เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 43

เถ้าแก่เนี้ยก็ตอบตกลง นางเข้าใจความหมายของซูหว่าน ถ้านางอยากทำธุรกิจนี้ไปนานๆ ก็ย่อมต้องรักษาสัญญา

ซูหว่านรับสัญญามาแล้วส่งให้ซูเฉินทันที ฝากเขาช่วยเก็บรักษาไว้ให้ดี

“ไปกันเถอะเจ้าค่ะ พี่สาม พี่ห้า พวกเราไปหาเถ้าแก่จางกัน!”

ซูเฉินและซูอี้ยิ้มพลางพยักหน้า สามคนพี่น้องออกจากร้านขายของชำแล้วตรงไปยังที่พักของเถ้าแก่จาง

เขาเป็นคนปล่อยเงินกู้ อาศัยการกินดอกเบี้ยจนร่ำรวย ตอนนี้ในอำเภอชิงเหอเขาก็มีเรือนทั้งหมดสามหลังแล้ว

ที่หน้าประตูมีคนคุ้มกันยืนเฝ้าอยู่ ซูเฉินอธิบายถึงจุดประสงค์ที่มาอย่างชัดเจน หลังจากที่พวกเขาเข้าไปรายงานแล้ว พวกคนคุ้มกันก็ออกมาเชิญให้พวกเขาเข้าไป

“นายท่านของเราเชิญพวกท่านให้เข้าไปคุยกันข้างใน!” คนที่ออกมาคือลูกน้องคนสนิทของเถ้าแก่จางเมื่อครั้งที่แล้ว

ซูเฉินได้ยินดังนั้นก็หันไปพูดกับน้องชายและน้องสาวว่า

“พี่เข้าไปคนเดียว น้องห้า ดูแลหวานหว่านให้ดีๆ พานางไปรอที่ปากซอย!”

เพื่อความปลอดภัย ซูเฉินตัดสินใจเข้าไปคนเดียว

ซูอี้พยักหน้าตกลง ซูหว่านยื่นเงินสามสิบตำลึงที่เตรียมไว้ ให้ซูเฉิน แล้วตามพี่ห้าไปรอที่ปากซอย

เถ้าแก่จางไม่น่าจะเล่นตุกติกอะไร ในนิยายพี่น้องทั้งห้าคนก็ยังอยู่ดีจนจบ

แน่นอน หลังจากรอไปประมาณครึ่งชั่วยาม ซูเฉินก็ออกมา

เมื่อเห็นเงาของเขาปรากฏขึ้นที่ปลายซอยแต่ไกล ซูหว่านก็รีบดึงซูอี้ไปรับเขาอย่างใจร้อน

จู่ๆ ซูอี้ก็ถูกมือเล็กๆ ที่อบอุ่นกุมไว้ เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็มีความรู้สึกมั่นคงตามมา

“พี่สาม เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ พวกเขาไม่ได้รังแกพี่ใช่หรือไม่?”

ซูเฉินที่เห็นซูหว่านร้อนรนใจ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง เขายื่นมือไปปัดเส้นผมที่หลุดรุ่ยบนใบหน้าของนางไปทัดไว้ที่หลังหู

“พวกเขาไม่ได้รังแกพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ!”

“แล้วท่านพี่ได้เห็นเขาฉีกสัญญากู้ยืมด้วยตาตัวเองหรือไม่เจ้าคะ?”

นี่คือจุดสำคัญ ถ้าสัญญาไม่ถูกทำลาย เงินที่คืนไปก็ไร้ประโยชน์

ซูเฉินยังคงพยักหน้า

“เถ้าแก่จางคืนสัญญากู้ยืมให้พี่หลังจากรับเงินแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็เอาไปเผาทิ้งซะ เราไม่ติดหนี้พวกเขาแล้ว!”

แต่แค่นี้ก็ทำให้พอใจแล้ว อย่างน้อยๆ ทุกครั้งที่ไปในตัวอำเภอซูหว่านก็นึกถึงพี่ชายที่บ้านอยู่เสมอ

ที่บ้านยังมีผักอีกเยอะ ทั้งที่ซื้อเองและที่ลุงเจียงส่งมาให้ ตอนนี้มีเนื้อให้กินไม่ขาด เพิ่งจะเก็บเกี่ยวข้าวไปเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่บ้านก็ยังมีข้าวสาร นับตั้งแต่ซูหว่านมาถึง ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

ระหว่างทางออกจากเมือง ที่ประตูเมืองมีหญิงชราตาบอดคนหนึ่งกับหลานสาวกำลังขายลูกเจี๊ยบ

ลูกเจี๊ยบยี่สิบกว่าตัวอยู่ในกรงสองกรง พวกนางบอกว่าเป็นแม่ไก่ที่บ้านฟักออกมาเอง แต่พวกหลานเป็นเด็กกำพร้าและย่าก็ตาบอด ดูแลลูกเจี๊ยบได้ไม่มากขนาดนี้ เลยนำออกมาขายบางส่วน

ลูกเจี๊ยบตัวผู้ราคาตัวละสิบสองอีแปะ ลูกเจี๊ยบตัวเมียราคาตัวละสิบห้าอีแปะ

หลายคนยืนล้อมวงเลือกซื้อ และมีคนต่อรองราคากับหญิงชราด้วย คิดว่านางขายแพง ลูกเจี๊ยบยังเล็กนัก ถ้าป่วยก็เลี้ยงไม่รอด กว่าจะเลี้ยงจนโตพอที่จะกินได้ อย่างน้อยๆ ต้องใช้เวลาสามเดือนขึ้นไป และกว่าจะออกไข่ได้ก็ครึ่งปี ต้องกินอาหารเยอะมาก หลังจากการต่อรองหลายครั้ง ลูกเจี๊ยบตัวผู้จึงเหลือแปดอีแปะ และลูกเจี๊ยบตัวเมียเหลือสิบอีแปะ หญิงชราตาบอดมองไม่เห็น ส่วนหลานสาวอายุก็เพิ่งไม่กี่ขวบ จะสู้พวกเขาได้อย่างไร พวกนางแสดงสีหน้าจนปัญญา

บางคนไม่สนคำทัดทานของหญิงชรา เริ่มเลือกซื้อกันแล้ว

ซูหว่านคิดว่าที่บ้านก็ไม่ได้เลี้ยงอะไรไว้เลย ถ้าเริ่มเลี้ยงไก่สักสามสี่ตัวตั้งแต่ตอนนี้ พอตรุษจีนก็เชือดเนื้อกินได้พอดี

พอพี่ใหญ่และพี่รองจากไปแล้ว บ้านก็จะเงียบเหงา การเลี้ยงไก่สักสามสี่ตัวก็ไม่เลว

ดังนั้น ซูหว่านจึงตัดสินใจซื้อลูกเจี๊ยบสามสี่ตัว ลูกเจี๊ยบตัวผู้สองตัว ลูกเจี๊ยบตัวเมียสองตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม