขึ้นมาดูเท่านั้น
ตอนนั้นนางมีความซุกซน เพราะความอยากรู้ว่าท่านปู่มีความลับอะไรซ่อนไว้ จึงแอบไปเปิดกล่องใบนั้นดู ถึงได้พบว่าข้างในเป็นผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง ตรงมุมผ้าปักอักษรคำว่าอู๋ มาคิดดูตอนนี้ คงเป็นของของท่านย่าเย่เป็นแน่!
ท่านย่าเย่เข้าไปด้านในเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วยาม เมื่อนางออกมา ควันหนาทึบที่อบอวลอยู่เต็มห้องก็ทะลักออกมาจากช่องประตูในคราวเดียว
เหล่าศิษย์ของสำนักเฟิงเย่ว์ต่างนึกว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้น จึงพากันหิ้วถังน้ำวิ่งมาหมายจะดับไฟ
ในมือของท่านย่าเย่ประคองชามใบหนึ่งไว้ นางก้าวออกมาจากม่านหมอกควันนั้น เครื่องเงินบนร่างส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งยามขยับกาย
ภายในชามนั้นคือเลือดสีดำคล้ำที่นางรีดออกมาจากร่างของเจ้าสำนักเฒ่า เป็นสีดำสนิท เห็นได้ว่าพิษร้ายฝังลึกเพียงใด
“ข้าป้อนยาถอนพิษให้เขาแล้ว แต่ลำพังยาถอนพิษอย่างเดียวยังไม่พอ พิษนี้ตกค้างในร่างเขามาห้าปี ข้าทำได้เพียงใช้การรีดเลือดจากปลายนิ้ว ประกอบกับเครื่องหอมสูตรพิเศษของข้า เพื่อล่อพิษในเลือดออกมาทีละน้อย ตอนนี้พิษถูกถอนออกไปหมดแล้ว หลังจากนี้เพียงแค่ต้องพักฟื้นให้ดี กินของบำรุงเพื่อเสริมเลือด แต่จงจำไว้ว่าห้ามบำรุงเกินพอดี อย่างมากที่สุดเดือนกว่าก็จะสามารถลงจากเตียงเดินเหินได้แล้ว”
พิษถูกถอนไปก็ดีแล้ว เส้นประสาทในสมองของเจียงอวี้ก็คลายลง ในที่สุดท่านตาของเขาก็ปลอดภัยแล้ว
เขารีบเดินเข้าไปในห้องเป็นคนแรก ตรงไปยังข้างเตียงนอน ควันพิษสลายไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเจ้าสำนักเฒ่านอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าสงบอ่อนโยน มุมปากคล้ายมีรอยยิ้มจาง ๆ ประดับอยู่ หว่างคิ้วที่เคยขมวดแน่นด้วยความเจ็บปวดในยามหลับใหล บัดนี้คลายออกแล้ว เหลือเพียงความผ่อนคลายของผู้ที่เพิ่งรอดพ้นจากหายนะ
เมื่อพิษถูกถอนออกไป รอยคล้ำใต้ตาก็หายไป ร่างกายก็ผ่อนคลาย ในที่สุดก็สามารถหลับใหลได้อย่างเป็นสุขเสียที
นิ้วมือและนิ้วเท้าทั้งสิบของท่านตาถูกพันผ้าเอาไว้ ดูท่าว่าคงเป็นท่านย่าเย่ที่ลงแรงรีดพิษออกมาทีละน้อยด้วยตัวคนเดียวจริง ๆ
พอหมอเทวดาซุนและคนอื่น ๆ เข้ามา ก็ตรงไปจับชีพจรให้เจ้าสำนักเฒ่าก่อนเป็นอันดับแรก ชีพจรกลับมาสงบราบรื่น เพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก ทว่าพิษร้ายได้ถูกขจัดออกไปจนหมดสิ้นแล้ว


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...