เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 441

เมื่อไรที่ซูหว่านเองก็ยอมพูดกับพี่ใหญ่จนถึงขั้นยอมเล่าเรื่องที่นางไปสำนักเฟิงเย่ว์ให้พี่ใหญ่ฟังกันแล้ว

เพียงแต่ละเรื่องที่พบเจอกับอันตรายเอาไว้ เล่าแต่เพียงด้านที่ดี

ตอนนี้พี่ใหญ่ถึงได้เข้าใจแล้วว่าในตอนที่ตนไม่อยู่ที่นี่นั้น น้องสาวตัวน้อยของพวกเขาได้ถูกลักพาตัวไป

ผู้ชายคนนั้นมีนามว่าเจียงอวี้

จู่ๆ เขาก็นึกถึงรายละเอียดในอดีตบางอย่างได้ ซูจิ่งมักจะรู้สึกว่าสายตาที่เจียงอวี้มองหวานหว่านของพวกเขานั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ในตอนแรกที่เขายังไม่รู้นั้น เจียงอวี้ก็ได้แอบเล็งน้องสาวตัวน้องของพวกเขาเอาไว้แล้ว

จู่ๆ ซูจิ่งก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก ข้าเห็นเจ้าเป็นพี่น้อง เจ้ายังจะมาคิดถึงน้องสาวของข้า

ดูท่าว่าวันข้างหน้าหากได้พบเจียงอวี้อีกเขาจะต้องคัดค้านเสียหน่อยแล้ว

“ตอนนี้หวานหว่านของเราเป็นสาวแล้ว พี่ใหญ่ยังไม่ทันได้ดูแลเจ้าให้ดีเลย พูดคุยกับเจ้าไม่กี่ประโยคเจ้าก็โตเสียแล้ว”

ซูจิ่งยกมือขึ้นเช่นเดียวกับตอนที่รับซูหว่านกลับบ้านมาเมื่อตอนนั้น เขาลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน

เพียงแค่ครู่เดียวความรู้สึกของเขาก็ท่วมท้น

บางครั้งเขาก็คิดว่าโชคชะตาลิขิตชีวิตมนุษย์เช่นนี้ ให้พวกเขาสองตระกูลต้องพบพากับการนองเลือดพวกนี้

ถ้าหากตอนแรกไม่ได้ทำผิดพลาด ตอนนี้เขาคงไม่รู้สึกเสียดายว่าตนเองมีส่วนร่วมในชีวิตของนางน้อยเกินไป

ซูหว่านดีมาก ดีเหลือเกิน ดีจนเสียพี่ใหญ่อย่างเขารู้สึกละอายใจเล็กน้อย

เป็นเพราะการกลับมาของนางทำให้บ้านนี้เปลี่ยนไป ทำให้ทุกคนได้ก้าวไปบนเส้นทางที่ดีที่สุด

“พี่ใหญ่ ท่านพูดเช่นนี้เหมือนกับว่าพรุ่งนี้ข้าจะแต่งออกไปอย่างไรอย่างนั้น ข้าขอบอกท่านเลยว่าต่อให้ในอนาคตข้าแต่งออกไป ข้าจะกลับมาที่บ้านทุกวันคอยรบกวนท่านกับพี่สะใภ้ในอนาคต”

ซูหว่านเริ่มหยอกเย้าอย่างเป็นอริ

ซูจิ่งถูกเย้าเสียจนหัวเราะออกมา ซูอี้เองก็หัวเราะตามไปด้วย

“ขอแค่เจ้ายอมกลับบ้าน ไม่ว่าอย่างไรพี่ใหญ่ก็ไม่รำคาญเจ้า กลัวแต่ว่าเจ้าจะไม่ยอมกลับบ้านแล้วพวกเราจะไม่ได้เจอเจ้าบ่อยๆ จำเอาไว้ล่ะว่าพูดอะไรไว้ทำให้ได้ด้วย

หรือไม่ก็ภายภาคหน้าเจ้าถามคนในดวงใจของเจ้า ถามเขาว่ายินยอมเป็นเขยแต่งเข้ามาหรือไม่ เช่นนี้แล้วอะไรก็ว่ากันง่าย พวกเราจะได้เจอกันทุกวันแล้วก็ไม่ต้องคอยคิดถึงกันด้วย”

เพียงแต่เรื่องนี้เป็นแค่ความคิดของเขาอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น ส่วนทางด้านของแม่นางเขาเองก็ไม่รู้ว่านางคิดเช่นไร

“จะไปมีแม่นางที่ชอบที่ใดกันเล่า ไม่มีหรอก” ซูจิ่งปฏิเสธ

“พี่ใหญ่ ท่านโกหก หน้าท่านแดงหมดแล้ว รีบบอกมาเร็วว่าเป็นใคร มิเช่นนั้นคืนนี้ท่านอย่าได้คิดจะกลับห้องไปนอนเลย” จิตวิญญาณความอยากรู้อยากเห็นของซูหว่านได้ถูกจุดขึ้น

นางอยากรู้เหลือเกินว่าผู้หญิงที่ทำให้พี่ใหญ่ชอบเป็นใครกันแน่

“จริงด้วยพี่ใหญ่ ท่านบอกพวกเราหน่อยเถิด พวกเราสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” อย่าว่าแต่ซูหว่านที่สงสัย ซูอี้เองก็สงสัยเหมือนกันนะ

ซูจิ่งเห็นทั้งสองคนคาดคั้น ท่าทางอยากรู้อยากเห็นนั้นทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างจนใจ

ช่างเถอะ ช่างเถอะ คืนนี้ถ้าไม่ให้คำตอบกับพวกเขาเกรงว่าคืนนี้อย่าได้คิดจะกลับห้องไปนอนเลย

“บุตรสาวสายหลักของจวนมหาบัณฑิตที่เมืองหลวงนามว่า เสิ่นชิงหลี ข้าเคยพบกับนางอยู่สองสามครั้ง เราคุยกันถูกคอ คุณหนูสามเสิ่นถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี มีจิตใจงดงาม นางเป็นหญิงผู้มีความสามารถที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง และยังไม่มีคู่หมาย นางเป็นศิษย์ของสำนักมหาบัณฑิต ตอนนี้ข้ายังไม่คู่ควรกับนาง ครั้งแรกที่ได้พบคุณหนูสามเสิ่นนางอยู่ในวัยแรกแย้ม ส่วนข้าถูกฝ่าบาทคัดเลือกให้เป็นเจ้ากรมชลประทานที่เสวียนเหอ แค่ชั่วครู่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว

ข้ารู้ว่ามาภายในระยะเวลาไม่กี่ปีนั้นมีความหมายต่อหญิงสาววัยอย่างนางอย่างไร ข้ากลัวว่าจะทำให้นางเสียเวลา และก่อนหน้านี้มีข่าวลือในเมืองหลวงว่า จวนเซียงอ๋องมีความคิดจะสู่ขอคุณหนูสามเสิ่นมาเป็นพระชายาให้กับซื่อจื่อ ฐานะของข้ากับซื่อจื่อของเซียงอ๋องนั้นต่างกันมาก ตอนนี้มาพอนึกดูแล้วคุณหนูสามเสิ่นเกรงว่าจะได้แต่งงานเสียแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม