เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 410

ด้วยเหตุนี้คนทั้งสองจึงมักถูกลงโทษอยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงแม้จะถูกทำโทษ พวกเขาก็ยังคงหัวเราะอย่างมีความสุข และครั้งหน้าก็ยังกล้าที่จะทำอีก

ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกัน? ดูเหมือนจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่ศิษย์น้องหญิงมีบุรุษที่นางพึงใจกระมัง หลังจากที่นางแต่งออกไปแล้ว ดูเหมือนทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป

อวี๋อู๋ชางถูกทำลายวรยุทธ์และกำลังภายใน เจ้าสำนักเฒ่าให้หมอเทวดาซุนช่วยรักษาชีวิตเขาไว้ ว่ากันว่าสองวันนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว สามารถลุกจากเตียงมาเดินได้แล้ว

ในเวลาเพียงครึ่งเดือนที่ไม่เจอกัน ชายร่างกำยำที่เคยสง่าผ่าเผยกลับซูบผอมลงอย่างรวดเร็ว มองเห็นแผ่นหลังที่โก่งงอของเขาดูเหมือนจะแก่ชราไปกว่าสิบปีในชั่วพริบตา อีกทั้งเรือนผมก็มีหงอกขาวขึ้นเต็มไปหมด

เจียงอวิ๋นเฮ่อก้าวเข้าไปในห้อง ด้านในนั้นอบอุ่นยิ่งนัก เครื่องนุ่งห่มอาหารการกินของเขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง เจ้าสำนักเฒ่าต้องการให้เขามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานเพื่อเป็นการลงโทษ

“ข้าบอกแล้วมิใช่รึ ว่าข้าไม่อยากกินอะไร เหตุใดยังมาแล้วมาเล่าให้ลำบากด้วย?” อวี๋อู๋ชางผู้นี้ แม้แต่เรี่ยวแรงจะเอ่ยคำพูดยังแทบไม่มี แต่ก็ยังคงวางท่าเกรี้ยวกราดเช่นเคย

“ข้านำเหล้านารีแดงที่หมักไว้นานสิบปีมาด้วย อยากจะลองชิมดูหรือไม่?” เจียงอวิ๋นเฮ่อถือไหสุราแล้วทรุดกายนั่งลงตรงข้ามเขา อวี๋อู๋ชางชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเขาจะมา

“ท่านมาได้อย่างไร?”

เขาเบือนสายตาอันตื่นตะลึงออกไป เขาคิดมาโดยตลอดว่าพวกเขากักขังเขาไว้ที่นี่ดุจคนไร้ค่า ส่วนพวกตนกลับไปเสพสุขสำราญอยู่ภายนอก โยนเศษสวะเช่นเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง ไม่ไยดีมานานแล้ว

คณะของซูหว่านลงเรือเดินทางมาตามลำน้ำจนถึงนอกเมืองจงโจว เมื่อถึงท่าเรือก็มีรถม้ามารอรับอยู่แล้ว พอลงจากเรือแล้วขึ้นรถม้าเดินทางต่ออีกราวครึ่งชั่วยามก็ถึงประตูเมืองจงโจว

พวกเขาเดินทางเข้าเมืองในช่วงพลบค่ำ และพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมที่สำนักเฟิงเย่ว์ได้มาเปิดกิจการในจงโจว โรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็มีชื่อเรียกที่ไพเราะว่าหอปี้คง

มีรูปแบบกิจการเช่นเดียวกับโรงเตี๊ยมเย่ว์หม่านซี เป็นแหล่งรวมความสำราญชั้นสูงอันหรูหราโอ่อ่าไม่ต่างกัน

ยามค่ำคืนในเมืองจงโจวมีกฎห้ามสัญจรยามวิกาล แต่ก็จะเริ่มบังคับใช้เมื่อล่วงเข้ายามจื่อไปแล้ว ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น เมืองจงโจวจึงคึกคักและรุ่งเรืองอย่างถึงที่สุด ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเมืองหลวงน้อย มิใช่เมืองอย่างเซียงโจวจะเทียบเทียมได้ เรียกได้ว่าความมั่งคั่งช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก

อาคารบ้านเรือนโออ่าสง่างาม ทุกหนทุกแห่งแสดงถึงความประณีตและความมั่งคั่ง ผู้คนเดินไปมาตามท้องถนนแทบจะไม่มีใครที่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเลย ส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อผ้าแพรพรรณอย่างดี กล่าวได้ว่าคนที่นี่มีความแตกต่างทางฐานะไม่มากนัก และใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย ไม่มีคนยากจนให้เห็นเลย

เมื่อมาถึงจงโจวแล้วและเวลายังมีเหลือเฟือ พวกนางจึงถือโอกาสเดินเล่นเที่ยวชมเมือง หาของกินอร่อยและของเล่นสนุกไปก่อน

เจียงอวี้ได้จัดเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว ทั้งสามคนทานกันพออิ่มท้องจึงมุ่งหน้าไปยังสำนักงานซื้อขายบ้าน เพื่อเริ่มต้นการสำรวจพื้นที่ตลอดทั้งวัน

ขั้นแรกต้องเลือกที่ตั้งของโรงงานเสียก่อน โรงงานนั้นต้องมีขนาดใหญ่โตพอสมควร เพราะเมื่อถึงเวลาที่จงโจวต้องกระจายสินค้าไปทั่วทุกภูมิภาคตอนกลาง

เมื่อนายหน้าในสำนักงานซื้อขายบ้านได้ฟังความต้องการของซูหว่านแล้ว จึงเอ่ยกับนางโดยตรงว่า

“ท่านผู้สูงศักดิ์ ตามความต้องการของท่าน ในเมืองจงโจวแห่งนี้อาจไม่มีที่ใดตรงตามเงื่อนไขของท่าน แต่ข้าน้อยขอแนะนำเรือนในชานเมืองที่อยู่ห่างออกไปสิบลี้ ที่นั่นยังมีคฤหาสน์ว่างอยู่อีกหลายแห่ง เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นโรงงาน เหล่าพ่อค้าวาณิชผู้มั่งคั่งในเมืองต่างก็ไปตั้งโรงเรือนกันที่นั่น มีทั้งโรงงานทำเครื่องปั้นดินเผาโดยเฉพาะ โรงย้อมผ้า หรือแม้กระทั่งบ้านที่เลี้ยงไหม ข้างคฤหาสน์ยังมีสวนดอกไม้กว้างใหญ่นับร้อยหมู่ ซึ่งมีดอกไม้เบ่งบานตลอดทั้งสี่ฤดู สะดวกสบายยิ่งนัก”

เนื่องจากยามที่ซูหว่านแจ้งความต้องการของนางนั้น นางได้เอ่ยถามถึงสวนดอกไม้ขนาดใหญ่นอกเมืองจงโจวไปด้วย นับว่าประจวบเหมาะยิ่งนัก พนักงานของสำนักงานซื้อขายบ้านจึงนึกถึงสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาได้ในทันที

“คฤหาสน์ที่เจ้าว่านั้นใหญ่โตเพียงใดรึ?” ซูหว่านฟังคำบรรยายแล้วก็ยังนึกภาพไม่ออก

พนักงานสำนักงานซื้อขายบ้านจึงหยิบแผนผังของคฤหาสน์หลายแผ่นออกมาให้นางดู ทั้งหมดนี้คือคฤหาสน์ที่ว่างอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีโครงสร้างแตกต่างกันไป เพียงพิจารณาจากแผนผังแล้วก็นับว่าไม่เลวทีเดียว สามารถรองรับคนได้ราวห้าสิบถึงแปดสิบคน เพียงพอสำหรับให้เหล่าคนงานพักอาศัย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม