เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 417

นี่เเหล่ะที่เรียกว่าปากไม่ตรงกับใจ ทั้งๆที่สงสารเเท้ๆเเต่ก็ยังปากเเข็ง ซูหว่านเลยตามน้ำไปก่อน!

“ใช่ใช่ใช่ พี่สี่ดีที่สุด พี่สี่ฉลาดหลักเเหลม หล่อเหลาเเละสง่างาม จะมาจุกจิกกับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างข้าได้อย่างไร

ข้าอุตส่าห์ตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาเปิดโรงเตี๊ยมกับพี่สี่ ที่พี่สี่เคยบอกว่าจะเเบ่งกำไรให้ข้าห้าส่วน ยังนับอยู่ไหมเจ้าคะ”

ซูหว่านสรรเสริญเยินยอเเบบไม่หยุดหย่อนโดยที่หน้าไม่เเดงเลย ทำให้ซูอวิ๋นสบายใจเป็นอย่างมาก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“คำพูดที่ข้าพูดออกไปเเล้ว จะไม่นับได้ยังไง เจ้านึกว่าข้าเป็นเจ้าหรือ บอกว่าจะกลับมาก่อนสิ้นปีให้ได้ สุดท้ายก็ไม่กลับมาอยู่ดี”

พอพูดถึงเรื่องนี้ ซูอวิ๋นก็หงุดหงิดขึ้นมา เขาก็อุตส่าห์เตรียมของขวัญปีใหม่ไว้ให้นาง เเต่นางกลับไม่กลับมาสะงั้น เลยไม่มีโอกาสได้ให้

เขาพูดประชดประชันพร้อมกับเหน็บเเนมนางสองสามครั้ง ทำให้นางรู้สึกละอายใจ

ดังนั้นซูหว่านจึงเริ่มใช้ลูกเล่นของนางอีกครั้งด้วยการเข้าไปจับเเขนเสื้อของซูอวิ๋นอีกครั้งเเล้วเขย่าเบาๆ

“โอ้โห พี่สี่ เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ฟังทีหลังนะ! คือมันมีเหตุลจริงๆ เเละมีเรื่องที่ทำให้ข้าต้องทำแบบนั้น การกลับมาครั้งนี้ข้าตั้งใจซื้อของขวัญมาให้พวกท่าน เดี๋ยวพอเรากินข้าวเสร็จเเล้วจะเอามาให้

พี่สี่ ของขวัญที่ข้าซื้อมาให้ ท่านต้องชอบเเน่ๆ”

พอได้ยินว่ามีของขวัญ ซูอวิ๋นก็เริ่มหายโกรธไปเยอะเเล้ว แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้เก็ก เขาก็ยังอยากจะเล่นตัวอีกหน่อย เพื่อให้ซูหว่านเอาใจเขาเพิ่มขึ้นอีก

ก็ยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้างนะ

“ฮ่าฮ่า งั้นให้ข้าช่วยท่านเด็ดผักนะพี่สี่” ซูหว่านเห็นเขากำลังกลั้นยิ้มอยู่ที่มุมปาก ก็รู้ทันทีว่าพี่สี่เริ่มหายโกรธเเล้ว

พอดีมีตะกร้าผักอยู่ข้างๆ นางก็เลยหยิบมาเด็ดเอง ส่วนซูอี้ที่กำลังก่อไฟอยู่ เห็นฉากนี้เเล้วก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาอีก

รู้เเต่เเรกเขาทำเป็นงอนนานๆหน่อยดีกว่า เผื่อว่าหวานหว่านจะสนใจเขามากขึ้นอีกนิด

“พี่สี่ ท่านเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นตั้งเเต่เมื่อไร ไม่มีเหตุผลเลย” ซูอี้ทนดูไม่ไหวเเล้ว ก็เลยต้องเเขวะเขาไปสองสามประโยค

ซูอวิ๋นได้ยินซูอี้พูดจาเหน็บแนมตัวเอง เขาก็ไม่ใช่คนที่จะทนได้ง่ายๆ วางมีดทำครัวลงบนเขียงเสียงดัง เเล้วก็สวนกลับทันที

“ถ้าเจ้าไม่พอใจ เจ้าก็สามารถทำอย่างนี้ได้”

“ลูกผู้ชายตัวจริง จะไม่มีจุกจิกขี้บ่นแบบนี้หรอก!” ซูอี้กลอกตาขึ้นบน

ซูอวิ๋นไม่ได้คิดจะเกรงใจนางเลย เพราะหลังจากนี้นางต้องช่วยเขาจัดการเรื่องโรงเตี๊ยมหลายอย่าง ตอนที่นางไม่อยู่ ซูอวิ๋นตัดสินใจเรื่องหลายอย่างไม่ได้ เขาเเค่อยากให้ซูหว่านได้เห็นเเละมีส่วนร่วมด้วย มันถึงจะมีความหมาย

“รับรองว่าไม่ ข้าสาบาน!” ซูหว่านทำท่าชูนิ้วสี่นิ้วเเตะที่ขมับ ซูอวิ๋นเกือบจะเชื่อเเล้ว

เเต่พอถึงคิวซูอี้ บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมา

“หวานหว่าน หอภาพวาดของข้าไปได้สวยเลยนะ เมื่อปลายปีที่เเล้วข้าเจอบัณฑิตคนหนึ่ง เขายอมจ่ายเงินราคาสูงเพื่อซื้อภาพวาดของข้าไปหลายภาพเลย เเถมยังชวนข้าไปเเลกเปลี่ยนเทคนิคการวาดภาพอยู่บ่อยๆ เพราะเขามาอุดหนุนบ่อยๆ ร้านของข้าเลยมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเรื่อยๆในเมืองเซียงโจว ทุกวันมีคนมาให้วาดรูปเหมือนเต็มไปหมด บัณฑิตคนนั้นบอกว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จในการวาดภาพ ต้องคงความลึกลับไว้ ภาพวาดที่เผยเเพร่ออกไปนั้นยิ่งน้อยยิ่งดี ตอนนี้ภาพวาดของข้าเลยขายเเค่ปีละสองภาพเท่านั้น ส่วนช่วงเวลาที่เหลือก็รับวาดรูปเหมือนอย่างเดียว”

บัณฑิตคนนั้นพูดถูก ของดีๆพอมีเกลื่อนตลาดเเล้วก็จะไม่ค่อยมีค่า

ดังนั้น คำเเนะนำของเขาจึงเป็นเเนวทางที่ถูกต้องสำหรับเขา

“พี่ห้า บัณฑิตคนนั้นชื่ออะไรหรือ” ซูหว่านอยากรู้ว่านางเคยได้ยินชื่อนี้ในหนังสือหรือเปล่า

“เขาชื่อฉีอันจวีซื่อ เพิ่งกลับมาจากเมืองหลวงไม่นาน เซียงโจวเป็นบ้านเกิดของเขา”

ฉีอันจวีซื่อ ซูหว่านไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย เพราะในนิยายต้นฉบับ คนที่ค้นพบพรสวรรค์ของพี่ห้าเป็นนักกวี เขาเขียนบทกวีเกี่ยวกับงานเขียนและภาพวาดของพี่ห้า เเละยังช่วยประกาศให้คนอื่นรู้ด้วย ชื่อเสียงของพี่ห้าถึงได้โด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม