เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 403

ในศาลามีเตาผิงสองเตา ทั้งยังมีน้ำนมร้อนให้ดื่ม ทุกคนต่างสวมเสื้อคลุมจึงไม่รู้สึกหนาวเย็น

เจียงอวี้เห็นเศษหิมะโปรยปรายอยู่บนเสื้อคลุมขนจิ้งจอกและเส้นผมของซูหว่าน ไม่เว้นแม้กระทั่งบนขนตาของนาง

เขายื่นมือออกไปหวังจะช่วยปัดให้ ทว่าช้าไปก้าวหนึ่ง ซูมู่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

ซูมู่ใช้มือปัดเศษหิมะบนตัวของซูหว่านออกอย่างอ่อนโยน

มือของเจียงอวี้ที่ยื่นออกไปแข็งค้างอยู่กลางอากาศอย่างเก้อเขิน เจียงอวิ๋นเฮ่อที่มองอยู่ด้านหลังถึงกับหัวเราะออกมาอย่างไม่รักษาน้ำใจ

เมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชายแท้ ๆ ของนาง ต่อให้มีใจก็ไร้ทางแสดงออก เพราะมิได้มีสถานะใด ๆ ต่อกัน

“หนาวหรือไม่?” ซูมู่เอ่ยถามน้องสาว

เขาสวมชุดคลุมสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าหล่อเหลาหมดจดแฝงไอเย็นชา ในคืนหิมะโปรยปรายเช่นนี้ ช่างเหมือนเทพแห่งจันทราจุติลงมา

“ไม่หนาวเจ้าค่ะ พี่รอง ข้าสวมเสื้อผ้าหนายิ่งนัก” ซูหว่านรู้สึกว่าตนเองถูกห่อจนกลมราวกับก้อนข้าวปั้นแล้ว จะหนาวได้อย่างไรกัน?

อีกฟากหนึ่ง ซุนหลิงเอ๋อร์กำลังปัดเศษหิมะออกจากเสื้อผ้าของตนเอง นางชำเลืองมองภาพความสัมพันธ์อันดีงามของสองพี่น้องซูหว่านแล้วรู้สึกอิจฉาในใจขึ้นมา

มิใช่เพราะอิจฉาซูหว่าน แต่เพียงรู้สึกว่าบางครั้งคนเราทื่อเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี

นานเพียงนี้แล้ว เขาไม่เคยเห็นสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากวิชาการแพทย์เลยหรือ?

ไม่สิ เขาให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เพียงแต่ไม่สนใจเรื่องรักใคร่เท่านั้น

แต่ไม่เป็นไร ซุนหลิงเอ๋อร์เป็นฝ่ายรุก นางไม่โง่งมยืนรอให้เขาตื่นรู้ได้เองหรอก หากเป็นเช่นนั้นจริง ปู่ของนางกับท่านย่าเย่ก็คือตัวอย่างที่ดีที่สุด เรื่องดีนั้นมักเต็มไปด้วยอุปสรรค

ทุกคนนั่งพูดคุยสัพเพเหระอยู่ในศาลาอย่างออกรส รอคอยให้ยามจื่อมาถึง เพื่อจะได้จุดดอกไม้ไฟให้สว่างไสวเต็มท้องฟ้า

ซูมู่ดูเหมือนจะจงใจ เขาคอยแทรกตัวอยู่ระหว่างซูหว่านกับเจียงอวี้ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเขานึกสนุกอันใดขึ้นมา จึงไม่อยากให้คนทั้งสองได้นั่งใกล้กัน

ซุนหลิงเอ๋อร์เข้าใจความรู้สึกนี้ดี นางจึงค่อย ๆ ขยับไปข้างกายเจียงอวี้แล้วกระซิบว่า

“ให้ข้าช่วยท่านหรือไม่?”

ทีแรกเจียงอวี้ยังไม่เข้าใจความหมายของนาง แต่เมื่อเห็นสายตาของนางเหลือบไปทางซูหว่าน เขาก็เข้าใจในทันที

มุมปากของเจียงอวี้ปรากฏรอยยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ เขาเอ่ยตอบด้วยเสียงแผ่วเบาเช่นกัน

“ขอบใจมาก!”

แม้จะมีพี่รองซูมู่คั่นกลาง แต่ซูหว่านก็ยังคงสัมผัสได้ถึงสายตาของเจียงอวี้ ช่วงนี้มัวแต่วุ่นวายกับเรื่องของเจ้าสำนักเฒ่า ทำให้คนทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังมานานแล้ว

และในชั่วขณะนี้เอง บรรยากาศของเทศกาลปีใหม่ก็อบอวลขึ้นมาทันที

“ว้าว งดงามเหลือเกิน!” ซุนหลิงเอ๋อร์ควงแขนซูหว่านพลางเอ่ยชม นางแหงนหน้ามองท้องฟ้า

ซูมู่เองก็ตั้งใจมองเป็นอย่างยิ่ง เขาเอาแต่แหงนหน้าชมดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า ส่วนซุนหลิงเอ๋อร์นั้นหลังจากชมดอกไม้ไฟได้ครู่หนึ่ง สายตาของนางกลับจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของซูมู่แทน

ฝ่ายซูหว่านพอหันกลับมา ก็พบว่าเจียงอวี้มิได้ให้ความสนใจท้องฟ้าเลย สายตาของเขากลับจับจ้องอยู่ที่นาง เขาเพียงแค่มองนางอย่างเงียบงัน แววตาอ่อนโยนจนแทบจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำได้

ซูหว่านจึงเป็นฝ่ายยื่นมือไปใต้แขนเสื้อเพื่อกุมมือเขาไว้ เขาก็จับมือนางไว้ในอุ้งมือของตนแล้วกอบกุมไว้อย่างแนบแน่น

ดอกไม้ไฟถูกจุดอยู่นานร่วมครึ่งชั่วยามจึงสิ้นสุดลง หิมะยังคงโปรยปรายไม่ขาดสาย ยามนี้หากย่ำเท้าลงไป หิมะก็สูงถึงข้อเท้าแล้ว

เมื่อชมดอกไม้ไฟจบแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ พวกเขาทั้งสี่จึงเตรียมตัวกลับไปพักผ่อน

ซุนหลิงเอ๋อร์เห็นเป็นโอกาสเหมาะจึงเริ่มแสดงละคร นางแสร้งทำเป็นหกล้มจนข้อเท้าเคล็ด

“โอ๊ย เจ็บเท้าเหลือเกิน!”

ทั้งสามคนหันกลับไปก็พบว่านางล้มลงบนพื้นหิมะ มือข้างหนึ่งกุมข้อเท้าของตนไว้ พลางมองไปยังซูมู่ด้วยสายตาน่าสงสาร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม